สภาวธรรมแห่งวัฏสงสารนั้นไร้แก่นสาร
ก่อให้เกิดความปรารถนาและความขุ่นข้อง
สรรพสิ่งที่เราปั้นแต่งล้วนปราศจากความจีรัง
ด้วยเหตุนี้ จึงควรแสวงหาสัจธรรมอันล้ำค่า
สภาวธรรมของจิตนั้นไม่อาจเห็นค่าความหมายของอจิตได้
สภาวธรรมแห่งกรรมย่อมไม่อาจประจักษ์ในอกรรมได้
หากเจ้าต้องการจะบรรลุถึงอจิตและอกรรม
เจ้าย่อมตัดขาดรากเหง้าแห่งจิต
และปล่อยให้ดวงวิญญาณดำรงอยู่อย่างเปล่าเปลือย
จะปล่อยให้น้ำอันขุ่นข้นแห่งเจตสิกใสกระจ่าง
ไม่จำเป็นต้องระงับยับยั้งความรู้สึกนึกคิด
แต่ปล่อยให้มันสงบลงตามกาล
หากไร้ซึ่งการดึงดูดหรือผลักไส
เจ้าจะหลุดพ้นในมหามุทรา
เมื่อพฤกษาผลิใบและกิ่งก้าน
หากเจ้าบั่นรากมันเสีย ใบและกิ่งก้านย่อมร่วงโรยลง
เช่นเดียวกัน หากเจ้าตัดรากถอนโคนของจิต
ความรู้สึกนึกคิดทั้งหลายย่อมเสื่อมทรามลง
ไม่มีความเห็น