ฝนตกหนักและนานที่สุด เป็นครั้งแรกของเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นฤดูฝนอย่างสมบูรณ์ แต่ที่ผ่านมา ๒ อาทิตย์ ฝนกลับตกกระท่อนกระแท่นเหลือเกิน
การรอคอยฝนอย่างเนิ่นนานกลายเป็นความเคยชิน ที่ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ ใช้เวลาที่มีอยู่รดน้ำต้นไม้ สร้างความชุ่มชื้นให้สิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและสร้างความสุขให้หัวใจแก่คนอย่างผม ที่ต้องทำหน้าที่ในวันหยุด ความต่อเนื่องในงานแบบนี้ ต้องคุ้นเคยถึงจะทำได้
ตอนแรกก็ต้องอาศัยความอดทน และตอนต่อมาก็ต้องอดทนหนักมากยื่งขึ้น ความอดทนสะสมมากพอจนรู้สึกชิน ไม่ต้องมีข้อแม้ ไม่ต้องมีเงื่อนไขใดๆ ลงมือทำงานได้ทันที
ฝนที่ตกลงมาในวันนี้ เหมือนเข้าใจในแก่นแท้ของความรู้สึก ที่ห่วงใยและไม่ทอดทิ้งกัน ไม่ปล่อยคนทำงานไว้ตามลำพัง ฝนจากฟ้าไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง
คงเหมือนโรงเรียนหลังเล็กแห่งนี้ ที่อยากพิสูจน์ทุกคนที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าเขาและเธอคนนั้นจะเป็นผู้บริหารหรือครูก็ตาม เช่นเดียวกับกาลเวลา ที่รอคอยการพิสูจน์ตัวตนของผู้คน
คำถามมากมายที่อยู่มาได้อย่างไร? ผมตอบตัวเองและคนอื่นที่อยากรู้ หลายคนคาดไม่ถึงการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่ได้อยู่ร่วมตลอดระยะเวลาของการเดินทาง
แต่สำหรับผม ที่ขับเคลื่อนด้วยสมองและสองมือ ไม่เคยที่จะปล่อยปละละเลยให้โรงเรียนเงียบเหงา จนรู้สึกได้ว่าโรงเรียนก็มีชีวิตในทุกๆวัน
ในวันที่ผมสดชื่นมีชีวิตชีวา ดูเหมือนว่าโรงเรียนก็สดใสและให้รอยยิ้มที่งดงามเช่นเดียวกัน มองตาก็รู้ใจ ก่อนที่จะแยกย้ายไปทำหน้าที่ที่พึ่งพากันไป ในวันหยุดราชการ
ไม่หลงเหลืองานหนักหนาสาหัสอีกแล้ว จึงดูเหมือนว่าได้มาอยู่เป็นเพื่อนโรงเรียนเสียมากกว่า เพื่อย้อนรำลึกเรื่องราวในอดีตไปด้วยกัน ตามประสาคนที่มีความรักความผูกพันอย่างจริงใจ
โรงเรียนมีเสน่ห์ตั้งแต่สัมผัสแรกที่ได้เห็น ยิ่งรู้จักก็ยิ่งรัก แม้ว่าผู้ปกครองบางคนจะไม่เห็นด้วย มองโรงเรียนด้วยสายตาดูแคลน จึงขับรถผ่านหน้าโรงเรียน เพื่อพาลูกไปเรียนที่อื่น
ผมไม่เคยถือสาหาความ และไม่เคยเสียเวลาหาเหตุผล นอกจากคิดวิเคราะห์ว่าทำอย่างไรจะให้เด็กหมู่บ้านอื่นมาเรียนที่เราบ้าง?
การเรียนการสอนคือหัวใจสำคัญ แม้จะเป็นเรื่องยากก็ต้องเพียรพยายาม เพื่อก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรค หนึ่งในนั้นของปัญหาก็คือแหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม
เหนื่อยยากนักก็ต้องสู้ บางคนบอกว่าจะอยู่ไปทำไม ยังไงก็ไม่ก้าวหน้าเดี๋ยวเขาก็จะยุบโรงเรียนแล้ว ความมักง่ายที่พวกเขาคิด ผมไม่เคยเชื่อและไม่รู้สึกสั่นไหวในหัวใจเลยแม้แต่น้อย
เพราะใจผมแข็งแกร่งพอ มันทนได้ในทุกสภาวะ ถ้าได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของโรงเรียนเล็กๆ
หลายคนถูกกล่าวขานว่าก้าวหน้าในชีวิต เมื่อย้ายไปอยู่โรงเรียนขนาดใหญ่ ผมถูกมองว่าย่ำอยู่กับที่ ไม่มีที่จะไป แต่ผมไม่เคยแคร์สายตาผู้ใด หยิ่ง ทะนง และเป็นตัวของตัวเอง
ภูมิใจอย่างเปี่ยมล้น ที่อดทนต่อสู้และฟันฝ่า นำพาโรงเรียนมาถึงจุดที่พร้อมส่งมอบให้คนรุ่นต่อไป ได้สร้างสรรค์สิ่งดีมีประโยชน์ ให้เกิดขึ้นภายในบ้านหลังเล็กนี้
เวลาที่อดทนอย่างยาวยาน แต่ผมเหมือนผ่านมาเมื่อวันวานนี่เอง มันรู้สึกรวดเร็วเมื่อผมเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวผม ณ เวลานี้ หรือนี่คือดอกผลที่โรงเรียนมอบให้ผม ดอกผลของความอดทนในชีวิตของ ผอ.
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๖
ยินดีกับรางวัลครุฑทองคำด้วยครับ