การเข้าสู่วิชาชีพครู (ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ เช่นเดียวกับวิชาชีพอื่นๆ) ของประเทศไทย ในปัจจุบัน มี ๕ ช่องทาง คือ
(๑) เรียนหลักสูตรผลิตครู ๕ ปี
(๒) เรียนหลักสูตรอื่นๆ ๔ ปี แล้วมาเรียนต่อหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ๑ ปี (๔+๑)
(๓) การสอบเทียบโอนความรู้ ด้วยการสอบวิชา ๙ สาระหลักที่คุรุสภากำหนด หรือการเทียบโอนจากการเรียนในสถาบันผลิตครู
(๔) การอบรมหลักสูตรที่คุรุสภาเห็นชอบ ๙ สาระหลักและสอบผ่าน ครบทั้ง ๙ สาระนั้น
(๕) เรียนสำเร็จปริญญาตรี ๔ ปี และมาเรียนต่อ ปริญญาโทด้านคุรุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์พร้อมใบประกอบวิชาชีพ (๔+๒ หรือ ๓)
คำถามมีอยุ่ว่า
ข้อหนึ่ง ประเทศไทย มีการผลิตครู โดยสถาบันผลิตครู ประมาณ ๗๕ สถาบันทั่วประเทศ ล้นเกินความต้องการในบางสาขา และขาดในบางสาขา ท่านเห็นว่าระบบการผลิตครู ของประเทศไทย น่าจะใช้ระบบใดบ้างจึงจะได้ครูที่เก่งและดี
ข้อสอง ปัจจุบัน ยังมีครูที่เป็นอัตราจ้าง (ไม่ทราบว่าผู้บริหารรับเข้าไปได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู จริงๆ แล้วผิดกฏหมาย ชัดเจน) ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู ค้างอยู่จำนวนหนึ่งและยังมีคนที่ค้างจากการสอบเทียบยังไม่ครบ ๙ สาระ และเทียบโอนไม่ครบ ๙ สาระ รวมๆ แล้วประมาณ ๗๕,๐๐๐ คน จำนวนบุคคลเหล่านี้ ท่านว่าจะเปิดโอกาสให้เยียวยา มีหลักสูตรพิเศษอบรมให้ผ่านครบทั้ง ๙ สาระ ดีหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่
ข้อสาม ชาวต่างประเทศ ที่มาสอนในประเทศไทย ส่วนมาก ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูของไทย จะจัดการอย่างไรดี ??? มีหลักสูตรเป็นภาษาอังกฤษให้เรียน ๑ ปี ก็ไม่สนใจเรียน ???
โดยส่วนตัวก็อยากแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อยนะครับ ตามช่องทางที่อาจารย์กล่าวมา ๑. เห็นด้วยอย่างยิ่ง อย่างไม่มีข้อกังขา คือ เรียนสายครูพันธุ์ใหม่ ๕ ปี ๒. เห็นด้วยกับผู้ที่เป็นครูสอนมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่เห็นด้วยกับบุคคลที่พึ่งอยากจะเปลี่ยนสายมาเป็นครู ๓. เห็นด้วยกับผู้ที่จบสายครูมาแล้ว(แต่ถูกยกเลิกหาว่าหลักสูตรที่คุณเรียนมานั้นใช้ไม่ได้ เอาอะไรมาวัด)แล้วก็ให้มาสอบเทียบใหม่(เช่นผม แต่ก็ไม่ได้ไปสอบหรอกครับไม่ชอบใจว่าจบครูมาแล้วทำไมต้องให้ไปสอบเทียบอีก) ไม่เห็นด้วย ที่ทำงานสายอื่น ๆ มาแล้วจะหันมาสอบเทียบ ๙ สาระเข้ามาเป็นครู หากครูไม่ได้ออกไปฝึกสอนอย่างน้อย ๖ เดือน ๔.ไม่แน่ใจว่ามีการอบรมกันกี่วันหรือกี่เดือน ถ้าอบรมครบถึง ๖ เดือน เกี่ยวกับการเรียนการสอนเหมือนที่ครูฝึกสอนไปสอนในโรงเรียนนั้น ก็เห็นด้วย แต่ถ้าอิงแต่สาระเนื้อหาวิชาตามตำราของหลักสูตรก็ไม่เห็นด้วย ๕.ข้อสุดท้ายเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เพราะอย่างน้อย ผู้ที่จะมาเป็นครูได้เสียสละเวลามาเรียนเพิ่มเติมสายครูโดยตรงอีก ๒-๓ ปี ถือว่าเพิ่มเติมความรู้จากสายเอกที่ตนเองจบมาแล้ว มีความหลากหลายทางองค์ความรู้ จะสามารถนำความรู้ด้านวิชาเอกที่ตนจบมา เช่น เอกอังกฤษการสื่อสาร ก็สามารถนำมาเป็นวิชาเอกในสายครุศาสตร์ที่เรียนระดับปริญญาโท ได้อย่างดี
ไม่มีคำตอบ