ประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดจากการไปสนทนากับชาวต่างชาติ
ในวันพฤหัสบดี ที่ 2 เดือน สิงหาคม พุทธศักราช 2555 เวลา 17.00 น. ณ บริเวณหน้าลานศาลหลักเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ข้าพเจ้ากับเพื่อนอีก 3 คน ก็ได้ร่วมทำกิจกรรมดีๆ ที่ทาง อ.ผศ. วิไล แพงศรี ได้มอบหมาย คือ กิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาติที่ได้มาร่วมชมงานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2555 ก่อนจะทำการสนทนากับชาวต่างชาติข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้นมาก และกลุ่มของข้าพเจ้าก็มีความกล้าๆ กลัวๆ ที่จะสนทนากับชาวต่างชาติ กลัวจะสนทนาไม่รู้เรื่อง และแล้วกลุ่มของข้าพเจ้าก็ได้รวบรวมความกล้านานพอสมควร กว่าจะได้สนทนากับชาวต่างชาติ ซึ่งชาวต่างชาติท่านนี้ มีภรรยาเป็นคนไทยด้วย ซึ่งกลุ่มของข้าพเจ้าก็ได้สนทนาเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่
1.What your name ?
2.Where are you from ?
3.Have you ever been to Ubonratchathani ?
4.Who you you come travel with ?
5.Why do you like ubonratchathani ?
ชาวต่างชาติท่านนี้ชื่อ เบน มาจากประเทศเบลเยียม และมาจังหวัดอุบลราชธานีเป็นครั้งแรก มาเที่ยวกับภรรยาที่น่ารักอีกด้วย ชอบจังหวัดอุบลราชธานีเพราะเป็นเมืองที่น่าอยู่ บรรยากาศดี ชอบประเพณีแห่เทียนของชาวจังหวัดอุบลราชธานีเพราะมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสิ่งที่ชอบมากที่สุดคือ การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายของชาวจังหวัดอุบลราชธานี
จากการที่ได้สนทนากับชาวต่างชาติแล้ว ก็รู้สึกดีใจและประทับใจมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้สนทนากับชาวต่างชาติ การพูดคุยในครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้ามีความกล้าที่จะสนทนาหรือพูดคุยกับชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น การที่จะสนทนากับชาวต่างชาตินั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ขอแค่เรามีความกล้าและความมั่นใจว่าเราสามารถทำได้ และการสนทนาในครั้งนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ขอขอบพระคุณ อ.ผศ. วิไล แพงศรี มากๆนะคะ ที่มอบโอกาสดีๆ และกิจกรรมดีๆ ให้กับกลุ่มของข้าพเจ้าได้ร่วมกันทำในครั้งนี้
ถ้าจะให้ได้เรียนรู้แบบที่เพื่อนๆก็ได้เรียนรู้ด้วยน่าจะเขียนคำตอบเป็นภาษาอังกฤษที่เราได้ยินมาจากชาวต่างชาติที่เราคุยด้วย โดยไม่ต้องแปลจะยิ่งดีนะคะ เพราะ"ฝรั่ง"แต่ละชาติเขาก็มีวิธีการพูดภาษาอังกฤษ (ซึ่งอาจไม่ใช่ภาษาแรกของเขาเหมือนกัน) ที่หลากหลายด้วยนะคะ เอามาเปรียบเทียบกับคำที่พวกเราถูกสอนให้พูดดูซิว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ชาติไหนเป็นอย่างไร เหมือนและต่างกันตรงไหน
ขอบคุณ 04 นรากร พิสิษพุฒิธาดา มากๆนะคะที่ได้มอบดอกไม้เป็นกำลังใจ
ขอขอบพระคุณ คุณโอ๋-อโณ มากๆนะคะสำหรับคำแนะนำที่ดีๆ หนูจะพยายามศึกษาข้อมูลและทำให้สมบรูณ์ในครั้งต่อไปค่ะ
1. What your name ? (What' s your name? มาจาก What is)
Ubonratchathani, ubonratchathani (Ubon Ratchathani) คำนี้ทุกคนควรใช้ให้ถูกต้อง เพราะเป็นคำที่ปรากฏทุกหนทุกแห่งทั้งป้ายชื่อมหาวิทยาลัย ป้ายจราจร ฯลฯ
4. Who you (do?) you come travel with ? (เป็นการแปลไทยเป็นอังกฤษแบบตรงตัว ซึ่งสำนวนสื่อสารภาษาอังกฤษจะไม่เป็นเช่นนั้น การถามว่า "ใครมากับคุณ หรือ คุณมากับใคร" อาจพูดได้ว่า "Who comes along with you? หรือ "Who are you accompanied by?"
ขอขอบพระคุณ อ.ผศ.วิไล แพงศรี มากๆนะคะ ที่ได้เข้ามาให้ดอกไม้ ประเมินให้คะแนน และชี้แนะจุดที่บกพร่อง หนูจะพยายามศึกษาข้อมูลและพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษให้มากกว่านี้ค่ะ
ร่วมชมประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2555
วันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดระยะเวลา 3 เดือนตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า จำพรรษา ( " พรรษา" แปลว่า ฤดูฝน ,"จำ" แปลว่า พักอยู่ ) พิธีเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง ละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม การเข้าพรรษาตากปกติเริ่มนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี (หรือเดือน 8 หลัง ถ้ามีเดือน 8 สองหน ) และสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 เดือน 11 หรือวันออกพรรษา
โดยวันเข้าพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ต่อเนื่องมาจากวันอาสาฬหบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ) ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งพระมหากษัตริย์และคนทั่วไปได้สืบทอดประเพณีปฏิบัติการทำบุญในวันเข้าพรรษามาช้านานแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัย
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%B2"
ในวันศุกร์ ที่ 3 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น. ผู้เขียนได้ร่วมชมขบวนแห่เทียนเข้าพรรษา ณ ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นงานแห่เทียนที่ยิ่งใหญ่และมีการแกะสลักเทียนพรรษาที่สวยงามมาก มีการประกวดขบวนแห่เทียนต่างๆที่แต่ละอำเภอส่งเข้าประกวดซึ่งแต่ละขบวนมีความสวยงามและความปราณีตที่แตกต่างกัน ช่วงชมขบวนแห่เทียนพรรษาฝนตกลงมาปรอยๆบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการชมขบวนแห่เทียนพรรษา นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นคนไทยเองหรือคนต่างชาติก็ตาม ยังให้ความสนใจและร่วมขบวนแห่เทียนพรรษาด้วยความสนุกสนาน
ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นคนไทย ในช่วงเข้าพรรษา ควรเข้าวัด ฟังธรรม ทำบุญตักบาตร รักษาศีล ทำจิตใจให้สงบ งดเว้นอบายมุขทั้งปวง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตนเองและยังได้อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้คนรุ่นหลัง ได้สืบทอดต่อไป
ไม่มีความเห็น
ความคิดเห็นที่ได้จากการศึกษาบันทึก Positive Thinking ของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
การที่เราจะทำอะไรหรือคิดอะไรก็ตามขึ้นอยู่กับจิตใจของเรา เพราะถ้าเรามีความเชื่อมั่นและคิดในทางที่ดี ก็จะทำให้เราสามารถทำสิ่งนั้นได้และทำออกมาได้ดีทีเดียว แต่ตรงกันข้ามถ้าเรามองในแง่ร้าย และคิดแต่ว่าเราทำไม่ได้ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงมือทำเลย ก็จะทำให้เราไม่มีกำลังใจ ไม่กล้าที่จะทำ ไม่มีความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งนั้น
ดังนั้นการคิดถือว่ามีอิทธิพลมากต่อการปฏิบัติตนและการดำเนินชีวิตของเรา
ขอขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ ที่ใช้ในการเรียน การทำงาน และการดำเนินชีวิตของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ
ขอขอบคุณ คุณโอ๋- อโณ นะค่ะที่แวะมาให้กำลังใจ
ขอขอบคุณ 03 อรดี ลีลาศ และ 02 ชฎารัตน์ ปุระมาปัด มากๆนะค่ะที่ได้เข้ามาอ่านบันทึกและให้กำลังใจ
ความคิดเห็นเกี่ยวกับเว็บไซต์หน่วยงานราชการ
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีนับว่ามีความสำคัญมากสำหรับบุคคลทุกกลุ่มทุกอาชีพ เพราะการสื่อสารการให้ความรู้การประชาสัมพันธ์ต่างๆต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพราะเทคโนโลยีสามารถทำให้เราสื่อสารหรือกระจายความรู้ต่างๆได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จึงนับว่าเทคโนโลยีมีความสำคัญมากในการดำรงชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน
ปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่พบว่าในกลุ่มผู้พิการยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเว็บไซต์ที่มีอยู่ยังไม่รองรับการใช้งานของผู้พิการข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขได้ประมาณการว่าไทยมีผู้พิการราว 1.8 ล้านคน หากคนกลุ่มนี้ได้รับโอกาสการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจะช่วยพัฒนาศักยภาพเป็นพลังในการช่วยเหลือสังคมได้ แต่จากการสำรวจพบว่า 90% ของเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐ ยังไม่เอื้ออำนวยแก่ผู้พิการและผู้สูงอายุ เพื่อยก ระดับคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มนี้ สสส.จึงได้พัฒนาเว็บไซต์ www.thaihealth.or.th ให้รองรับการใช้งานของผู้พิการทุกประเภทและผู้สูงอายุ ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึง
ดังนั้นทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ในการที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารต่างๆผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นวัยใดก็ตาม คนปกติหรือคนพิการก็ตาม ฉะนั้นควรจะพัฒนาเว็บไซต์ในการรับรองการใช้งานของผู้พิการให้พวกเขาได้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ เข้าไปเรียนรู้ข่าวสารต่างๆและสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ และยังยกระดับชีวิตของผู้พิการให้ดีขึ้นได้อีกด้วย เทคโนโลยีเมื่อใช้ได้ถูกวิธีก็จะเป็นประโยชน์แก่สังคม และตรงกันข้ามถ้าใช้ผิดวิธีก็อาจเป็นอันตรายต่อสังคมได้เหมือนกัน
ขอขอบพระคุณ สสส.ร่วมกับ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย บริษัท โอเพ่นดรีม จำกัด และสถาบันเชนจ์ฟิวชั่น ที่ทำให้คนปกติหรือคนพิการสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างเท่าเทียมกันค่ะ
ขอขอบคุณ โอ๋-อโณ. และ 02 ชฎารัตน์ ปุระมาปัด มากๆนะค่ะที่ได้เข้ามาอ่านอนุทินและให้ดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจ