ดอกไม้


นฤเบศร์ พรมพันนา
เขียนเมื่อ
ฟุตบอล (Football) หรือซอคเก้อร์ (Soccer) เป็นกีฬาที่มีผู้สนใจที่จะชมการแข่งขันและเข้าร่วมเล่นมากที่สุดในโลก ชนชาติใดเป็นผู้กำเนิดกีฬาชนิดนี้อย่างแท้จริงนั้นไม่อาจจะยืนยันได้แน่นอน เพราะแต่ละชนชาติต่างยืนยันว่าเกิดจากประเทศของตน แต่ในประเทศฝรั่งเศสและประเทศอิตาลี ได้มีการละเล่นชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "ซูเลอ" (Soule) หรือจิโอโค เดล คาซิโอ (Gioco Del Calcio) มีลักษณะการเล่นที่คล้ายคลึงกับกีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน ทั้งสองประเทศอาจจะถกเถียงกันว่ากีฬาฟุตบอลถือกำเนิดจากประเทศของตน อันเป็นการหาข้อยุติไม่ได้ เพราะขาดหลักฐานยืนยันอย่างแท้จริง ดังนั้น ประวัติของกีฬาฟุตบอลที่มีหลักฐานที่แท้จริงสามารถจะอ้างอิงได้ เพราะการเล่นที่มีกติกาการแข่งขันที่แน่นอน คือประเทศอังกฤษเพราะประเทศอังกฤษตั้งสมาคมฟุตบอลในปี พ.ศ. 2406 และฟุตบอลอาชีพของอังกฤษเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2431

วิวัฒนาการด้านฟุตบอลจะเป็นไปพร้อมกับความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์ตลอดมา ต้นกำเนิดกีฬาตะวันออกไกลจะได้รับอิทธิพลมาจากสงครามครั้งสำคัญๆ เช่น สงครามพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ได้นำเอา "แกลโล-โรมัน" (Gello-Roman) พร้อมกีฬาต่างๆ เข้ามาสู่เมืองกอล (Gaul) อันเป็นรากฐานส่วนหนึ่งของกีฬาฟุตบอลในอนาคต และการเล่นฮาร์ปาสตัม (Harpastum) ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นกีฬาซูเลอ
10
0
chollada kongkun
เขียนเมื่อ

การโคลนนิ่ง (Cloning) คือ การคัดลอก หรือการทำซ้ำ ให้มีลักษณะเหมือนเดิมทุกประการ

หากกล่าวเรื่อง การโคลนนิ่ง (Cloning) ในแง่ของสิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวพันถึงเทคโนโลยีชีวภาพแล้ว
การโคลนนิ่ง (Cloning) คือ กระบวนการสืบพันธุ์โดยไม่อาศัยเพศชนิดหนึ่ง โดยสิ่งมีชีวิตที่ถูกโคลนออกมาจะมีลักษณะทางพันธุกรรม โดยรวมถึงมีลักษณะทางกายภาพ เหมือนกับสิ่งมีชีวิตต้นแบบ หรือ สิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ก่อนแล้วทุกประการ

11
0
pattamawan jantorn
เขียนเมื่อ

วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางราชการได้กำหนดให้เป็นวันหยุดราชการหนึ่งวัน เพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้ร่วมกันเฉลิมฉลองในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและถือเป็นวันพ่อแห่งชาติ อีกวันหนึ่งด้วย


วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือวันพ่อแห่งชาติ มีความเป็นมาของวันสำคัญ คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาล เมาท์ ออเบิร์น นครบอสตัน สหรัฐอเมริกา โดยนายแพทย์วิทท์มอร์เป็นผู้ถวายการประสูติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 9 แห่งบรมจักรีวงศ์ กรุงรัตนโกสินทร์ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจและเจริญพระราชจริยาวัตรเป็นเอนกประการจำเนียรกาลผ่านมาถึงปัจจุบันที่สุดจะพรรณนาให้ครบถ้วนได้ท่ามกลางมหาสมาคมวันพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกทรงมีกระแสพระราชดำรัสที่ พสกนิกรทุกคนยังจดจำได้ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม” อันคำว่าโดย “ธรรม” นั้น ทรงหมายถึง ธรรมอันล้ำเลิศที่เรียกว่า “ทศพิธราชธรรม” หรือที่เรียกกันโดยสามัญว่า “ราชธรรม 10 ประการ”

ราชธรรม 10 ประการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยึดมั่นทรงปฏิบัติโดยเคร่งครัด และส่งผลถึงพสกนิกรทั่วพระราชอาณาจักรนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเหนือเกล้าฯ ห่วงใยตั้งแต่พระเยาว์จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งพระเจ้าหลานเธอทุกพระองค์ต่างซาบซึ้งและปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมิรู้ลืม พระองค์ทรงเป็น “พ่อ” ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา ทรงห่วงใยอย่างหาที่เปรียบมิได้

14
0
Siwimon Mookda
เขียนเมื่อ

ประวัติและความเป็นมาของวันแม่ ♥ 

งานวันแม่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป เมื่อวิกฤติสงครามสงบลง หลายหน่วยงานได้พยายามให้มีวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง ต่อมาวันแม่ที่รัฐบาลรับรอง คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่ก็ต้องหยุดลงอีกในหลายปีต่อมา เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไป ส่งผลให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งรับหน้าที่จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515

แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และกำหนดให้ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ คือ ดอกมะลิ

