วันนี้ีฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนนักศึกษาครูสมาธิท่านหนึ่่งที่ลาออกจากราชการ
ตั้งแต่อายุ ๕๐ ปี น่าเสียดายความรู้ความสามารถยิ่งนัก
"พี่โดน สมศ.ทำร้ายจน่บอบช้ำ ต้องรับผิดชอบงานทั้งโรงเรียนฝ่ายบริหารก็ไม่ช่วย...ปิดเทอมแทบไม่ได้หยุด ขณะที่คนอื่นไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนานพี่ได้หยุดอย่างมากก็อาทิตย์เดียว วันเสาร์ อาิทิตย์พี่ก็ต้องมาทำงานแทบทุกอาทิตย์....พี่พอแล้ว ขืนพี่อยู่ต่อไปคงไม่มีเวลาทำอะไรเพื่อตัวเอง..."
นี่แหละระบบราชการใครทำงานดี รับผิดชอบสูง ทำกันจนวันตาย
ขณะที่คนไร้ความรับผิดชอบ เช้าชาม เย็นชาม สามารถอยู่จนเกษียณอายุ
อย่างมีความสุข...
....เสียดายคนดียิ่งนัก... ช่วยกันรักษาดีไหม ให้กำลังใจเขาบ้าง
อย่าใช้งานเขาหนักมากไปจนเขาทนไม่ได้...
ธรรมทิพย์
๒๕ มกราคม ๒๕๕๗
ในฐานะที่เคยเป็นผู้ประเมินภายนอกมาก่อนผมว่าเรื่องนี้เป็น first priority ที่สมศ.ต้องปรับปรุง (ที่จริงมีอีกมากมายหลายเรื่อง) สมศ. (ตั้งแต่ระดับนโยบาย บอร์ดบริหารไปจนถึงตัวผู้ประเมินไม่เข้าใจคำว่า “การเข้ามาขัดจังหวะ” (Interruption) ว่ามีผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กร (โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็ก) อย่างไร
ทางแก้คือสมศ.และผู้ประเมินภายนอกต้องเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ หรือไม่ก็ต้องให้หน่วยงานนี้เป็นของเอกชนไปอย่างเต็มตัวเหมือนในต่างประเทศ