ปวดหัวกับความรู้เรื่องพระเครื่องครับ

ส.อยากรู้

คือมันเป็นอย่างนี้ครับ ผมเริ่มมีความสนใจในพระเครื่องก็ตอนที่พ่อเค้านำพระเครื่องต่างๆที่สะสมมาดู ผมก็ส่องดูบ้าง ก็ส่องไปงั้นๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่ผมสนใจเรื่องธรรมะ และปฏิบัติธรรม อยู่บ้าง(เป็นศิษย์ของลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำอีกที) ก็เริ่มหันมาเก็บรูปพระเครื่องจากในหนังสือพิมพ์เพราะมีบางส่วนที่เหมือนกับพระเครื่องของพ่อ หลังจากนั้นขอพระเครื่องจากคุณพ่อเพื่อไปให้ตามร้านรับเช่าพระดู แท้สะส่วนใหญ่ ถึงมั่งไม่ถึงมั่ง อะไรของเค้าก็ไม่รู้ เรื่องมันเริ่มตรงนี้แหละครับ คุณเอาอะไรมาวัดว่าพระเครื่ององค์นี้ องค์นั้น แท้ไม่แท้ ยกตัวอย่าง พระสมเด็จที่ว่าแพงกันเหลือหลาย คุณเกิดทันมั๊ย หนังสือพระเครื่องที่เราเห็นกัน ภาพพระต่างๆ บางเล่มยังเอาของปลอมมาลงไว้(ตั้งราคาไว้สูงมาก) ในส่วนของหนังสือนี้เคยมีผู้รู้บอกผมว่าภาพที่ลงอย่าไปเชื่อมากเพราะบางองค์เป็นพระปลอม เมื่อคืนดูรายการ VIP เป็นเรื่องราวของ บอย ท่าพระจันทร์ มีเรื่องนึงครับที่ผมติดใจคือ แกมีพระอยู่องค์นึงแกบอกว่า องค์นี้ปลอม รับเช่ามาในราคา 450,000 บาท เพราะองค์นี้ปล่อยต่อได้ 1ล้านบาท หลังจากนั้น ก็นำพระตรวจสอบในรายละเอียด ก็ไม่แน่ใจ จึงโทรไปถามคุณพยัฆ คำพันธ์ เพื่อขอดูรูปของพระองค์นี้ และสอบถามถึงจุดเด่น (ตำหนิ) ปรากฏว่า พระองค์นี้ตรงเส้นคอ ต้องมี 3 เส้น แต่ที่บอย เช่ามา มีแค่ 2 เส้น ตรงนี้แหละครับ ผมอยากถามว่า แล้วรูปหรือความรู้ที่คุณพยัฆ มี รู้ได้อย่างไรว่าเป็นของแท้ พอเริ่มสนใจ แต่พบปัญหาโลกแตก ก็รู้สึกท้อ แต่มันอยากนี่ครับ เลยต้องเดินหน้าต่อไป

ความเห็น (3)

ไม่มีความเห็น

คำตอบ (1)

ดร. แสวง รวยสูงเนิน

เขียนเมื่อ

อย่าเรียนด้วยอารมณ์และความรู้สึก

ต้องเรียนด้วยความรู้ ความเข้าใจ และปัญญา

ใครจะว่าอย่างไร ก็เก็บมาเป็นข้อมูลก่อน อย่าใช้เป็นความรู้ ถ้าใช้เวียนหัวตายแน่นอน เพราะมากมาย

ค่อยๆคิด ว่าอะไรจริงไม่จริง

สิ่งที่เป็น สิ่งที่น่าจะเป็น และไม่น่าจะเป็น แล้วนำมาจัดการความรู้

แล้วท่านจะรู้ ท่านจะเข้าใจ และมีปัญญาที่จะทำในสิ่งที่ท่านคิดไว้ โดยไม่เวียนหัว เสียอารมณ์ครับ

ขอให้โชคดี อยู่ในโลก อย่างรู้เท่าทันโลกครับ

ที่ท่านถามว่าแท้ไม่แท้ นั่นเป็นตัวอย่างที่ท่านนำข้อมูลมาปนกัน และคิว่าเป็นความรู้

ความแท้กับความเชื่อเป็นคนละเรื่องกันครับ

ทั้งสองคนพูดตามความเชื่อของตัวเองที่มีทั้งส่วนเหมือนและส่วนต่าง

แต่ท่านเอาไปสรุปว่าเป็น "ความแท้" ของท่านเอง

ท่านจึงสับสน

ถ้าจะทำให้เป็นเรื่องเดียวกันก็ต้องมีการตรวจสอบ ศึกษา ค้นคว้า "ด้วยตัวเอง"

ให้คนอื่นทำ เขาก็ทำตามความรู้และความเชื่อของเขา ไม่ตรงและเข้าใจยากเช่นเดิม

ค่อยๆคิด ค่อยๆเรียน ค่อยๆ ศึกษา แล้วท่นจะมีความรู้ และปัญญา

ที่ผมกำลังทำอยู่ครับ

ผมกำลังเรียนอย่างช้าๆ (แบบรวดเร็ว) และเรียนเร็ว (อย่างระมัดระวัง)

