จินตนาการ...แรงบันดาลใจ
พักกลางวันของวันหนึ่ง ขณะที่ดิฉันเดินไปห้องสมุดเห็นเด็กอนุบาลหญิงสองคนนั่งคุยกันอยู่โต๊ะอ่านหนังสืออยู่หน้าห้องสมุด ทั้งสองยกมือไว้และกล่าวสวัสดีก็เลยไปนั่งคุยด้วย ตอนแรกก็ทำท่าเอียงอายไม่ค่อยกล้าคุยด้วย ดิฉันรู้ว่าเด็กสองคนเป็นลูกสาวของลูกศิษย์ก็สอบถามข่าวแม่ของเด็กๆ เด็กเริ่มคุ้นเคยกล้าพูดจาฉะฉาน น่ารักมาก
ถามต่อว่า "หนุมาทำอะไรที่นี่" เด็กบอกว่า "มาอ่านหนังสือค่ะ" มองดูที่โต๊ะไม่มีหนังสือสักเล่ม "ไหนล่ะหนังสือที่อ่าน" เด็กบอกว่า "อยู่ในห้องสมุดค่ะ หนูยังอ่านไม่ได้ค่ะ" พูดแล้วก็เขินอาย ดิฉันชวนคุยต่อสักครู่หนึ่ง เด็กคนหนึ่งลุกขึ้นยืนพร้อมถามดิฉันว่า "คุณครูอยากฟังนิทานไหมคะ หนูจะอ่านให้ฟังค่ะ" แล้วเธอก็เกินเข้าไปในห้องสมุด หยิบหนังสือภาพออกมาเล่มหนึ่ง
แล้วนั่งลงข้างๆดิฉัน แล้วนักเล่านิทานตัวน้อยก็เริ่มอ่านให้ฟัง นิทานที่อ่านกับเนื้อเรื่องไม่ตรงกันนั่งฟังจนเด็กเล่าจบ ดูเด็กมีความสุขที่ได้เล่านิทานให้ครูฟัง ดิฉันถามว่า "เก่งจัง ทำไมหนูอ่านได้ล่ะลูก" เด็กยิ้มอายและบอกว่าคุณครูจะเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนตอนบ่ายทุกวัน เด็กสนุกและชอบมากๆ
เสียงออดดังขึ้นเด็กรีบเก็บหนังสือไปไว้ในชั้นวางหนังสือ เด็กยกมือไหว้ขอบคุณและรีบวิ่งไปเข้าแถวตอนกลางวัน
เด็กๆเริ่มทยอยออกจากห้องสมุด เพื่อเข้าแถวทำกิจกรรมในตอนบ่ายที่อาคารอเนกประสงค์
สรุปได้ว่า ครูมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการอ่าน การที่ครูเล่านิทานให้เด็กฟังก่อนนอนทุกวัน เด็กจะซึมซับ เกิดจินตนาการ และรักการอ่านโดยไม่รู้ตัว ครูเป็นแรงบันดาล ครูเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้เขาอยากอ่าน อยากรู้ อยากเห็น แล้วพวกเขาจะเลียบแบบครูในที่สุด
จริงที่สุดคะ ยินยัน นอนยัน ตะแคงยันคะ
มีสิบมือจะยกทั้งสิบมือนะคะ
อ้าว !!!! ไม่ใช่ทศกัณฑ์
ทศกัณฐ์ ขออภัย
ผู้ใหญ่ทั้งหลาย คือตัวอย่างที่ดีในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้เด็ก ๆ จ้ะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและให้ข้อคิดเห็นค่ะ
คุณครูอร วรรณดา น่ารักมาก ดิฉันอยากไปเกิดใหม่เพื่อมาเป็นลูกศิษย์คุณครูค่ะ เด็กๆ สองคนนี้รวมทั้งเด็กอื่นๆ โชคดีมาก ดิฉันเขียน comment ยาวมากจนดูไม่เหมาะสม จึงจะขอยกไปเขียนเป็นบันทึกของตนเองในครั้งต่อไป ขออนุญาตคุณครูล่วงหน้าเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