บทที่ 3 พันธุ์และการขยายพันธุ์ยางพารา
3.1. พันธุ์ยางพาราที่น่าสนใจในปัจจุบัน ได้แก่
ก. พันธุ์ RRIM 600 เป็นยางที่เหมาะสำหรับปลูกได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย แต่มีการต้านทานโรคต่ำ
ข. พันธุ์ RRIT 251 เป็นพันธุ์ยางให้ผลผลิตสูง เหมาะสำหรับพื้นที่ภาคใต้ แต่ไม่ควรปลูกบริเวณเนินเขา เพราะจะทำให้เกิดการพังทะลายของหน้าดินได้
ค. พันธุ์ RRIT 408 เป็นพันธุ์ยางที่ได้ทำวิจัยขึ้นเพื่อปลูกในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพันธุ์ยางให้ผลผลิตสูง
- RRIM ย่อมาจาก Rubber Research Institute of Malaysia (สถาบันวิจัยยาง มาเลเซีย) , RRIT ย่อมาจาก Rubber Research Institute of Thailand (สถาบันวิจัยยาง ไทย)
3.2. การขยายพันธุ์ยางพารา
ก. การเพาะเมล็ด - เพื่อใช้เป็นต้นตอ
ข. การติดตายางพาราพันธุ์ดี - เพื่อการปลูกเป็นการค้า
3.3. การปรับปรุงพันธุ์ยางพารา
ก. ขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์พืชโดยทั่วไป
1.การรวบรวมพันธุ์
2.การคัดเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมในท้องถิ่น
3.การผสมพันธุ์เพื่อให้ได้พืชสายพันธุ์ใหม่
ข. ขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์ยางพารา
- การปรับปรุงพันธุ์ยางพารา เพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่ -มีอยู่ 2 แนวทาง คือ
1.การผสมพันธุ์ยางพารา -โดยการนำเกสรตัวผู้จากต้นที่มีลักษณะดีเด่นตามที่
ต้องการ ไปผสมกับเกสรดอกตัวเมียบนต้นแม่ที่มีลักษณะดีเด่นเช่นกันในสภาพแปลงปลูก
ตามธรรมชาติ ซึ่งวิธีการนี้ยังคงเป็นที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันในกลุ่มประเทศผู้ผลิต ยาง
ธรรมชาติ เนื่องจากสามารถทราบประวัติของพันธุ์พ่อ-แม่ และสามารถติดตามการถ่ายทอด
ลักษณะต่าง ๆ ในลูกผสมได้เมื่อนำไปปลูกทดสอบ
-นิยมใช้วิธีผสมเกสรด้วยแรงคน ถึงแม้ว่าด้วยวิธีการนี้อัตราความสำเร็จหรืออัตรา
การผสมติดอยู่ในระดับต่ำ มาก คืออยู่ระหว่าง 2-5 % เท่านั้น และยังมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก
และมีปัจจัยหลายอย่างที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลสำเร็จ ทั้งที่ควบคุมได้และไม่ได้ เพราะ
เมล็ดที่ผสมนี้อยู่ในสภาพธรรมชาติ และเมล็ดจะใช้เวลาถึง 5 เดือนจึงจะพัฒนาเป็นเมล็ดแก่
ดังนั้นในช่วง 5 เดือนนี้ เมล็ดก็ต้องเสี่ยงอยู่ในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ จึงมีผลให้
ความสำเร็จอยู่ในอัตราต่ำ
-การผสมพันธุ์ของยางพาราจะต่างจากพืชอื่นคือ ฝักยางพาราจะประกอบ ด้วย 3
เมล็ด ในการผสมพันธุ์แต่ละฝักจะต้องได้รับการผสมครบทั้ง 3 เมล็ดก่อน จึงจะมีการ
พัฒนาต่อเป็นเมล็ดแก่ ถ้าได้รับการผสมเพียง 1 หรือ 2 เมล็ด ก็จะมีการพัฒนาต่ออีกระยะ
สั้นๆ แล้วร่วงในที่สุด
2.การนำเข้าพันธุ์ยางพาราจากต่างประเทศ - ตามโครงการแลกเปลี่ยนพันธุ์ยาง
ระหว่างประเทศ -ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ฝรั่งเศส
และประเทศบราซิล โดยการนำพันธุ์ยางพาราที่ได้จากการแลกเปลี่ยนไปปลูกทดสอบ
และคัดเลือกพันธุ์ในแปลงเปรียบเทียบพันธุ์ขั้นต้น และแปลงเปรียบเทียบพันธุ์ขั้นปลายใน
ท้องที่ต่าง ๆ โดยใช้ขั้นตอนและเวลาดำเนินการเช่นเดียวกันกับพันธุ์ยางที่ได้จากการผสม
พันธุ์ในประเทศ
- การทดสอบสายพันธุ์ยางพารา
1.แปลงคัดเลือกพันธุ์ยางซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี เพื่อคัดเลือกสายพันธุ์ลูก
ผสมที่มีลักษณะดีตามที่ต้องการ
2.แปลงเปรียบเทียบพันธุ์ขั้นต้น ซึ่งใช้เวลาอีกประมาณ 10 ปี
3.แปลงเปรียบเทียบพันธุ์ขั้นปลายในท้องที่ต่าง ๆ โดยใช้เวลาอีกประมาณ 13 ปี
ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาดำเนินการประมาณ 26 ปี เป็นอย่างน้อย
- การขยายพันธุ์ยางพาราพันธุ์ใหม่ที่ได้ -มีอยู่ 2 แนวทาง คือ
1.การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
2.การขยายพันธุ์โดยการติดตา
--------------------------------
(ข้อมูลบางส่วนจาก : http ://www .reothai .co .th และ http ://smarttapper .com/forum/index .php/topic156.0)
ไม่มีความเห็น