ลูกอ๊อดในบ่อปลา
เปิดภาคเรียนปีการศึกษา ๒๕๕๔ ได้ราวเดือนเศษ มีนักวิชาการเข้ามาเยี่ยมชมบ่อปลาปูนซีเมนต์ สี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้างยาว ๓ คูณ ๕ เมตร มีทางเดินโดยรอบ ข้างๆบ่อปลูกไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักสวนครัว รั้วกินได้ และปลูกต้นอัญชันหลายต้น ทำร้านให้เลื้อยขึ้น ปกคลุมเป็นร่มเงาให้บ่อปลา ตอนนี้กำลังออกดอกสีน้ำเงินงามสะพรั่งดีจริงๆ
ในบ่อปลาที่เคยเลี้ยงปลาดุก ปีนี้เปลี่ยนเป็นปลาทับทิม ลำตัวออกสีส้มๆปนสีขาว เหมือนปลาสวยงามทั่วไป ที่ต้องเปลี่ยนชนิดของปลาที่เลี้ยง ก็เนื่องมาจาก ปลาดุกกินจุมาก ต้องเปลี่ยนไปเลี้ยงเพียง ๑๐๐ ตัว ในบ่อเล็ก (ถังน้ำฝน) หลังโรงเรียน บ่อปลาทับทิมต้องการให้นักเรียนเลี้ยงไว้ดูเล่นเพื่อความเพลิดเพลินเจริญใจ แต่ต้องช่วยครูดูแลทำความสะอาดบ้าง ให้อาหารบ้าง และรดน้ำต้นไม่้รอบๆบ่อ ตลอดจนต้องช่วยกันรื้อผักบุ้งออก ที่ตอนแรกนำมาให้ปลากิน ตอนนี้ผักบุ้งงอกงามเต็มบ่อมากเกินไป นักเรียนก็ช่วยกันแยกออกไปทิ้งลงสระน้ำของโรงเรียนบ้าง
นักวิชาการ และผู้รู้ทั้งหลายที่มาเยี่ยมชม ต่างแนะนำคล้ายกันว่าบ่อปลาทับทิมนี้ สามารถบูรณาการการสอน เรื่องระบบนิเวศน์ได้ ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งพิชและสัตว์ สามารถพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน สิ่งที่ช่วยให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ ต้องอาศัยปัจจัยแวดล้อม ทั้งน้ำ อากาศ และอาหาร ในสภาวะที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป พอเพียงและสมดุล และการดำรงชีวิตแบบ "ห่วงโซ่อาหาร" ก็สามารถมองเห็นและเข้าใจได้ในบ่อปลาทับทิมแห่งนี้
ผู้เขียนได้แต่ฟังเพลิน และคิดตามอย่างอัศจรรย์ใจ เหมือนจะอุทานในใจด้วยว่า โอ้โฮ บ่อปลาเล็กๆอย่างนี้ ก็ให้คุณูประการมากมายเช่นนี้เชียวหรือ
สัปดาห์ต่อมา ผมแนะนำให้ครูทุกคน นำเด็กไปเรียนรู้ยังแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน ไปชมบ่อปลาพร้อมกับเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ไปด้วย ตกเย็นมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งครูและนักเรียนดังเซ็งแซ่ ว่ามีลูกอ๊อดตัวดำหัวใหญ่เต็มบ่อปลานับล้านตัว เป็นลูกอ๊อดของกบแน่ๆ โรงเรียนจะได้เลี้ยงกบด้วย กบราคาแพงมาก โรงเรียนจะมีรายได้ดี โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย
ผมเก็บอาการตื่นเต้นไว้ในใจ พอนักเรียนกลับบ้านหมดแล้ว ผมไปสำรวจบ่อปลา พบเห็นลูกอ๊อดมากมายจริงๆ น่าตกใจ ลูกกบหรือลูกอะไรกันแน่ เมื่อแหวกกอผักบุ้งดู กลับพบคางคกตัวใหญ่ ๒ - ๓ ตัว ยืนนิ่ง ลำตัวอ้วนกลม บ่งบอกความอุดมสมบูรณ์ ผมก็คิดไปว่า หรือว่าแม่กบ อาศัยอยู่ในน้ำ ไม่โผล่มาให้เห็น
สองสัปดาห์ต่อมา ลูกอ๊อด สีดำ หายหน้าหายตาไปราว ๓ ใน ๔ ส่วน ปลาทับทิมเริ่มโตขื้น และยังไม่เห็นลูกกบเลยสักตัว และแล้ว มาต้นเดือนสิงหาคมนี่เอง ก็เกิดลูกอ๊อดใบบ่อปลาครั้งใหญ่ มีมากกว่าเดิมด้วย ชนิดมืดฟ้ามัวดินทีเดียวเชียวผมต้องให้ผู้เชี่ยวชาญในหมู่บ้านมาดู ก็เลยได้คำตอบว่า ลูกอ๊อดคางคกแน่นอน คราวนี้ก็เดือดร้อนคุณครู ต้องช่วยกันลุยลงไปในบ่อ ตักลูกอ๊อดไปเทลงสระใหญ่ ผมติดประชุม เลยไม่ได้อยู่ดู กลับมาเห็นลูกอ๊อดเหลือน้อยนิดก็เบาใจ ที่มันไม่ทำลายทัศนียภาพไปมากกว่านี้ ส่วนลูกอ๊อดที่ย้ายลงสระ ข่าวว่าเป็นอาหารปลาไปเรียบร้อย
ตกลงว่าโรงเรียนไม่ได้เลี้ยงกบเสียแล้ว ไม่ได้ขายกบอย่างที่คิด ส่วนคางคกตัวใหญ่หายหน้าไป มีลูกคางคกกระโดดโลดเต้นขอบบ่ออยู่ ๔-๕ ตัว ตอนนี้ มีผู้รู้แนะนำอีกว่าปลาทับทิมเมื่อโตมากแล้ว ยังไงก็ไม่กินลูกอ๊อด ควรเลี้ยงปลาดุกแทน เพราะปลาดุก จะกินลูกอ๊อดไม่เหลือหรอ เป็นอาหารอย่างดีของปลาดุก จะช่วยลดต้นทุนไปได้เยอะ
ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร เพราะการเลี้ยงปลาทับทิมก็เดินทางมาไกลพอสมควรและปลาก็เริ่มใหญ่แล้ว..สงสัยต้องอดทนไปสักพัก
เรื่องเล่าจากโรงเรียนเล็ก www.bannongphue.com