๓๐/๐๘/๒๕๕๖
อนุทิน ๒๐.
ชวนอู้กำเมือง
ตอนสาย ๆ ของวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ มีผู้หญิงคนหนึ่งมาถามหาเอกสารเกี่ยวกับใบสำคัญการซื้อขายที่ดินซึ่งผมถ่ายเอกสารแล้วลืมคืนให้กับเขาไป ในวันที่ถ่ายรูปด่วนวันนั้น พอมาถึงจึงถามว่า “อาวหนาน มีเอกสารของน๊องอยู่นี่ผ่องก่อ ตี่ถ่ายฮูปวันนั่นหนะ?”
ผมตอบ “มีกะ ลืมเอาคืนหื้อ เพราะวันนั่นมัวแต่แต่งรูปเพลินไปหน้อยหนึ่ง ขออภัยหลาย ๆ เน้อ”
เธอตอบ “บ่อเป๋นหยั๋งดอก และกะจะหื้ออาวหนานถ่ายฮูปหื้อแหมใหม่โตย ตังโรงเรียนเขาบ่าเอาสองนิ้ว เขาจะเอาหนิ้วเกิ่ง ถ่ายแหมใหม่เนาะ กะว่าจ๊ะใด?” พร้อมกับนำรูปขนาด ๒ นิ้วที่ถ่ายไปก่อนหน้านั้นแล้วนำมาวางบนหลังตู้กระจก
ผมกล่าว “เดียว ขอผ่อในเครื่องก่อนบ่อหู้ข้อมูลเก่ายังมีเหลืออยู่ก่อ หรือว่าลบไปแล้วกะบ่อหู้” ผมดูสักพักก็ไม่พบรูปเธอดังกล่าว จึงกล่าวว่า “อั้นกะเอาฮูปตี่ถ่ายแล้วนี่ มาสแกนเอากะได้ บ่อต้องไปถ่ายแหมใหม่ละ คิดราคาค่าปริ้นเฉพาะกระดาษกะเอาเลาะ ขอหกสิบบาทกะแล้วกั๋นเหนาะ” เธอพยักหน้า ผมก็จัดแจงสแกนรูปเข้าคอมและก็ใช้โปรแกรมโฟโต้สเคปตัดแต่ง และปรับขนาดให้เหลือเท่าขนาด นิ้วครึ่งคือ 3*4 เซ็นติเมตรตามที่เขาต้องการ
จากนั้นก็ปริ้นออกมาทางเครื่องปริ้นท์สีแคนนอน ได้ความสวยงามไม่ต่างจากเดิมเลย เสร็จแล้วก็นำไปตัดได้ทั้งหมด ๖ ภาพ ส่งให้เธอ
เธอรับแล้วก็จับมาพิจารณาแล้วก็กล่าวว่า “อื่อ...เหมือนเก่าเลยเหนาะ ถ้าบ่อได้กำนี่กะคงบ่อเฮียนละก้า”
ผมยิ้มและพูดว่า “เฮียรไปเต๊อะ... ความหู้มันจะมีก่ากับเฮาสักวัน อาจจะจ้าหน้อยหนึ่ง แต่มันหันผลแน่นอน” เธอเอารูปไปสมัครเรียน กศน. ครับ
จากนั้น เธอก็ถาม “ทั่งหมดเต่าใด?”
ผมคิดเงินแล้วตอบ “ทั่งหมด ๗๐ บาท รวมปากก๋า ๒ ด้ามครับ”
เธอก็พูดขอบคุณว่า “ถ้าบ่อได้ร่านหนานนี่ ถ่าจะไปแหมไกล๋(บ้านแสนขัน ๕ กิโลเมตร) ขอบคุณหลาย ๆ เน่อ”
ผมตอบ “บ่อเป๋นหยังดอกครับ กะพยายามตี่จะหื้อมันมีครบทุกอย่างเหมือนกั๋น อาจจะต้องก่อยปรับปรุงไปเรื่อย ๆ แต่ต๋อนนี่กะมีหลายอย่างผ่องเลาะ” และเธอก็สตาร์ทรถเครื่องแบบสายพาน “แซะตื๊นนน”
ผมก็พูดตะเบ็งเสียงไปพร้อมกับเสียงรถว่า “ขอบคุณหลาย ๆ ครับ...” แล้วการสนทนาก็สิ้นสุดลงกลายเป็นอดีตไปในเวลาต่อมา
หมายเหตุ กำเมือง หรือภาษาไทยเหนือ ถ้าต้องการฝึกพูดให้คล้ายคนเมืองควรสังเกตการออกเสียงคำ เช่น
๑. คำลงท้าย “เน่อ+เด้อ = คำที่เราควรออกเสียง ควรให้ก้ำกึ่งกัน ระหว่างสองคำนี้
๒. คำลงท้าย “เลาะ+ละ = คำที่เราควรออกเสียง ควรให้ก้ำกึ่งกัน ระหว่างสองคำนี้
๓. ไม่ใช่คำลงท้าย “บ่อ+บ่า = คำที่เราควรออกเสียง ควรให้ก้ำกึ่งกัน ระหว่างสองคำนี้
ผมมีตัวอย่าง การอธิบายความหมายของคำ ให้ได้ลองฟังสำเนียงกันดูนะครับ สำเนียงอาจแตกต่างจากบ้านผมนิดหน่อย...
| อนุทิน ... ๔๘๙๖ |
"..."
ถึงบางอย่างไม่สมดุล แต่ผมกะคุณก็รักกันดี
คิ้วต่ำ
(วิ๊ดวิ้วววว 555)
๓๐/๐๘/๒๕๕๖
อนุทิน ๒๑.
“ไฟดับแต่...ไม่มีฝน”
ฟ้ามืดดำเป็นกลุ่มลอยคลุมบ้าน
ลมสะท้านพัดมาคราหนึ่งนั้น
ไฟฟ้าดับทันใดในฉับพลัน
เสียงร้องลั่นเครื่องสำรองให้หมองใจ
วานก็ครั้งหนึ่งแล้วพ่อแก้วเอ๋ย
เป็นอย่างเคยบ่อยเข้าไม่เอาไหน
การไฟฟ้าบกพร่องต้องทำไง
เก็บค่าไฟไปแก้ดูแลก่อน
เด็กลุกเดินมาถามว่าเท่าไหร่
จ่ายคืนไปให้ได้ไม่ผัดผ่อน
เงินที่ค้างเท่าไรไม่แน่นอน
จ่ายแล้วจรจากร้านสู่บ้านตน
เดินไปหยิบรองเท้ามาสวมใส่
เตะตะกร้อนั่นไงได้ฝึกฝน
ออกกำลังได้เหงื่อร้อนเหลือทน
“ห่วง”มาวนสลับด้านไม่คร้านอาย
พอเสร็จแล้วไปยกลูกเหล็กหนัก
แล้วหยุดพักให้เย็นยืดเส้นสาย
มาเช็คของพอมองเห็นเป็นหลายราย
“แจ้ง”แล้วไงไฟเปิด “เหิด” สักที
ห่วง : ฮูลาฮูป
เหิด: เป็นอาการที่แสดงออกถึงความดีใจหรือชอบใจอะไรสักอย่างด้วยเสียงดัง ๆ
-เกิดอาการใจสั่น ๆ สาเหตุน่าจะมาจาก"กาแฟ"แน่ ๆ ครับ....ปกติจะไม่ดื่มกาแฟ..แต่วันนี้ผิดปกติ...ดื่มกาแฟเย็น....ดื่มเมื่อกลางวัน...ดันมาเกิดอาการตอนค่ำ...บอกคนใกล้ตัวแล้ว....ได้รับคำแนะนำให้"ดื่มชารางจืด" ตอนนี้กำลัง"ชดชารางจืดร้อนๆ" หวังว่า..คงจะล้างพิษ "กาแฟ"ได้ในเร็วพลัน......โอมเพี้ยง!!!!!!
วันนี้รู้สึกว่าต้องต่อสุ้กับอารมณ์ภายในหลายครั้ง จนสมองรุ้สึกตื้อๆ
ว่าจะเขียนบันทึกสักหน่อย แต่โหลดภาพไม่ได้ เลย มานั่งบ่นในอนุทิน...
ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกนะชีวิต เดี่ยวก็ดี เดี่ยวก้ร้าย
มันเป็นเช่นนั้นเอง...