ศึกษางานวิจัย


สรุปงานวิจัย

สรุปงานวิจัย

เรื่อง :    ความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดเห็นของนิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมโดยวิธีการเรียนรู้แบบผสมผสานกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ (Classroom vs. Blended Learning in Training Technique and Process Course: Differences in Learning Achievement and Satisfaction of Educational Technology Graduate Students)

ชื่อผู้วิจัย                นายสาโรช โศภีรักข์

ปีที่ทำการวิจัย      2550

          การวิจัยเรื่องความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของนิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมโดยวิธีการเรียนรู้แบบผสมผสานกับการเรียนในชั้นเรียนปกติโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมโดยวิธีเรียนแบบผสมผสาน เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมระหว่างผู้เรียนที่เรียนในชั้นเรียนปกติกับเรียนโดยวิธีผสมผสานเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมระหว่างผู้เรียนที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองสูงกับผู้เรียนที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองต่ำและเพื่อศึกษาความคิดเห็นของนิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมโดยวิธีเรียนแบบผสมผสาน

          ระบบการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในกระบวนการเรียนการสอนอย่างแพร่หลาย โดยระบบการจัดการเรียนการสอนที่ได้รับการกล่าวถึงในปัจจุบันอย่างกว้างขวางคือ e-Learning ถึงแม้ว่า e-Learning จะมีข้อดีในหลายประการแต่การจัดการศึกษาในรูปแบบของ e-Learning เต็มรูปแบบในปัจจุบันยังไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายเนื่องจากติดในเงื่อนไขสำคัญในหลายประการทำให้เกิดการแสวงหารูปแบบของการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมขึ้น รูปแบบการเรียนการสอนที่กล่าวถึงนั้นเรียกว่า Blended Learning : BL

         การเรียนการสอนรูปแบบผสม(Blended Learning) เป็นการผสมผสานกันในการจัดการ ซึ่งผู้สอนเสนอการสอนแบบ face-to-face, วิธีการเรียนแบบทางไกล และการเรียนการสอนแบบออนไลน์ อันเป็นนวัตกรรมในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งขึ้นกับรูปแบบ ของการเรียนแต่ละคอร์ส อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้เป็นเพียงข้อดีข้อหนึ่งของการเรียนการสอนแบบออนไลน์อย่างเต็มตัว ซึ่งไม่มีใครคาดคิด ว่าจะเกิดขึ้นได้เมื่อศึกษาเอกสารและบทความต่างๆ รวมถึงงานวิจัยด้านการเรียนรู้แบบผสมผสาน ทำให้พบว่าการเรียนรู้แบบผสมผสาน(Blended Learning)นั้น มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับงานหรือการศึกษาในสายเทคโนโลยีการศึกษา

          Blended Learning : BL หรือการเรียนรู้แบบผสมผสาน ได้รับความนิยมหรือพูดถึงมากขึ้นในปัจจุบันทั้งในองค์กรหรือหน่วยงานด้านการศึกษาต่างๆ ในปี 2003 ASTD(American Society for Training and Development) ได้วิจัยพบว่าการเรียนรู้แบบผสมผสานเป็นที่หนึ่งในสิบอันดับของการบูรณาการองค์ความรู้ของสังคมการเรียนรู้ในปัจจุบัน(Rooney,2003)

 วัตถุประสงค์ของการวิจัย

                1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมโดยวิธีเรียนแบบผสมผสาน

                2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมระหว่างผู้เรียนที่เรียนในชั้นเรียนปกติกับเรียนโดยวิธีผสมผสาน

                3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางกรเรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมระหว่างผู้เรียนที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองสูงกับผู้เรียนที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองต่ำ

                4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมโดยวิธีเรียนแบบผสมผสาน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

                1. ได้ทราบว่าการเรียนแบบผสมผสานมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

                2. เป็นแนวทางในการออกแบบระบบการเรียนการสอนที่ตอบสนองผู้เรียน

                3. ได้ทราบว่านิสิตปริญญาโทที่เรียนโดยวิธีผสมผสานจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างกับวิธีการสอนแบบปกติหรือไม่

                4. ได้ทราบว่านิสิตปริญญาโทที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองแตกต่างกันจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างกันหรือไม่

                5. ได้ทราบว่านิสิตปริญญาโทที่เรียนจากวิธีการสอนแบบผสมผสานจะมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานอย่างไร

ขอบเขตของการวิจัย

                1. ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือนิสิตปริญญาโทชั้นปีที่ 1 ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนวิชา 169563เทคนิคและกระบวนการอบรม จำนวน 59 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2549

                2. แผนการสอนและเทคนิคการสอนในครั้งนี้เป็นการออกแบบการสอนวิชาเทคนิคและกระบวนการอบรมซึ่งเป็นวิชาเลือกในหลักสูตรปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษา ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มี 3 หน่วยกิตและสอน 15 สัปดาห์ในระบบการเรียนปกติส่วนการวิจัยครั้งนี้กลุ่มทดลองจะเรียนแบบผสมผสานโดยเรียนบนเว็บที่พัฒนาขึ้นและผนวกกับการเรียนในห้องเรียนปกติโดยมีระยะเวลาเรียนเท่ากับการเรียนปกติ

