ไปงานมหกรรม KM ภูมิภาค ที่ มน. สัปดาห์ที่แล้ว เห็นสมาชิกลุ่มเฮฮาศาสตร์พบกัน เป็นต้องกอดกัน ผมเกิดความสงสัยว่าเจ้าวัฒนธรรมกอดมันเกิดในกลุ่มเฮฮาศาสตร์ได้อย่างไร
ก่อนกลับผมยังกระเซ้าสาวๆ ในทีม มน. ว่าผมขอโทษที่ไม่ได้กอดลา เพราะกอดไม่เก่งเหมือนครูบาฯ ดร. แสวงจึงมากอดผมแทน ให้ความรู้สึกที่ดี และรู้สึกว่ามีความรักความปรารถนาดีถ่ายทอดมากับสัมผัส
วันนี้ (๒ ต.ค. ๕๐) เราไปเข้าฝึกหัดความสร้างสรรค์ (Creativities Workshop) แบบฝึกหัดที่ ๔ คือการกอดรัดกัน ภาษาอังกฤษว่า hug
หลังจากแบบฝึกหัดผ่านไป เรา ลปรร. ความรู้สึกกัน มีคนบอกว่า การกอดไม่อยู่ในวัฒนธรรมไทย เราไม่คุ้นเคย แรกๆ รู้สึกกระดากกระเดื่อง ต่อมาก็รู้สึกสะเทือนใจ บางคนถึงกับร้องไห้ หรือน้ำตาไหล ครู คือคุณ Gil Alon บอกว่า แม้ฝรั่งที่มีวัฒนธรรมกอดอยู่แล้ว มาทำแบบฝึกหัดนี้ก็รู้สึกสะเทือนอารมณ์ เพราะที่กอดๆ กันนั้น ส่วนใหญ่เป็นการกอดกันด้วยมรรยาททางสังคม ไม่ได้กอดกันด้วยใจ พอมากอดกันแบบ "สัมผัสแนบแน่นถ่ายเทความรักสู่กัน" ทุกคน ทุกชาติทุกภาษา ทุกวัฒนธรรม จะรู้สึกสะเทือนอารมณ์
การกอดรัดสัมผัสอย่างถูกต้องเป็นการที่ "มนุษย์สัมผัสมนุษย์" ให้ความรู้สึกอบอุ่นเอื้ออาทร ความรักและความเท่าเทียมกัน
ครูบอกว่า วิธีกอดที่ถูกต้อง คือ
• กอดแบบสัมผัสแน่นไว้เฉยๆ ไม่ใช้มือตบหลัง หรือลูบหลัง
• ไม่เอามือของเรามาประสานหรือเกยกัน ต้องให้มือของเรากอดแผ่นหลัง ของเพื่อนไว้แน่น
• กอดให้แน่น จนอาจรู้สึกหัวใจเต้นของเพื่อน
ขอย้ำว่าไมีมีเรื่องอารมณ์ความรู้สึกทางเพศแต่อย่างใด
ผมมองว่า การกอดเป็นการสื่อสารแบบ อวัจนะ (non-verbal) สื่อสารความรัก ความเห็นอกเห็นใจ อันจะนำมาซึ่งความไว้วางใจ ความเชื่อมั่นระหว่างกัน และนำไปสู่ "ความสร้างสรรค์รวมหมู่" (collective creativity)
ผมเชื่อว่า ครอบครัวใด พ่อแม่ลูกกอดกันทุกวัน ตั้งแด่เด็กจนโต ลูกจะเป็นคนมีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง
วิจารณ์ พานิช
๒ ต.ค. ๕๐
บันทึกนี้เป็น...บันทึกที่อ่านแล้วสดชื่น...ตื่นเต้น...ได้ความรู้ระคน..กัน...อ่านแล้วรู้สึกขอบคุณค่ะ...ขยับเข้าใกล้อาจารย์ได้อีกนิดนึง...
น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่ พิษณุโลกไม่มีโอกาสได้กอดท่านอาจารย์ เอาไว้จะไปกอดถึง สำนักงาน สคส.เลยครับ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์
ตัวดิฉันเอง อยู่ในครอบครัว ที่คุณพ่อคุณแม่กอดลูก แสดงความรัก แต่ไม่บ่อยมาก
พอมาถึงลุตัวเอง กอดกันทุกวัน ตั้งแต่เกิดจนป่านนี้ โตมากแล้ว ก็ยังกอด และหอมแก้มกันทุกครั้งที่พบกัน แม้แต่อยู่บ้านเดียวกัน ก็กอดกันทุกวัน
ถ้า วันไหนไม่กอดเขาๆ จะมองหน้า แล้วสงสัยว่า แม่กังวลใจเรื่องอะไรอยู่ค่ะ และขอยืนยันเรื่อง จะมีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง
เพราะ คนจะเข้าใจผิด ว่าเขาเป็นลูกชายคนโตเสมอ เพราะเป็นคน calmและมีบุคคลิกแบบพี่คนโตจริงๆค่ะ
แค่กอดแขน โอบไหล่ สัมผัสเล็กๆ น้อยๆ เวลาปลอบเด็ก ก็ทำให้เขารู้สึกอบอุ่น มั่นใจ
นี่ถึงกับกอดแนบแน่น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกดีมากครับ
สวัสดีครับอาจารย์
การกอดกันเป็นสัมผัสแห่งความอบอุ่นจริงๆครับ
ผมนึกถึงการกอดลูกแบบรู้สึกเป็นห่วงตอนไปส่งลูกเข้าหอพักในม.วลัยลักษณ์ และกอดลูกเพื่อให้กำลังใจตอนลูกไปทำงานที่มัลดีฟส์ แล้วเราไปเยี่ยมกันทั้งครอบครัว ก่อนกลับผมกอดลูกเฉยๆประมาณ๒-๓ นาที ไม่ต้องพูดกอดไว้เฉยๆแน่นพอประมาณ ลูกสาวเขาร้องไห้ เขาบอกว่าอบอุ่นมาก มีกำลังใจทำงานต่อครับ สนับสนุนให้กอดกันครับ
กราบเรียน อาจารย์หมอ