ถ้าสนใจมาเรียนด้วยกันซิครับ

ความเห็น (3)

สงขลา

เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2010 19:28 น. ()

ความเห็นของผมนะครับ... สำหรับพฤติกรรมหลากหลายของเหล่าบรรดาเซียนพระเครื่อง ตลอดถึงวงการประกวดพระเครื่อง

ล้วนเป็นการปั่นราคาทั้งสิ้น...ลึกๆขาดความสุจริตโดยพื้นฐาน มักมีการอ้างอิงตำแหน่งของบุคคลในเครื่องแบบทหาร ตำรวจ และโหนกระแสความมั่งคั่งนักธุรกิจปลอดภาษีที่เป็นลูกค้าขาใหญ่...ก็ไม่ว่ากัน

อย่าเพิ่งหลงเชื่อหนุ่มวัยกระเตาะหน้ามลท่าพระจันทร์ มักชอบโชว์เสื้อครุยทำ พีอาร์ตัวเอง อัฟเกรดวงการพระเครื่องให้ดูดีควักกระเป๋าจ่าย 450,000 บาท ให้กับเหรียญนั้นหรือเหรียญอื่นๆ ที่ก๊วนในวงการร่วมกันปั่นราคา...วางแผนเป็นขั้นเป็นตอน

มะรุมมะตุ้ม "เบิกเนตร" สังคมทั่วไป...มีสื่อที่เป็นพรรคพวกสร้างให้เป็นข่าวเนืองๆ

การสร้างภาพอดีตกุ๊ยบุรุษ ที่สถาปนาตัวเองเป็นสถาบันเดินได้ องค์ไหนพระแท้แต่ข้าสวดว่าเป็นเก๊ก็คือเก๊...องค์ไหนเก๊แต่(ขอโทษ)กูว่าแท้ก็ต้องแท้...และจำหน่ายให้เอ็งได้แพงๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นพระปิดตา หลวงพ่อแก้ว หลวงปู่จีน แร่บางไผ่ วัดหนัง ยุคไหนๆ เครื่องราง ตะกรุดสายไหน (ขอโทษอีกที) ต้องผ่านการรับรองจากข้าซะก่อน นัยว่าเป็นสถาบันมาตรฐานอย่างยิ่ง

หากเรามองให้ลึกถึงแบร็คกราวน์ ของผู้คนในวงการนี้แล้วแทบทุกเซียนในทุกห้าง..ทุกท่าตั้งแต่พระจันทร์ยันดวงดาว ก็ยังมองหาอะไรที่จัดว่าเป็น Pure science ไม่ได้จริงๆ ไม่มีคำอรรถาธิบายมีแต่เก๊กท่าและการวางมาดให้เหมือนผู้ทรงภูมิ ทั้งๆที่บางคนพูดไทยยังไม่ชัดเลย หลายครั้งที่เคยสัมผัส การใช้ภาษาพูดคำสบถคำในร้านระหว่างสมาชิกฟังแล้วต้องเดินหนี

กระผม ดีใจที่มาเจอะเจอ website นี้ในการศึกษาพระเครื่องที่ดีที่สุดตั้งแต่ศึกษามา ซึ่งให้ความรู้มีเหตุมีผลและสติแก่ผู้อ่านที่นับถือพุทธและ เชื่อมั่นในพระพุทธคุณของพระเครื่องที่หลายๆคนอาราธนาห้อยคล้องคอก่อนออกจากบ้าน ขับรถไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ ไปเที่ยวต่างจังหวัด ...ขอกราบท่านอาจารย์ ดร. แสวง รวยสูงเนิน มา ณ บรรทัดสุดท้ายนี้ด้วยความเคารพยิ่งครับ...

ดร. แสวง รวยสูงเนิน

เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2010 22:52 น. ()

ดีใจด้วยครับ ที่เป็นตัวของตัวเอง และเข้าใจสัจธรรมของโลกได้ดี

ท่านจะรอดปลอดภัยจาก "วิชามาร" ก็ด้วยเหตุฉะนี้แล

สาธุ

kata

เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2011 14:28 น. ()

ผมมีความสนใจในพระเครื่อง ตั้งแต่ได้รับมรดกมาจากปู่ และเริ่มสะสมเรื่อยมา โดยมีความสนใจพิเศษเรื่องพระกรุ และต้องการศึกษาในเชิงวิชาการในความเป็นวัตถุโบราณและศิลปะ เพิ่งค้นหามาเจอwebsiteนี้ครับ ยังงงอยู่ว่า website นี้ใช้กันอย่างไร และสนใจมากที่จะแลกเปลี่ยนความรู้กับ ดร แสวง เนื่องจากผมเพิ่งได้พระร่วงรางปืนมาหนึ่งองค์ และพระร่วงรางปืนนี่แหละที่ทำให้ค้นหามาเจอข้อมูลดร แสวง