                3. ตัวแปรที่ศึกษาได้แก่

                ตัวแปรต้น มี 4 ตัวแปรคือ

                    1. การเรียนจากรูปแบบการสอนแบบผสมผสานที่ให้ผู้เรียนจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านเว็บและเรียนส่วนหนึ่งในชั้นเรียนปกติวิชา เทคนิคและกระบวนการอบรม

                    2. นิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนโดยวิธีสอนที่อาจารย์สอนปกติ

                    3. นิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง

                    4. นิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองตัวแปรตาม คือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของผู้ที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรม

          กลุ่มทดลองเป็นนิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2549 จำนวน 59 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่เรียนโดยวิธีปกติ 29 คน กลุ่มที่เรียนโดยวิธีแบบผสมผสาน30 คน โดยวิธีสุ่มแบบง่าย (simple random sampling) และแบ่งเป็นกลุ่มที่มีทักษะการจัดการตนเองสูง32 คน กลุ่มที่มีทักษะการจัดการตนเองต่ำ 27 คนโดยใช้แบบประเมินทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง จากนั้นให้ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ปรากฏว่านิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีมีคะแนนจากการทดสอบไม่แตกต่างกัน และนิสิตที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ต่างกันมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่แตกต่างกัน

สถิติที่ใช้   คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าที

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

1) บทเรียนบนเว็บวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรม

2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

3) แบบประเมินทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง

4) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียน

การวิจัยพบว่า

                1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการอบรมโดยวิธีการแบบผสมผสานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 แสดงให้เห็นว่าเมื่อใช้วิธีการเรียนผสมผสานระหว่างการเรียนผ่านเว็บกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ ผู้เรียนจะมีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น

                2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการอบรมโดยวิธีการผสมผสานกับนิสิตปริญญาโทที่เรียนโดยวิธีปกติไม่แตกต่างกันเพราะว่าในกระบวนการสอนที่ผสมผสานระหว่างการเรียนผ่านเว็บกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ สามารถที่จะทำให้ผู้เรียนๆรู้ได้เท่าๆกันทั้งนี้แม้ในการเรียนแบบผสมผสานผู้เรียนจะเรียนผ่านเว็บด้วยตนเองเป็นลักษณะการเรียนเป็นรายบุคคลเรียนแบบอิสระเมื่อใดก็ได้ ที่ไหนก็ได้เมื่อสามารถเข้าเว็บได้ทั้งนี้ผู้สอนก็ไม่ได้ปล่อยให้ผู้เรียนๆผ่านเว็บทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยออกแบบให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนได้ตลอดเวลาผ่านทาง เครื่องมือต่างๆในเว็บและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มาพบกันในชั้นเรียนตามกำหนดที่ได้วางแผนไว้คือเรียนรู้ผ่านเว็บประมาณร้อยละ60 และเข้าชั้นเรียนร้อยละ40 ผู้เรียนสามารถบริหารการเรียนของตนเองได้เต็มที่ ทำให้เกิดการเรียนรู้ได้เท่าๆกับการสอนของผู้สอนในชั้นเรียนซึ่งต้องใช้เวลาถึง 15 สัปดาห์

                3. เมื่อเรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการอบรม นิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองสูงมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองต่ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 ชี้ให้เห็นว่าการเรียนในรูปแบบใดก็ตามหากผู้เรียนมีทักษะในการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองต่างกัน ผลของการเรียนรู้ก็ย่อมแตกต่างกัน เพราะผู้เรียนที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองสูงก็ทำให้ผลการเรียนสูงตามไปด้วย โดยเฉพาะวิธีการเรียนรายบุคคลที่ผู้เรียนจะต้องพึ่งพาตนเองมากที่สุด หากมีทักษะในการจัดการเรียนต่ำโอกาสของการเรียนรู้ก็ย่อมต่ำลงไปด้วย

                4. นิสิตปริญญาโทที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมโดยการเรียนแบบผสมผสานมีความพึงพอใจกับการเรียน อยู่ในระดับดี ทั้งนี้เพราะการเรียนแบบผสมผสานเป็นการเรียนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนๆด้วยตนเองผ่านเว็บซึ่งเป็นวิธีการเรียนแบบอิสระที่ผู้เรียนชอบ ไม่มีแรงกดดันจากผู้สอน ในทำนองเดียวกันการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนและระว่างผู้เรียนด้วยกันเองก็ไม่ขาดหายไปเพราะสามารถติดต่อผ่านเว็บได้และยังมีโอกาสพบกันในชั้นเรียนอีก ทำให้บรรยากาศของการเรียนในห้องเรียนไม่หายไปซึ่งสอดคล้องกับธรรมชาติของผู้เรียนอยู่แล้ว

 ผลการวิจัยปรากฏว่า

                1) นิสิตปริญญาโทที่เรียนโดยวิธีผสมผสานมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่า คะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

                2) นิสิตปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษาที่เรียนวิชาเทคนิคและกระบวนการฝึกอบรมทั้ง 2 วิธีมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่แตกต่างกัน

                3) นิสิตปริญญาโทที่เรียนโดยวิธีผสมผสานที่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองต่างกันมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

                4) นิสิตที่เรียนโดยวิธีผสมผสานมีความพึงพอใจในการเรียนแบบผสมผสานในระดับดี

คำสำคัญ (Tags): #ศึกษางานวิจัย
หมายเลขบันทึก: 442060เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2011 09:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท