จารีตประเพณีภาคเหนือ


เทศกาลเชียงใหม่ ประเพณีภาคเหนือ

จารีตประเพณีภาคเหนือ ทำความเข้าใจขนบประเพณีที่ดีเลิศของภาคเหนือ ทั้งยังการวัฒนธรรม พิธีบูชา ความเลื่อมใส ภาษา การแต่งกาย การละเล่นประจำถิ่น รวมทั้งของกิน อื่นๆอีกมากมาย นับเป็นกิจกรรมที่มีการปฏิบัติสืบไปกันมาอย่างนาน

ภาคเหนือ หรือล้านนา ดินแดนที่ความมากมายหลายทางจารีตและก็วัฒนธรรมประเพณีไทยที่มีความน่าดึงดูดใจมากพอๆกับภาคอื่นของไทย เพราะว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มนตร์ขลัง เชิญให้น่าขึ้นไปสัมผัสความสวยสดงดงามกลุ่มนี้ยิ่งนัก ส่วนบรรดานักเดินทางที่ไปเยี่ยมดู ต่างก็ชอบใจกับสถานที่เที่ยวมากไม่น้อยเลยทีเดียวและก็ความมีน้ำใจอันล้นเหลือของคนเหนือ โดยเหตุนี้ผู้ใดกันแน่ที่ยังไม่มีโอกาสไปเยี่ยมสักหนึ่งครั้งคงจะจะต้องไปแล้วล่ะจ้ะ ว่าแล้วพวกเราก็ขอนำประวัติความเป็นมานิดๆหน่อยๆพร้อมเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรมรวมทั้งจารีตของภาคเหนือมาฝากกัน เผื่อเป็นไกด์ให้สหายๆได้เล่าเรียนหาข้อมูลก่อนที่จะเดินทางไปเยี่ยมภาคเหนืออย่างไรล่ะ

สำหรับภาคเหนือของไทย มีลักษณะทำเลที่ตั้งเป็นเขตภูเขาสลับที่ราบระหว่างเทือกเขา ซึ่งผู้คนอาศัยอย่างกระจายตัวแบ่งกันเป็นกรุ๊ป บางทีอาจเรียกว่ากรุ๊ปวัฒนธรรมล้านนา โดยจะมีวิถีชีวิตรวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมเป็นของตัวเองมีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล แต่ว่าส่วนประกอบที่สำคัญก็ยังมีความคล้ายกันอยู่มากมาย เป็นต้นว่า สำเนียงการพูด การขับขาน รำ การดำเนินชีวิตแบบเกษตรกร การเชื่อถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวมทั้งวิญญาณของบรรพบุรุษ ความศรัทธาในศาสนาพุทธแบบทักษิณนิกาย การแสดงออกของความคิดแล้วก็อารมณ์โดยผ่านภาษาวรรณกรรม ดนตรี และก็งานหัตถกรรมต่อให้การจัดงานกินเลี้ยงสถานที่สำคัญที่มีมาแต่ว่าโบราณ

เดิมวัฒนธรรมคนกรุงหรือคนล้านนา มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองนพบุรีศรีนครอิงค์จังหวัดเชียงใหม่ ตามชื่อของอาณาจักรที่มีการดูแลแบบนครรัฐ ที่ตั้งขึ้นในพุทธศักราชที่ 18 โดยพญาเม็งราย

เนื่องด้วยพื้นที่โดยมากของภาคเหนือเป็นภูเขาขาสูงสลับกับแอ่งซอกเขา ทำให้ในช่วงฤดูหนาวมีอากาศหนาวจัด ในช่วงฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิค่อนข้างจะสูง เพราะเหตุว่าอยู่ไกลห่างจากสมุทร มีป่าดงมากมายก็เลยนับว่าเป็นแหล่งเกิดของแม่น้ำที่สำคัญหลายสาย เป็นต้นว่า แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม รวมทั้งแม่น้ำน่าน มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 93,690.85 ตารางกิโลเมตร แล้วก็เมื่อเทียบเคียงขนาดภาคเหนือจะมีพื้นที่ใกล้เคียงกับประเทศฮังการีสูงที่สุด แต่ว่าจะมีขนาดเล็กกว่าประเทศเกาหลีใต้น้อย

ดังนี้ภาคเหนือมีทั้งปวง 17 จังหวัด แบ่งได้ ภาคเหนือตอนบน แล้วก็ภาคเหนือตอนล่าง ดังต่อไปนี้

ภาคเหนือ ตอนบน มีทั้งผอง 9 จังหวัด เช่น

1. จังหวัดเชียงราย
2. จังหวัดเชียงใหม่
3. จังหวัดน่าน
4. จังหวัดพะเยา
5. จังหวัดแพร่
6. จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7. จังหวัดลำปาง
8. จังหวัดลำพูน
9. จังหวัดอุตรดิตถ์

ภาคเหนือ ตอนล่าง มีทั้งสิ้น 8 จังหวัด ดังเช่น

1. จังหวัดตาก
2. จังหวัดพิษณุโลก
3. จังหวัดสุโขทัย
4. จังหวัดเพชรบูรณ์
5. จังหวัดพิจิตร
6. จังหวัดกำแพงเพชร
7. จังหวัดนครสวรรค์
8. จังหวัดอุทัยธานี

วัฒนธรรมในแคว้นของภาคเหนือ แบ่งออกได้ ดังต่อไปนี้

วัฒนธรรมทางภาษาพื้นบ้าน

คนประเทศไทยทางภาคเหนือมีภาษาล้านนาที่นุ่มนวลเพราะ ซึ่งมีภาษาพูดแล้วก็ภาษาสุภาพที่เรียกว่า "คำเมือง" ของภาคเหนือเอง โดยการพูดจะมีสำเนียงที่ต่างๆนาๆตามพื้นที่ เดี๋ยวนี้ยังคงใช้บอกสื่อสารกัน

วัฒนธรรมการแต่งกาย

การแต่งกายพื้นบ้านของภาคเหนือมีลักษณะนานับประการตามเชื้อชาติของมวลชนคนกรุง เพราะเหตุว่าผู้คนมากมายเชื้อสายอาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งแสดงเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น

- หญิงคนเหนือจะนุ่งผ้านุ่ง หรือผ้าถุง มีความยาวแทบถึงตาตุ่ม ซึ่งนิยมนุ่งทั้งยังสาวและก็คนชรา ผ้าถุงจะมีความวิจิตรบรรจง สวยสดงดงาม ตีนผ้าซิ่นจะมีลวดลายสวยสดงดงาม ส่วนเสื้อจะเป็นเสื้อคอกลม มีชีวิตชีวา ลวดลายงาม บางทีอาจคลุมสไบทับ รวมทั้งเกล้าผม

- เพศชายนิยมนุ่งนุ่งกางเกงที่มีขายาวลักษณะแบบกางเกงที่มีขายาวแบบ 3 ส่วน เรียกชินปากว่า "เตี่ยว" "เตี่ยวสะดอ" หรือ "เตี่ยวกี" ทำมาจากผ้าฝ้าย ย้อมสีน้ำเงินหรือสีดำ แล้วก็ใส่เสื้อผ้าฝ้ายคอกลมแขนสั้น แบบผ่าอก กระดุม 5 เม็ด สีน้ำเงินหรือสีดำ ที่เรียกว่า เสื้อม่อฮ่อม ชุดนี้ใส่เวลาทำงาน หรือคอจีนแขนยาว อาจมีผ้าคาดเอว ผ้าพาดไหล่ รวมทั้งมีผ้าพันหัว

ราษฎรบางที่ใส่เสื้อเสื้อม่อฮ่อม นุ่งกางเกง สามส่วน แล้วก็มีผ้าคาดเอว เครื่องเพชรพลอยชอบเป็นเครื่องเงินรวมทั้งเครื่องทองหยอง

ผ้าพื้นเมืองของภาคเหนือ

+ ผ้าฝ้ายลายปลาเสือโคน จังหวัดนครสวรรค์
+ ผ้าไหมลายเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
+ ผ้าพื้นเมืองเชียงแสน ลายดอกขอเครือ (เกี่ยวขอ) จังหวัดเชียงราย
+ ผ้าตีนจก ลายเชียงแสน หงส์บี้ จังหวัดเชียงใหม่
+ ผ้าฝ้ายลายดอกปีกค้างคาว จังหวัดตาก
+ ผ้าไหมลายน้ำไหล จังหวัดน่าน
+ ผ้าฝ้ายลายนกกระจิบ จังหวัดพิจิตร
+ ผ้าฝ้ายมัดหมี่ลายดอกบีบ จังหวัดพิษณุโลก
+ ผ้าหม้อห้อม จังหวัดแพร่

วัฒนธรรมการกิน

คนเหนือมีวัฒนธรรมการกินคล้ายกับคนอีสานหมายถึงรับประทานข้าวเหนียวและก็ปลาแดก ซึ่งภาษาเหนือเรียกว่า "ข้าวนิ่ง" แล้วก็ "ฮ้า" ส่วนวิธีการประกอบอาหารของภาคเหนือจะนิยมการต้ม ปิ้ง แกง หมก ไม่นิยมใช้น้ำมัน ส่วนของกินลือชื่อเรียกว่าหากได้ท่องเที่ยวจะต้องไปลิ้มรส ดังเช่นว่า น้ำพริกชายหนุ่ม, น้ำพริกอ่อง, น้ำพริกน้ำปู, ไส้อั่ว, แกงโฮะ, แกงฮังเล, แคบหมู, ผักกาดหน้าจอ ลาบหมู, ลาบเนื้อ, จิ้นส้ม (แหนม), ข้าวตรอก แล้วก็ขนมจีนน้ำงู ฯลฯ

ถ้าเกิดอยากทราบของกินรสอร่อยของคนเหนือให้มากยิ่งกว่านี้ สามารถรับบทบาทเพลง "ของกิ๋นชาวเมือง" ที่ร้องเพลงโดย คุณจรัล มนัสเพ็ชร ที่บางทีอาจชักชวนให้คนฟังคนหิวกระทั่งน้ำลายไหลเลยล่ะ

นอกเหนือจากนี้คนเหนือถูกใจรับประทานหมากแล้วก็อมเมี่ยง โดยนำใบเมียงมองที่เป็นส่วนใบอ่อนมาหมักให้มีรสเปรี้ยวอมฝาด เมื่อหมักได้ช่วงเวลาที่ปรารถนา จะนำใบเมี่ยงมาผสมเกลือเม็ด หรือน้ำตาล สุดแต่ความชื่นชอบ ซึ่งนอกเหนือจากการอมเมี่ยงแล้ว คนล้านนาโบราณมีความชื่นชอบดูดบุหรี่ที่มวนด้วยใบกล้วยกล้วยมวนหนึ่งขนาดเท่านิ้วมือ และก็ยาวเกือบจะคืบ ราษฎรเรียกจะเรียกยาสูบจำพวกนี้ว่า ขี้โย หรือ ยาสูบขี้โย ที่นิยมดูดกันมากมายบางทีอาจเพราะว่าอากาศหนาวเย็น เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น

วัฒนธรรมที่เกี่ยวกับศาสนา-ความเชื่อถือ

ชาวล้านนามีความสัมพันธ์อยู่กับการเชื่อถือผีซึ่งมั่นใจว่ามีสิ่งกระตุ้นลับให้ความรักษาปกป้องคุ้มครองอยู่ ที่สามารถพบเจอได้จากการดำรงชีวิตทุกวัน ดังเช่น เมื่อในขณะที่จำต้องเข้าป่าหรือจำต้องค้างค้างอยู่ในป่า จะนิยมแจ้งรวมทั้งขอเจ้าที่เจ้าทาง-เจ้าทางอยู่เป็นประจำ แล้วก็เมื่อในตอนที่ทานข้าวในป่าจะแบ่งของกินนิดหน่อยให้เจ้าที่เจ้าทางอีกด้วย ด้วยเหมือนกัน ซึ่งพวกนี้ทำให้เห็นว่าวิถีชีวิตที่ยังคงผูกผันอยู่กับการเชื่อถือผีสาง จัดหมวดหมู่ ดังต่อไปนี้

+ ผีบรรพบุรุษ มีบทบาทคุ้มครองป้องกันญาติแล้วก็ครอบครัว
+ ผีป้องกัน หรือผีเจ้าที่เจ้าทาง มีบทบาทคุ้มครองปกป้องบ้านเรือนรวมทั้งชุมชน
+ ผีขุนน้ำ มีบทบาทให้น้ำแก่นา
+ ผีฝาย มีบทบาทป้องกันเมืองฝาย
+ ผีสบน้ำ หรือผีปากน้ำ มีบทบาทป้องกันรอบๆที่แม่น้ำสองสายมาบรรสิ้นสุดกัน
+ ผีวิญญาณประจำข้าว เรียกว่า เจ้าแม่โพสพ
+ ผีวิญญาณประจำแผ่นดิน เรียกว่า เจ้าแม่ที่ดิน

ดังนี้ชาวล้านนาจะมีการเลี้ยงผีบรรพบุรุษ ในตอนระหว่างเดือน 4 เหนือเป็ง (เดือนมกราคม) จนกระทั่ง 8 เหนือ (พ.ค.) ดังเช่น ที่อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา จะมีการเลี้ยงผีเสื้อบ้านเสื้อเมือง ซึ่งเป็นผีบรรพ ชายของชาวไทลื้อ เพียงพอต่อจากนี้อีกไม่นานก็จะมีการเลี้ยงผีลัวะ หรือจารีตประเพณีบูชาเสาอินทขิล ซึ่งเป็นจารีตดั้งเดิมของคนกรุง ไม่นับรวมทั้งการ เลี้ยงผีมด ผีเม็ง และก็การเลี้ยงผีปู่แสะคุณย่าแสะของ ชาวลั๊วะ ซึ่งจะทยอยทำกันหลังจากนี้

ส่วนตอนกึ่งกลางหน้าร้อนจะมีการลงเจ้าเข้าเจ้าเข้าทรงตามหมู่บ้านต่างๆอาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากความศรัทธาสำนักงานลงเจ้าเป็นการพบปะสนทนากับผีบรรพบุรุษ ซึ่งในปีหนึ่งจะมีการลงเจ้าหนึ่งครั้ง แล้วก็จะฉวยโอกาสประกอบพิธีรดน้ำดำหัวผีบรรพบุรุษไปด้วย ยังมีพิธีการเลี้ยง "ผีมดผีเม็ง" ที่จัดขึ้นครั้งเดียวในหนึ่งปี โดยต้องหาเวลายามที่สมควร ก่อนวันเข้าพรรษา จะประกอบพิธีเชิญผีเม็งมาลง เพื่อขอใช้ช่วยปกปักษ์รักษา ปกป้องราษฎรที่ป่วย แล้วก็หาดนตรีเพื่อเพิ่ม

แม้กระนั้นคนล้านนามีความเชื่อสำหรับเพื่อการเลี้ยงผีเป็นพิธีบูชาที่สำคัญ ถึงแม้การดำรงชีวิตของจะราบรื่นไม่ประสบพบเจอกับปัญหาใด แต่ว่าก็ยังไม่ลืมเลือนบรรพบุรุษที่เคยช่วยเหลือให้มีชีวิตที่ธรรมดาสุขมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ยังคงเจอเรือน เล็กๆข้างหลังเก่าตั้งอยู่กึ่งกลางหมู่บ้านเสมอ หรือเรียกว่า "หอพักพระภูมิประจำหมู่บ้าน" เมื่อเวลาเดินทางไปยังหมู่บ้านต่างๆในบ้านนอก ความศรัทธาดังกล่าวข้างต้นก็เลยทำให้ขนบธรรมเนียมประเพณี จารีต รวมทั้งพิธีการต่างๆของคนเหนือ ยกตัวอย่างเช่น คนเฒ่าคนแก่คนเหนือ (บิดาอุ๊ยตาย-แม่อุ๊ยตาย) เมื่อไปวัดฟัง ธรรมก็จะประกอบพิธีเลี้ยงผีหมายถึงหาของคาว-หวานบวงสรวง บวงสรวงผีปู่ย่าด้วย ถึงแม้ปัจจุบันนี้ในเขตเมืองของภาคเหนือจะมีการเชื่อถือผีที่บางทีอาจเปลี่ยนแล้วก็เหลือลดน้อยลง แม้กระนั้นอย่างไรก็แล้วแต่ประชาชนในบ้านนอกยังคงมีการปฏิบัติกันอยู่

จารีตของภาคเหนือ เป็นผลมาจากการประสมประสานการดำนงชีพ แล้วก็พุทธความเชื่อถือหัวข้อการเชื่อถือผี มีผลทำให้มีขนบธรรมเนียมที่เป็นเอกลักษณ์ของขนบธรรมเนียมที่จะนานับประการตามฤดูกาล ดังนี้ ภาคเหนือจะมีงานจารีตในรอบปีเกือบทุกเดือน ก็เลยขอยกตัวอย่างขนบธรรมเนียมภาคเหนือนิดหน่อยมานำเสนอ ดังต่อไปนี้

วันสงกรานต์งานขนบธรรมเนียม นับว่าเป็นตอนแรกของการเริ่มต้นปี๋ใหม่เมือง หรือวันสงกรานต์งานจารีต โดยแบ่งได้

วันที่ 13 เดือนเมษายน หรือวันสังขารล่อง นับว่าเป็นวันจบของปี ดยจะมีการยิงปืน ยิงสพัน แล้วก็จุดดอกไม้ไฟตั้งแต่ก่อนสว่างเพื่อขับไสสิ่งไม่ดี วันนี้จำเป็นต้องกวาดบ้านเมือง รวมทั้ง ชำระล้างวัด

วันที่ 14 เดือนเมษายน หรือวันเนา ตอนเวลาเช้าจะมีการเตรียมการของกินแล้วก็ไทยทาน สำหรับงานทำบุญในพรุ่งนี้ ตอนเวลาบ่ายจะไปขนทรายจากแม่น้ำเพื่อนำไปก่อเจดีย์ทรายในวัด เป็นการตอบแทนทรายที่เหยียบติดเท้าออกมาจากวัดตลอดทั้งปี

วันที่ 15 เดือนเมษายน หรือวันพญาวัน เป็นวันเริ่มศักราชใหม่ มีการทำบุญสุนทานมอบขันข้าว มอบให้ตุง ไม้ค้ำโพธิ์ที่วัดรดน้ำพระพุทธปฏิมากร พระบรมธาตุรวมทั้งรดน้ำดำหัวขอพรจากคนแก่ที่เคารพยกย่อง

วันที่ 16-17 ม.ย. หรือวันปากปีและก็วันปากเดือน เป็นวันประกอบพิธีทางไสยเวท สะเดาะเคราะห์ แล้วก็บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆดังนี้ ชาวล้านนามีความเห็นกันว่า กระบวนการทำพิธีการสืบชะตาจะช่วยยืดอายุให้ตน เอง วงศ์วาน รวมทั้งประเทศชาติให้ยืนยาว ทำให้มีการเกิดความรุ่งเรืองแล้วก็ความเป็นมงคล โดยแบ่งการสืบชะตาแบ่งได้เป็น 3 จำพวกหมายถึงการสืบชะตาคน, การสืบชะตาบ้าน แล้วก็การสืบชะตาเมือง

แห่นางแมว ระหว่างพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม เป็นตอนของการเพาะปลูก ถ้าเกิดปีใดฝนไม่ตกไม่มีน้ำ จะมีผลให้ที่นาข้าวเสียหาย ราษฎรก็เลยพึ่งพิงสิ่งเหนือธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น ประกอบพิธีขอฝนโดยการแห่นางแมว โดยมีความเชื่อกันว่าถ้าปฏิบัติแบบนั้นแล้วจะช่วยทำให้ฝนตก

จารีตปอยน้อย/บรรพชาลูกแก้ว/แหล่หายทดลองเป็นขนบธรรมเนียมบรรพชา หรือการบวชของคนเหนือ นิยมจัดข้างในกุมภาพันธ์ เดือนมีนาคม หรือม.ย. ตอนช่วงเวลาเช้า ซึ่งเก็บเกี่ยวผลิตผลเสร็จแล้ว ในพิธีการบรรพชาจะมีการจัดงานฉลองอย่างมากใหญ่ มีการที่ลูกแก้วหรือผู้บรรพชาที่จะแต่งตัวอย่างงดงามเอาอย่างพระราชโอรสสิทธัตถะ ด้วยเหตุว่าถือแบบอย่างว่าพระราชโอรสสิทธัตถะได้เสด็จบวชกระทั่งหยั่งรู้ และก็นิยมให้ลูกแก้วขี่ม้า ขี่ช้าง หรือขี่คอคน เปรียบเสมือนม้ากัณฐกะม้าทรงของพระราชโอรสสิทธัตถะ ปัจจุบันนี้ขนบธรรมเนียมบรรพชาลูกแก้วที่เป็นที่รู้จักหมายถึงขนบธรรมเนียมบรรพชาลูกแก้ว ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

อ้างอิง:
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย: https://www.lovethailand.org/travel/th/
ที่เที่ยวกรุงเทพ ที่เที่ยวกาญจบุรี ที่เที่ยวยะลา ที่เที่ยวปัตตานี ที่เที่ยนราธิวาส
ประเพณีไทย ประเพณีภาคเหนือ ประเพณีภาคกลาง ประเพณีภาคใต้
อาหารภาคเหนือ ประเทศไทย

หมายเลขบันทึก: 711432เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2023 12:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2023 17:21 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท