ตอนที่ 2 ผีปอป..หรือเปล่า


ค่อนดึกคืนนั้น...คนที่มาเยี่ยมคลอดกลับหมดแล้ว ดวงจันทร์ขึ้นสิบสองค่ำ สุกใสกลางท้องฟ้า ทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆ รอบบ้านได้ค่อนข้างชัดเจน ตัวบ้านใต้ถุนสูงมืดมิด คงมีเพียงแสงตะเกียงริบหรี่ในห้องครัวที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน


ชาวบ้านได้ช่วยกันย้ายแม่จากในบ้านมานอนในครัว นอนบนไม้กระดานหนุนหมอนไม้ ข้างที่นอนมีเตาไฟก้อนเส้าสามก้อน ที่สุมฟืนจนมีถ่านไฟกองใหญ่ แดงฉาน บนก้อนเส้ามีหม้อดินใบใหญ่ต้มน้ำสมุนไพรหลายชนิด ที่เรียกว่า "อยู่ไฟ"


เสียงพลิกตัวและครางเบาๆ ของแม่ ทำให้ร่างหนึ่งที่นอนข้างๆ ในมุมมืด ลุกขึ้น
"ร้อนรึเปล่า" พ่อถามขึ้น
"ไม่ร้อนหรอก เปลี่ยนท่านอนเท่านั้นเอง นอนต่อเถอะ" แม่ตอบและบอกให้พ่อนอนต่อ แต่พ่อกลับลูกขึ้น เดินมาดูน้ำในหม้อดิน พอเห็นว่าพร่องก็เติมน้ำลงไปอีก เขี่ยขี้เถ้าออกจากกองไฟ แล้วสุมฟืนเข้าไปอีกนิด ไฟลุกโพลงขึ้นลามเลียก้นหม้อแล้วค่อยๆ หรี่ลง


พ่อหันไปหยิบไม้ราวหนึ่งคืบเขี่ยขี้ไต้ ที่มีเพียงแสงติดที่ปลายใต้มัวซัว ให้ลุกสว่างกินบริเวณทั่วห้องครัว มองเห็นอู่ผ้าขาวม้าอยู่ข้างๆ แม่ พ่อเดินไปก้มลงดูในอู่แล้วยิ้ม มือไกวอู่เบาๆ


"นอนดีวะเจ้านี่ แทบไม่กระดุกกระดิกเลย" พ่อพูดเบาๆ แล้วล้มตัวลงนอนข้างอู่คนละฝั่งกับแม่


ความเงียบเข้ามาอีกครั้ง เงียบ..แม้แต่สุนัขที่อยู่ใต้ถุนบ้านก็ดูเหมือนจะหลับหมด
"พ่อ..พ่อ" แม่ปลุกพ่อ
"ฮือ..." พ่อขานรับ
"เสียงอะไรก็ไม่รู้ คล้ายเสียงขึ้นบันไดบ้าน แต่..ดูเหมือนถึงขั้นสุดท้ายก็ร่วงลงไป นั่น...ดังอีกแล้ว"


พ่อลุกขึ้น ฉวยมีดพร้าเล่มใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆ แล้วย่องออกจากครัว แสงเดือนบ่ายคล้อยส่องลอดกิ่งไผ่หลังบ้านกระทบชาน มองเห็นหัวบันไดที่ว่างเปล่าชัดเจน


พ่อถือมีดพร้าแอบที่ฝาบ้านใต้เงามืด ตาจ้องเขม็งไปที่หัวบันได ฉับพลันพ่อขนลุกซู่ มองเห็นหัวหมาดำใหญ่โผล่ขึ้นมา ตาทั้งคู่แดงดังเปลวเพลิง จ้องไปทางครัว มันก้าวขึ้นบันไดจนเห็นทั้งตัว เป็นหมาดำปลอด ตัวใหญ่กว่าหมาบ้านธรรมดามาก


ทันใด มันกระโจนขึ้นมุ่งไปทางครัว แต่...ไม่น่าเชื่อร่างของหมาดำที่กำลังกระโจนกลับกระเด็นร่วงละลิ่วลงไปที่พื้นดินข้างล่าง
มันไม่ยอมแพ้ เสียงขึ้นบันไดมาอีกครั้ง พอพ้นบันไดมันกระโจนไปทางครัวอีกครั้ง และมันก็กระเด็นลงไปบนพื้นดินอีกครั้ง คราวนี้พ่อได้ยินเสียงมันครางฮือ...ฮือ....

พ่อเย็นวาบไปทั่วแผ่นหลัง เป็นไปได้อย่างไร เสียงที่ดังจากหมาดำตัวนั้น เป็นเสียงหญิงแก่ชัดๆ คราวนี้มันไม่ขึ้นบันได มันเพียงจ้องมองไปทางครัว แล้วกระโจนเข้าไปในหมู่บ้าน หายลับตา

พ่อกลับเข้ามาในครัว
"มีอะไรหรือพ่อ" แม่ถาม
"ไม่มีอะไรหรอก หมามันขึ้นมากินเศษอาหารที่วางทิ้งอยู่นอกชาน นอนต่อเถอะ"
พ่อโกหก แล้วก้มลงมองดูเจ้าตัวเล็กในอู่ ด้วยแววตาครุ่นคิด

อ่านตอนที่ 3 เขียดขาคำ แมงกุดจี่ อาหารดีหาได้ง่าย


<img src="http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/918/340/default_l33-298.jpg?1371031906" "="">

(ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)


หมายเลขบันทึก: 539091เขียนเมื่อ 12 มิถุนายน 2013 17:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2016 16:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ตกลงว่า  " ผีปอบ...หรือเปล่า "   จ๊ะ ??


ผู้เฒ่าเล่าให้ฟังว่า ผีปอปมีจริง แล้วมันชอบกินของคาวด้วย ผมไม่ยืนยันนะครับ

เพราะไม่เคยเห็นครับ อิอิ

ขอบคุณที่แวะเวียนมาบ่อยๆ นะครับ

..แม่เล่าว่า..ตอน ออกยายธีอยู่ในป่า..สงครามยังไม่เลิกดี..หมอตำแยทำอยู่ไฟให้..วาง..สากหัก..ไว้..ข้างกองไฟ..กัน."ผี"..อ้ะ..."มาเห็นภาพ..ตอนแก่..อยู่ไฟ...(ชอบใจ  อิอิ).."การอยู่ไฟสมัยก่อน..โบราณเชื่อว่าเป็นการรักษามดลูก..จ้ะ..(ได้ยินมางั้น)..ขอบพระคุณกับภาพที่แบ่งปัน..ยายธี

Ico48 สวัสดีครับ คุณยายธี
คุณแม่ผมเล่าให้ฟังว่า ท่านอยู่ไฟหลังคลอดลูกทุกคนครับ (9 คน) สุขภาพท่านแข็งแรงมาก ท่านเสียชีวิตตอนอายุ  81 ปี การอยู่ไฟคงช่วยรักษามดลูกกระมังครับ สุดปัญญาที่ผมจะทราบครับ ฮา
ขอบพระคุณนะครับที่เข้ามาเยี่ยมทักทายครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท