ทำงานใหญ่อย่าใช้อารมณ์..
คงต้องเอาไว้สอนลูกสอนหลาน เพราะที่ผ่านมาผมใช้บ่อยและไม่เกิดประโยชน์ ตอนนี้เกษียณแล้วก็ได้แต่คิดสะกิดใจเอาไว้เป็นบทเรียน กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
การใช้อารมณ์และความรู้สึกหลายต่อหลายครั้ง ไม่เคยจดจำ เท่ากับครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไม่เคยลืมเลือน วันนั้น...คณะเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจะมาที่โรงเรียน
ก่อนหน้านั้นสัก ๓ วัน สพฐ.ประสานข้อมูลมาที่ผอ.เขตฯ เพื่อให้เขตยืนยันตัวตนของผอ.รร. ว่ามีคนที่ชื่อ”ชยันต์”หรือไม่?
ผอ.เขตฯที่ไม่เคยสนใจบ้านหนองผืออยู่แล้ว รีบโทรศัพท์มาที่ผม ถามด้วยคำถามใหญ่ๆ ประมาณว่า “คุณไปทำอะไรไว้ที่ไหน ทำเรื่องไปขออะไรที่สำนักพระราชวัง เขาถึงถามผมเกี่ยวกับคุณ...”
ผมก็เลยคิดในใจ..ที่ผ่านมา...เราคงไม่ได้อยู่ในสายตาเจ้านายคนนี้เลย...
ตอนสายของวันรุ่งขึ้น ประมาณแปดโมง ผมโทรไปบอกเจ้านาย”ผอ.ครับ..สำนักพระราชวังจะมาวันที่…เวลา…ขณะนี้กำหนดการที่แน่นอนออกแล้ว เทศบาลเลาขวัญจะมาช่วยจัดสถานที่ครับ”
“ทำไมคุณไม่รีบบอกผม มาบอกอะไรตอนนี้ มัวแต่อมพะนำอยู่ได้”
เท่านั้นแหละ อารมณ์ขึ้นเลย ผมลืมไปเลยว่าคนที่พูดมีฐานะเป็นเจ้านาย รู้แต่ว่าวันรุ่งขึ้นเขาต้องย้ายไปดำรงตำแหน่งใหม่ เมื่อพูดแบบนี้ผมจะเกรงใจไปทำไม? เลยสวนไปในทันที...
“ผอ.ครับ..ผมเคยทำงานสำนักงานมาก่อน จึงรู้ว่าเวลาไหนเป็นช่วงเวลาเดินทางของเจ้านาย และสำนักพระราชวังสั่งไว้ว่าให้เรียบง่าย ไม่ให้กระโตกกระตากไป ที่สำคัญกำหนดการมันก็เพิ่งจะลงตัว การรายงานท่านทั้งทีมันต้องครบถ้วนสมบูรณ์ มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นเว่อและจุกจิกรบกวนเจ้านายด้วย กว่าจะโทรหาท่าน ผมคิดแล้วคิดอีก กรุณาอย่าพูดแบบนี้กับผม”
จริงๆก็อยากจะบอกว่า..ท่านก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไรนัก เพราะท่านจะย้ายแล้ว
ความรู้สึกสะใจที่ได้พูดออกไปแบบนั้น เป็นอารมณ์ล้วนๆ ที่ไม่เหลือความเกรงใจแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะ”เจ้านาย”คนนี้ ก็ไม่ใช่คนดีในดวงใจผมอยู่แล้ว
ทุกวันนี้..ไม่เคยคิดเสียใจที่พูดออกไปแบบนั้น ในวันงานมีผู้แทนพระองค์มา จึงมีแต่ รองผอ.เขตฯ และคนขับรถ...ซึ่งคนอย่างผมก็ไม่เคยเสียความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย
ผมคิดถึงเรื่องนี้ สืบเนื่องมาจาก “วันครู”ที่ผ่านมา ช่วงเวลาสำคัญหลังจากที่ครูกล่าวคำปฏิญาณตนแล้ว ต้องมีการเปิดเพลง”สรรเสริญพระบารมี”
พอดีคนที่กำกับเครื่องเสียงเดินออกมาจากจุดนั้น เจ้าหน้าที่เครื่องเสียงซึ่งเข้าใจว่าเป็นชาวบ้าน ก็ไม่มีกำหนดการอยู่ในมือ จึงไม่ทราบว่าจะเปิดเพลงฯตอนไหน....
บรรยากาศ ณ เวลานั้นจึงเงียบไปราว ๑๐ วินาที พิธีกรจึงพูดว่า..”เปิดเพลง..”.เจ้าของเครื่องเสียงออกอาการอารมณ์เสีย..รีบหาเพลง..พร้อมกับพูดดังๆว่า...”แล้วก็ไม่บอก..”
ผมคิดในใจ..เรื่องแบบนี้คุณก็ต้องถามและเรียนรู้..จะปัดความรับผิดชอบและใช้อารมณ์มันก็คงไม่งาม
ตอนที่ผมเป็นศึกษานิเทศก์ หัวหน้าฯให้ผมเป็นแม่งานวันครู ผมอาสากำกับพวกเครื่องเสียงเอง แยกเทปเพลงไว้เป็นตลับ ขนาดนั้น เขาก็ยังใส่ผิดด้าน...จากมหาฤกษ์ กลายเป็นท่าฉลอมมหาชัยไปโน่น แต่ผมก็ไม่ได้โกรธพวกเขาแต่อย่างใด?
ท้ายที่สุดของงานวันครู..ท่านผอ.เขตมอบเกียรติบัตรดีเด่น แก่ผู้บริหารและครูผู้ทรงเกียรตินับร้อยคน แต่..ในห้องประชุมใหญ่ เหลือครูผู้เป็นสักขีพยานไม่ถึงครึ่ง ดูโหรงเหรงและลุกเดินกันขวักไขว่
ผมนั่งอยู่แถวหน้า รอปรบมือให้ครูที่รับคนสุดท้าย มองใบหน้าผอ.เขตที่นิ่งและเรียบเฉย สุขุมเยือกเย็น…
สมแล้วที่ท่านเป็นผู้ใหญ่ มีคุณธรรมของพรมวิหาร ผ่านงานใหญ่ได้ด้วยอารมณ์ที่แจ่มใสและมั่นคง แต่ปีหน้าถ้ายังเป็นแบบนี้อีก...การใช้อารมณ์บ้างก็น่าจะดี (ฮา)..จะทำให้งานวันครูดูศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๙ มกราคม ๒๕๖๗
ไม่มีความเห็น