ทุเรียนของใคร?????บางคน
เมื่อเอ่ยถึงทุเรียน มีคนหลายคนไม่ค่อยจะชื่นชอบกับมันซักเท่าไร ด้วยเหตุผลที่ว่า กลิ่นเหม็นบ้าง แพ้มันบ้าง ทานแล้วอ้วน เดี๋ยวเกิดโรคนั้นโรคนี้ ........ นั่นก็ขึ้นอยู่กับเหตุและผลของแต่ละคน
.....แต่สำหรับคนอีกจำพวกหนึ่งชื่นชอบมันเป็นพิเศษ คิดดูเล่า จะเล่าให้ฟัง ขนาดมันมีหนาม ต้นอยู่ป่า ยอดอยู่สูง ราคาก็แพง แกะก็ยาก คนเรายังสรรหามาทานกันได้ ทุเรียนชอบออกหน้าร้อนบางคนทานแล้วจุกเสียดแน่น ตายบ้างก็มี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะคนทานจะต้องระมัดระวัง.......ไม่ใช่สักแต่ทานจึงลืมว่าควรปฏิบัติอย่างไร......
ประโยชน์ของทุเรียนมีดังต่อไปนี้
เนื้อทุเรียน - รสหวานร้อน ทำให้เกิดความร้อน แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี-หนอง แห้ง เนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิ
เปลือกหนามทุเรียน - รสเฝื่อน นำมาสับแช่ในน้ำปูนใสใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง หรือนำมาเผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูม และเผาเอาควันไล่ยุงและแมลง
ใบทุเรียน - รสเย็นและเฝื่อน ใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิ
รากจากต้นทุเรียน – ตัดเป็นข้อ ๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วง
แต่สำหรับผู้เขียน ชอบทานแบบห่ามๆๆๆๆๆๆ กลิ่นไม่ฉุนนัก จะเลือกทานเฉพาะหมอนทองเท่านั้น (แปรรูปก็ไม่ชอบทานน่ะ) ถึงจะมีราคาแพงก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะนานๆทีจะได้ซื้อทานไม่ใช่มีทุกหน้าตอนก็ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-70 บาท (80 บาท ก็ซื้อทานมาแล้ว)
มันมีพลังงานเเละคอเลสเตอรอนสูงนะครับ....อย่าทานมากนะ! อย่าหลงไหลในรสชาติของอาหาร โดยเฉพาะ(คนท้อง)
เตรียมพร้อมสู่ความเป็นแม่กับลูกคนที่สอง
หญิงท้องกับการตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หญิงตั้งครรภ์กับการเปลี่ยนแปลงย่อมแปลกกว่า การตั้งครรภ์เป็นการเต็มเติมความสมบูรณ์ให้กับครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูก การตั้งครรภ์หรือการอุ้มท้อง 36-40 สัปดาห์ การมีลูกคนแรกยังไม่ใช่ปัญหา แต่การมีลูกคนที่สองที่ห่างกันถึง 11 ปีกว่า ย่อมมีแน่ ด้วยอายุเรา อายุของลูกคนโต แต่ด้วยสภาพที่แตกต่างกับตอนวัยรุ่น จึงต้องมีการเตรียมพร้อม......เตรียมอะไรบ้างเล่า.....เริ่มจาก
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย : ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมขยายใหญ่ ไม่น่าดู ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา อก ทุกสัดส่วนก็ว่าได้ (แล้วจะลดไหมหนอ)
การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ : หลายคนพูดว่า คนยท้องอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย แต่กับข้าพเจ้าไม่ใช่ ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นอารมณ์ที่อยากให้สามีสนใจเวลาท้องมากกว่า
อาหารกับการทาน : แต่ก่อนทานอาหารคำนึงแต่ความอยากหรือเรียกว่าตามใจปาก แต่เดี๋ยวนี้ต้องเลือกทานเพื่อบำรุงครรภ์ แต่ที่นิยมทานสำหรับข้าพเจ้าและทานเป็นประจำ อันได้แก่ นมจืด น้ำผลไม้คั้นแบบสด ๆ ผลไม้สด ใครว่าอะไรดีก็ลองทาน ไข่ยอดบายศรี : ทานแล้วคลอดง่าย น้ำมะพร้าว : เวลาเด็กคลอดออกมาจะไม่มีไขเนื้อตัวสะอาดสะอ้านน่าสัมผัส น้ำจับเลี้ยง : ทานแล้วเด็กจะขาวใช่หรือเปล่าก็ยังไม่รู้แต่มีบอกมา แต่ที่คลอดมาก็เห็นว่าข่าวทั้งที่พ่อแม่ก็ดำน่ะ บางคนบอกว่าทานทุเรียนที่มีธาตุแมกนีเซียม : ลูกจะแข็งแรงที่ชอบก็คือผิวจะขาวด้วย (น่าลองดู)
ข้าวของเครื่องใช้ : เพลินมากกับการเลือกซื้อของใช้เด็กอ่อน เชื่อเลยว่าวิญญาณแห่งความเป็นแม่ย่อมเกิด เวลาเดินไปห้าง สิ่งที่นี้ก็สวย สิ่งนี้ก็น่าสนใจ เราจะกลายเป็นนักสะสมของใช้เด็กอ่อนไปเรื่อยเลยก็ว่าได้ แต่เชื่อไหม...คุณแม่ทุกคนจะซื้อของใช้มาเก็บไว้ก่อนคลอด ราคาแต่ละชิ้นอาจแตกต่างแล้วแต่ความชอบ คาดว่าก่อนคลอดคุณแม่ทุกท่านน่าจะซื้อเพิ่มมาอีก จนลูกอาจใช้ไม่หมดเพราะโตก่อนก็เป็นได้
วันคลอด : หลังคลอด - กับการกระวนกระวาย : ทั้ง ๆ ที่ยังมาไม่ถึงเป็นวันที่นับถอยหลังเข้ามาทุกที อยากรู้สถานการณ์ว่าเหมือนกับการคลอดลูกคนแรกหรือเปล่า นอกโรงพยาบาลกี่วันกี่คืน ลูกจะเปลี่ยนเพศหรือเหมือนดังที่ได้อัลตราซาวด์หรือไม่ ผิวจะขาวหรือดำ หน้าตาเหมือนใคร หนักเท่าไร วันที่ปวดท้องจะรู้สึกอย่างไร ใครจะอยู่กับเรา ใครจะพาไปโรงพยาบาล ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ฯลฯ หลังคลอดต้องเลี้ยงเองอีก 3 เดือน คงหัวฟู ขอบตาดำ ใครจะช่วยเลี้ยง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแน่นอน นี่ยังน้อยนิดกับสิ่งที่จะเกิดในภายภาคหน้า แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมานานแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะทำได้ และทำได้ดีด้วย
ใครที่กำลังจะเป็นแม่ของลูกคนที่หนึ่ง หรือพร้อมที่จะตั้งครรภ์ : อาจมีสิ่งที่ต้องเตรียมรับมากกว่าข้างต้น
ไม่มีความเห็น