ครูอ้อยกำลังมีภัย
ภัยอันแรก คือภัยไวรัสคุกคามเครื่องมือเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์อย่างร้ายกาจ ประเมินดูอย่างคร่าวๆแล้ว ก็สมควรล่ะค่ะ เพราะครูอ้อยได้ใช้มันมากเหลือเกิน ในแต่ละวัน ดังนั้นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน นำเครื่องมือดังกล่าวเข้าโรงซ่อม ไปหาหมอคอมล่ะค่ะ
ภัยอันที่สอง คือภัยสุขภาพ ครูอ้อยถูกโรคภัยคุกคามตามมาติดๆกับการทำงานสำเร็จปุ๊บ โรคภัยตามมาก็คือ โรคความดันโลหิตสูง ครูอ้อยยังไม่ได้กินยารักษาโรคนี้ เพราะคุณหมอให้ครูอ้อย งด อด และลด อาหารด้วยตนเอง คุณหมอคงเห็นครูอ้อยยังสาว มั้งคะ การดำเนินการนั้น ต้องออกกำลังกาย นี่งานใหญ่เสร็จแล้ว ครูอ้อยจะนำจักรยาน ไปล้าง เติมลมและขี่มันไปรอบๆๆนะคะ
ภัยอันที่สาม คือ ภัยมิตรภาพ ระยะนี้ความเหินห่างจากเพื่อนฝูงมีมากมายเพราะครูอ้อยทำแต่งาน รัก โลภ โกรธ และหลงจึงเข้ามาทำร้ายมิตรภาพของเรา รักที่ผิด โกรธที่ไม่เข้าใจ โลภที่เอาแต่ใจ หลงที่ไม่เพียงพอ มิตรภาพของเราจึงจืด และจาง เกือบจะหายไปแล้ว การดำเนินการของครูอ้อยก็คือ ให้อภัย และเข้า เข้าถึง จึงจะพัฒนามิตรภาพยืนยาวต่อไปได้
จบ
จำไว้ ความรักทำให้โง่ ทำให้โง่ ท่องเอาไว้ เห้อ... วันนี้ทำอะไรพัง เพราะประมาทในความรัก คิดว่าฝึกมาดีแล้วเชียว แต่เปล่าเลย... ยัง ยังไม่พอ ต้องฝึกต่อไป
คุณคุณ เคย มีงานมากแบบล้นเหลือไหมคะ และเหมือนครูอ้อยไหม ที่ชอบทำงานที่ชอบก่อน ก็เลยเหมือนเราได้ทำงานแล้ว งานที่มากๆๆนั่นล่ะยังคงอยู่เท่าเดิม แต่การที่เราได้ทำงานที่ชอบที่ถนัด.....งานลดลงไปเลย....เป็นไหม เป็นมั้ยคะ
หนักงาน คือทำงานมาก ภาระมาก หน้าที่มาก แต่ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
แต่หนักใจ คือ ไม่มีงานมาก แต่ต้องกำกับดูแลให้คนทำงานแทนเรา ได้แต่หนักใจ งานก็ไม่สำเร็จ
คุณจะเปลี่ยนอะไรๆๆในโลกนี้ได้เสมอ ตามอำเภอใจ แต่....คุณเปลี่ยน คน ไม่ได้เลย
เสียใจมากที่ไม่ได้ไปร่วมงานกับน้องตูลที่ได้เชิญครูอ้อยไว้ ด้วยงานนี้ที่ทำอยู่เร่งรัดเหลือเกิน ประกอบกับเป็นงานละเอียดอ่อนที่ไม่สามารถมอบหมายให้ใครทำได้
หวังว่าคงเข้าใจ ครูอ้อย แซ่เฮ นะคะ อย่าโกรธเลย ยอมทุกอย่างแล้ว
ถึงเวลาที่จะนั่งมอง ดู ชื่นชมผลผลิตทุกเรื่องที่ได้ทำมาตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษของตนเอง
แอบยิ้มและหัวเราะอย่างเปิดเผยเมื่อเห็นผลแห่งการกระทำของตนเอง เหมือนกระจกเงาส่องให้เห็นผลแห่งกรรม
ถึงได้บอกได้สอนลูกหลานและลูกศิษย์เสมอว่า จงคิดดี พูดดีและทำดี
คุณค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน การคิด การพูดและการปฏิบัติ
เกิดมาเป็นคน ที่ยังมีชีวิตอยู่ ต้องดิ้นรนกันไปตามวัฎสงสารของแต่ละคนที่ได้ทำกันมา
แต่ในส่วนที่ดีของคน จะปรากฏขึ้นมาก็ต้อง ทำ และมารอ สิ่งที่ดีมาหานั้น ก็ใช่ไม่
ดังนั้น โปรด คิดดี พูดดี และทำดี
อะไรๆในโลกนี้ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ของเรา แม้แต่ตัวเราเองยังต้องสลายไปเมื่อถึงคราว เราไม่ใช่เรา เขาก็ไม่ใช่เรา
ดังนั้น จะคิดมาผูกมัดกันให้หมดอิสระกันทำไม ให้ปล่อยวางจะห่างจาก รัก โลภ โกรธ หลง เราจึงจะธำรงอยู่ได้ในความสงบ
ขอให้เหลือแต่ความมั่นคง มั่นใจ เท่านั้นเป็นพอ
ไม่เชื่อหรอกบอกไม่มีเวลาน่ะ ก็วันหนึ่งมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน ทุกคนในโลกนี้ สุดแล้วแต่ว่า แต่ละคนจะจัดสรรเวลาให้กับตนเองได้อย่างไร
วันหนึ่งคนหนึ่งอาจจะนอนมากเพราะสุขภาพไม่ดี บางคนนอนน้อยเพราะต้องใช้เวลาไปทำอย่างอื่น อาจจะเรียนหนัก อาจจะทำงานหนัก เวลาก็เลยเหมือนมีไม่เท่ากัน
ขอเวลาให้ฉันบ้าง ตอบว่า ใครล่ะจะให้ได้ ตัวเองไงล่ะ ที่จะให้ตนเองได้ ลองดูสิ ทำใจให้ว่าง ทำอะไรในสิ่งที่ตนเองชอบ แล้วเวลาจะมาหาคุณเอง
ใส่ใจกับคนรอบข้างก็เหมือนกับใส่ใจตนเองด้วย หมายความว่า หากเรายินดีมีความสุขกับเขา....เราก็สุข เราพูดคุยกับเขาดีดี สิ่งที่ดีดีก็กลับมาหาเรา เหมือนกับคำหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า...ศัตรูคือ มิตรรักที่ยังไม่ได้จับเข่าคุยกัน
เมื่อวานนี้ ครูอ้อยต้องนั่งทำงานเป็นทีมเดียวกับเพื่อนที่เคยว่ากล่าวนินทาครูอ้อย ครูอ้อยเก็บเรื่องเคืองขุ่นหมองใจไว้ข้างใน และ คิดเสมอว่า น้ำขุ่นอยู่ใน น้ำใสอยู่นอก
เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเพื่อนครูอ้อยก็มีความสุขนะ จนคิดว่า เพื่อนคนนี้ต้องเข้าหา แบบ อยากได้ลูกเสือ ต้องเข้าถ้ำเสือ เสียแล้ว