11
0
ณัฐนันท์ แซ่ลี้
เขียนเมื่อ

โรงเรียนบ้านสัตหีบ เดิมชื่อ “โรงเรียนบั๊กเส็งเศรษฐนุกูล”ตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัดสัตหีบเปิดทำการสอนเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๖ โดยใช้อาคารหลังคามุงจากในบริเวณวัดสัตหีบ เป็นอาคารเรียน มีนายสันต์ ศิริมาก เป็นครูใหญ่ เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นเตรียมประถมศึกษา ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๑ นายบั๊ก แซ่ตั้ง บิดาของขุนเจริญพานิช (นายเส็ง มั่งมี) คหบดีของ สัตหีบในสมัยนั้น ได้ไปปรึกษากับหลวงพ่ออี๋ และขออนุญาตปลูกเรือนสำหรับบำเพ็ญกุศลศพ เพื่อรับรองพระสงฆ์และญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือที่จะมาร่วมงานหลวงพ่ออี๋ได้อนุญาตให้ปลูก ได้ตามความประสงค์

ในพิธีบำเพ็ญกุศลศพ พระยาพิพิธอำพลวิมลราชภักดี ซึ่งเป็นเจ้าเมืองชลบุรี อยู่ในขณะนั้น
เป็นที่เคารพนับถือของ นายบั๊ก แซ่ตั้ง ผู้ถึงแก่กรรม ได้เดินทางด้วยเรือกลไฟจากจังหวัดชลบุรี เพื่อมาร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพด้วย เมื่อเห็นเรือนรับรองสำหรับบำเพ็ญกุศลศพแล้ว ได้ให้คำแนะนำว่า “โรงเรียนบั๊กเส็งเศรษฐนุกูลที่เปิดทำการอยู่ภายในวัดสัตหีบนี้เป็นอาคารเรียนที่มุงหลังคาด้วยจากเป็นอาคารเรียนไม่มั่นคงถาวร เรือนสำหรับบำเพ็ญกุศลหลังนี้ เป็นอาคารที่แข็งแรงกว้างขวาง เมื่อบำเพ็ญกุศลทำการฌาปนกิจศพเรียบร้อยแล้วสมควรที่จะปรับปรุงให้เป็นอาคารเรียนของเด็กนักเรียนต่อไป” นายเส็ง มั่งมีพร้อมด้วยญาติมิตรทั้งหลายเห็นดีด้วย เมื่อทำการฌาปนกิจศพ
ของนายบั๊ก แซ่ตั้ง เรียบร้อยแล้ว นายเส็ง มั่งมี พร้อมญาติมิตรได้บริจาคทรัพย์ทำการปรับปรุงเรือนรับรองดังกล่าวด้วยการกั้นฝาห้องเรียนจนสำเร็จเรียบร้อยสวยงามเพื่อเป็นอาคารเรียนของลูกหลานชาวสัตหีบต่อไป เมื่อปรับปรุงอาคารเรียนเรียบร้อยแล้ว จึงแจ้งข่าวเจ้าเมืองชลบุรีทราบ
ในปีพ.ศ. ๒๔๗๒ พระยาพิพิธอำพลวิมลราชภักดี ซึ่งเป็นเจ้าเมืองชลบุรีได้เดินทางมาที่สัตหีบ เพื่อรับมอบและเป็นประธานประกอบพิธีเปิดป้ายอาคารเรียนหลังใหม่ “โรงเรียนบั๊กเส็ง เศรษฐนุกูล” โดยมีคณะลูกเสือชาวบ้านจากจังหวัดชลบุรี เดินทางมาร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดด้วย และหลวงพ่ออี๋ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการเปิดป้ายอาคารเรียนหลังนี้ เมื่อเสร็จพิธีเปิดทำการแล้วได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ในกาลต่อมา เจ้าเมืองชลบุรี ได้กรุณาขอพระราชทานชั้นยศให้ นายเส็ง มั่งมี เป็น “ขุนเจริญพานิช” เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลมั่งมี และในเวลาต่อมา กระทรวงธรรมการ ได้มอบเข็มเป็นรูปธรรมจักรให้เป็นเกียรติแก่ขุนเจริญพานิชอีกครั้ง ในฐานะบุคคลผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชน โรงเรียนบั๊กเส็งเศรษฐนุกูล จึงเป็นโรงเรียนที่มีอาคารเรียนมั่นคงถาวรแห่งแรกของลูกหลานชาวสัตหีบ
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ นายใช้ นางผิว มั่งมี ซึ่งเป็นน้องชายของขุนเจริญพานิช ( เส็ง มั่งมี ) ได้มอบที่ดิน จำนวน ๘ ไร่ ๓ งาน ๗๓ ตารางวา บริเวณด้านทิศตะวันออกของบ้านสัตหีบ เพื่อให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนบั๊กเส็งเศรษฐนุกูลแทนโรงเรียนหลังเดิมที่อยู่ภายในวัดสัตหีบ การย้ายโรงเรียนมาตั้งและทำการ ณ ที่แห่งใหม่นี้ เพื่อรองรับความเจริญเติบโตของโรงเรียนและพื้นที่ของอำเภอสัตหีบ โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดสรรงบประมาณร่วมกับทหารเรือ เพื่อจัดสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ และได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนบั๊กเส็งเศรษฐนุกูล เป็น “โรงเรียนประชาบาลตำบลสัตหีบ ๑” ( ทหารเรือสงเคราะห์ ) แต่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “โรงเรียนบ้านนา” เนื่องจากบริเวณโดยรอบที่ตั้งโรงเรียนขณะนั้นมีสภาพเป็นทุ่งนา ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาปลูกข้าว ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนบ้านสัตหีบ” ตามชื่อของหมู่บ้านสัตหีบ จนถึงปัจจุบันนี้ นายอังกาย อินทราคม เป็นครูใหญ่คนแรกของโรงเรียนบ้านสัตหีบ

5
0
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท