ความจริงครอบครัวผม พ่อ-แม่-ลูก 3 คน ไม่ได้ตั้งเป้าหมายตั้งแต่ต้นว่า เราจะอยู่ร่วมกันในครอบครัวด้วย ระบบประชาธิปไตย...
แต่ด้วยความที่ผมตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต...ด้วยการย้ายครอบครัวเป็นของตนเอง(ประการนี้ภรรยาผมยกยอไม่ขาดปาก...ด้วยไม่เชื่อว่าความเป็นลูกคนเล็กอย่างผม...จะผมกล้าออกจากความเคยชินในการเป็นเด็กน้อยของแม่....)
ที่จริงเนื่องจากความอึดอัดบางประการสำหรับธรรมชาติของ แม่ผัว-ลูกสะไภ้ ต่างหาก...555
ที่ทำให้ผมกล้าตัดสินใจที่จะแยกมาอยู่แบบครอบครัวเดี่ยว...ทิ้งชุมชนหลังวัดโคกมะตูม มาอยู่บ้านคลองอย่างไม่มีอิดออด...
การที่ต้องยืนอยู่ด้วยลำแข้งตนเอง ทำให้ผมจัดระบบบางอย่างในครอบครัวโดยอัตโนมัติ เพื่อทำให้ความสงบเรียบร้อยภายในบ้าน...ต้องมีประชาธิปไตยในบ้าน....
ลูก ๆ ผมก็ซึมซับไปโดยปริยาย การตัดสินใจทำอะไรที่เป็นเรื่องส่วนรวม...เราจึงต้องมีประชามติ....
เช่นเรื่องการรับประทานอาหารกลางวันในวันหยุด...ผมก็มักจะถามว่า..."เอ....วันนี้เราจะกินอะไรกันดีนะ..."
..."ข้าวมันไก่พังกี่ดิพ่อ..." เจ้าเติ้ลเปิดตัวด้วยความรู้สึกติดใจในรสชาติร้านข้าวมันไก่ประจำจังหวัด จนต้องกินทุกสัปดาห์..
..."เตี๋ยววินดีกว่ามั้งพ่อ...ไม่ได้กินนานละ" เจ้าตอมนึกถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่แถบบ้านย่า ที่ไม่ต้องมีเฟรนด์ชาย...แต่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า...
..."น้องเมตามใจคุณพ่อละกัน..." ลูกสาวคนเล็กที่เป็นด่านสกัดกั้นทุกคนที่ไม่เห็นด้วยกับพ่อ....
..."ง้นพ่อว่า...เราไปกินไก่ย่างลูกสาวตาแป๊ะกันมั้ย..." ผมเลือกร้านที่อร่อยและถูกที่สุดในความเห็นผม แล้วหันไปยิ้มหวานให้ภรรยา....
.."แม่ว่า...ไปกินส้มตำยัยตุ้ยดีกว่า..." ภรรยาผมพูดขึ้น ทั้ง ๆ ที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานบ้าน...
..."ก็แค่นั้นแหละพ่อ....ที่จริงถามแม่ก่อนก็สิ้นเรื่อง.." ลูกชายพูดขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน...
สรุปประชาธิปไตยในบ้าน...พ่อ 1 เสียง... พี่ตอม 1 เสียง... พี่เติ้ล 1 เสียง... น้องเม 1 เสียง... แม่คนเดียว 5 เสียง...ตั้งแต่ออกเสียงกันมาไม่เคยเลยสักครั้งที่แม่แพ้...55555
คุณโยมขำ...
เข้ามาอ่าน ตาหลกมากๆ
เพราะเหตุอะไร รู้มั้ย...
พอเห็นชื่อเรื่อง ก็คาดคะเนไปถึงข้อสรุปเลย..
ปรากฎว่า ถูกต้อง
5 5 5
เจริญพร
ชอบใจมากที่นายขำมีชะตากรรมเหมือนผมเลย แถมมีลูกชายสองลูกสาวหนึ่งเหมือนกัน แต่คิดว่าไอ้แบบเราคงยังมีอีกเยอะน่ะ ....ฮา
นึกไม่ถึงครับ...ว่าทั่นรองนายกฯจะตกที่นั่งเดียวกับผม...555
ยินดีต้อนรับสู่ชุมชนโกทูโนว์ครับ(ทำยังกะเป็นเจ้าของบ้านเชียว...อิอิ)คุณหมอสุธี(คนชอบวิ่ง)...
ผมก็เริ่มวิ่งได้ 2 สัปดาห์ครับ...หลังจากที่รู้ตัวเองว่า...แทบจะมองไม่เห็นหัวแม่เท้าตนเองซะแล้ว...555
รวมทั้งต้องซิทอัฟไม่ต่ำกว่าวันละ 50 ...อยากพิสูจน์ตัวเองเหมือนกันว่า...สมัยหนุ่ม ๆ เราเคยหุ่นดีขนาดไหน...แล้วเคยเยอะเย้ยพวกพี่ ๆ ว่าปล่อยให้ลงพุงได้ไง...(ไม่รู้เป็นไง...ว่าให้ใคร...เข้าตัวเองทุกที...555)
อันที่จริงผมเริ่มสังเกตุว่า...สังขารเริ่มส่ออาการไม่ดีแล้วอ่ะครับคุณหมอ...มีอาการเจ็บแปลบที่หลัง...แล้วเวลานอนท่าเดียวนาน ๆ มีปัญหาปวดเมื่อย(หลายคนก็เลยไปหาหมอนวด...อิอิ) กลับมาออกกำลังกาย 2 สัปดาห์...รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยครับ....
คุณสุวรรณาให้กำลังจัยแบบนี้....สู้ตายครับ....555