หัวอกนักวิจัยสังคมนอกระบบรุ่นเก๋าส์


  <p style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 10pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 10pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ถ้าโจทย์ผิด คำตอบจะถูกรึ? ในแวดวงของนักพัฒนา ถ้าเปิดใจคุยกันอย่างตรงไปตรงมา จะเห็นกระบวนการและกลไกทั้งหมดล้วนแต่ทำให้หืดขึ้นคอ เว้นแต่พวกที่คิดทำเล่นๆ อันนี้จะยังไงก็ได้ กลุ่มนี้ชอบคิดว่าที่ไหนๆเขาก็ทำกันอย่างนี้ จะมาคิดให้เหนื่อยและยุ่งยากทำไป นโยบายกำหนดกฎเกณฑ์ไว้แล้ว1-2-3 ก็ทำๆไปส่งงานไป ผมเจอเรื่องแบบนี้ด้วยตนเองเสมอ บางทีก็ขอจบดื้อๆเพราะไม่มีเหตุผลที่จะล้างผลาญเงินแผ่นดิน ทั้งๆที่ไม่อยากพูดให้กระเทือนทรวง ว่าโจทย์ออกมามันผิด ผมคิดว่าคนทำงานวิจัย ต้องกล้าหาญพอที่จะแสดงความไม่เห็นด้วย ถ้าแน่ใจว่ามันไม่ถูกต้อง  </p><p align="justify">ถอนใจตั้งแต่แรก มาถึงวันนี้ ถ้าอยากจะเห็นกระบวนการพัฒนาตัวจริงเสียงจริง มันไม่ง่ายหรอก ของจริงอยู่ไหนก็ไม่รู้ ทุกขั้นตอนยุ่งยากแทบเลือดตากระเด็น ต้องถอนใจตั้งแต่แผนงานระดับนโยบาย ที่ออกแบบให้งานง่ายๆยุ่งยากซับซ้อนตามวัฒนธรรมราชการ ที่คิดทำอะไรสะดวกๆไม่เป็น อันนี้เป็นที่เข้าใจได้ คนที่ไม่รู้จริงก็จะออกกฎเกณฑ์มาล้อมคอก คนไทยจึงแบกเรื่องไร้สาระไว้เต็มบ่า เสียเวลาเสียงบประมาณ กับการที่ไม่ไปศึกษาให้เข้าถึงจุดรับผิดชอบแต่ละฝ่ายอย่างแท้จริง  </p><p align="justify">หืดขึ้นคอเป็นฉันใด การเลือกคนมาอบรมก็หืดจับอีก ในช่วงที่ผ่านมาถนนทุกสายวิ่งสู่ชนบท ทุกหน่วยงานมีงบประมาณอบรมกันทั้งปี ชาวบ้านก็มีอยู่แค่นี้ วนไปวนมา บางปีเจอเข้าไปคนละหลายสิบครั้ง แต่ก็ดีที่ทำให้ได้รู้ได้เห็นวิธีสำมะหาที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ วิทยากรเอาแต่พูดๆๆ ..เอาเรื่องบ้าอะไรมาพูดก็ไม่รู้ แม้แต่เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ก็มีนักพูดเชิงความคิดฟุ้งไปตามแต่จะนึกได้ ไม่ศึกษาไม่ทำการบ้านล่วงหน้าว่า ..กลุ่มเป้าหมายเขาคิดเขามองสาระเรื่องนี้กันอย่างไร แล้วเราจะแทรกอะไรเข้าไปตรงไหน ถึงจะเป็นการปรับความเข้าใจ ไปเป็นความตั้งใจ</p><p align="justify">ขายควายส่งควายเรียน ที่ซ้ำร้ายคนที่น่าจะมาอบรมเพื่อพัฒนาก็หนีเข้าโรงงานเสียหมด เหลือแต่พ่อแก่แม่แก่ คนหนุ่มคนสาวที่หลงเหลืออยู่บ้างก็ไม่สนใจ เพราะเขาฝึกมาให้เรียนในกระดาษเพื่อกระดาษ เราจึงอบรมชาวบ้านรุ่นเดอะเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ดีครับ อย่างน้อยผู้อาวุโสเหล่านี้ ยังพูดง่ายเข้าใจง่ายกว่าพวกที่ขายควายส่งควายเรียน  </p><p style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 10pt; text-align: justify" class="MsoNormal">วิชาการก็หงิกสิครับ! เมื่อคราวสัมมนาโลกร้อนก็เป็นอย่างนี้ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ อัดวิชาการจากทั่วโลกมาทั้งกะปิ ตั้งใจเตรียมข้อมูลมาอย่างดี แต่เสนอผิดเวที ชาวบ้านฟังแล้ว แต่ว! บอกว่าสิ่งที่ท่านพูดเขาเอาไปต่อยอดอะไรไม่ได้ อยู่ในขั้นรู้ไว้ใช่ว่าเท่านั้น! เมื่อปีที่แล้ว มีอาจารย์มหาวิทยาลัยมารับจ๊อบงานวิจัยยุทธศาสตร์จังหวัด จัดกระบวนการตามขั้นตอนทุกอย่าง จัดครั้งสุดท้าย เป็นวันที่ให้ชาวบ้านเขียนแผนของบประมาณ ปรากฎว่าชาวบ้านเดินออกจากห้องเป็นแถว  วิ่งไปถาม..ชาวบ้านบอกมันยุ่งยาก ไม่เข้าใจ และขี้เกียจทำ ..รายนี้ตกม้าตาย ได้แต่งงเต๊ก ต้องปลอบใจอยู่นาน นี่คือตัวอย่างการขาดประสบการณ์วิชาเกิน ทดลองดูก็ได้ ถ้าให้นักวิจัยทีมีอยู่ทำงานขั้นที่2 ในบริบทของการใช้ผลงานวิจัยไปสู่สังคม ไม่ทราบว่าจะสอบผ่านกี่ราย </p><p style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 10pt; text-align: justify" class="MsoNormal">จะทำอย่างนี้ได้ ต้องทำการบ้านล่วงหน้าพอควร กระบวนการอบรม ถ้าทำกันจริงๆต้องเกาะติดสถานการณ์3เวลาหลังอาหาร เราต้องประมวลเส้นทางเดินของความเข้าใจ ไปช้า ไปเร็ว ไปได้ ไม่ได้ ต้องพร้อมแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับรูปแบบและเนื้อหาให้ยืดหยุ่น ถ้าจำเป็น   </p><p style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 10pt; text-align: justify" class="MsoNormal">วิชาซุบซิบศาสตร์ เมื่อคืนนี้ประชุมคณะวิทยากรชุมชน  ได้คุยกันถึงวิธีการย้อนศร  แทนที่จะไปบอกไปแนะอย่างเดียว ก็ปรับเป็น ..พ่อใหญ่ แม่ใหญ่ ช่วยบอกเราเรื่องโน้นเรื่องนี้หน่อย  และให้ความสำคัญของเสียงซุบซิบจอแจ เพราะชาวบ้านไม่ชอบแสดงความคิดเห็นหน้าชั้น เรื่องใดสนใจมากๆก็จะซุบซิบหารือกัน นี่คือวัฒนธรรมการเรียนรู้สไตล์ไทยๆอีกรูปแบบหนึ่ง </p>“จับตาจับใจศาสตร์” สำหรับเกณฑ์การประเมิน ..ถ้าชาวบ้านยกมือถาม สนใจและตั้งใจที่จะรู้เรื่องโน้นเรื่องนี้ ขอข้อมูลต่างๆ แสดงว่าการอบรมสอบผ่าน แต่ถ้าถามอะไรก็เงียบเหมือนเป่าสาก แสดงว่าเราสอบตก  <p style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 10pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 10pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> อย่าไปเที่ยวโทษคนมาอบรมนะจ๊ะ</p><p>โทษตัวเราเองนี่แหละ</p><p>ที่วิธีการและกระบวนการยังใช้ไม่ได้</p><p>ต้องกลับไปฝึกฝนวิทยายุทธใหม่  </p>

หมายเลขบันทึก: 166151เขียนเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2008 12:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

ครูฯครับ

ผมมารายงานตัวคนแรกครับ

  • พ่อครูบาคะ
  • นักเรียน 1 คน มาสมัครเข้าเรียน วิชา ซุบซิบศาสตร์ ค่ะ ขอนั่งแถวหลังนะคะ เพราะว่า ดูจากนักเรียนในห้องแล้ว สงสัยจะลำดับอายุไว้หมดแล้วค่ะ อิอิ
  • แต่ ซุบซิบศาสตร์ แบบสร้างสรรค์ นะคะ ขอบอกๆๆๆ
  • อิอิ

ไม่ใช่แลบอย่างเดียวครับ ครูฯ แต่ไปรวมแล้วครับ

                                          ตรงนี้ครับ

P
อาจารย์คงสังเกตเห็นได้  ว่าเรากำลังสร้างห้องเรียนสไตล์ลูกทุ่ง 
แต่เพลงสุนทราภร ก็ฟังได้
ผมว่าอาจารย์เหมาะจะเป็นครูประจำชั้นห้องนี้  มีหลายห้องครับ ต่อไปจะเปิดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหาครูประจำชั้นได้
ผมเล็งๆไว้แล้ว 
ท่านลุงเอกชัย ประจำห้องหนึ่ง
ท่านไร้กรอบ ประจำห้องหนึ่ง
ท่านบางทราย ประจำห้องหนึ่ง
เจ้าเม้งเยอรมัน ประจำห้องหนึ่ง
ท่านCondutor ประจำห้องหนึ่ง
ฯลฯ   ว่าไปเรื่อยๆ
โรงเรียนคนแซ่แฮเอาจริงๆนะครับ
  • ขอเป็นนักเรียน หลังห้อง น่าจะเหมาะกว่าค่ะ
  • เผื่อว่า...."แอบรักครูประจำชั้น"... เพราะเห็นรายชื่อแล้ว น่าสนจาย มักๆๆ เลย ค่ะ...
  • หรือ เผื่อว่า..."แอบซุบซิบ นินทา คุณครูประจำชั้น...ในฐานะที่ คุณครูประจำชั้นทุกคนที่มีรายชื่อน่ะ มีความสามารถและ เก่ง ไม่มีใครแพ้ใครเลยเชียว ค่ะ.....
  • อิอิ

ครูบาคะ ขออนุญาตแวะมาเป็น "อีแอบ" ก่อนค่ะ ...กำลังมึนตึ๊บงวยงง กับ"เรื่องที่ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจคน" อยู่ค่ะ...และถึงเวลาต้องไปเฝ้า "ผู้มีอิทธิพลแล้วค่ะ" ^^..ดึกๆ อาจจะแวะมาค่ะ

ปล. ที่เขียนมาข้างบนพอจะเป็น ซุบซิบศาสตร์ขนานแท้ได้ไหมคะ...อิอิ....

P

มีเหตุอันหนอมาแผ้วพาล คุณน้าสร้อย ถ้าจำเป็นต้องใช้อิทธิพลมืดบอกนะครับ อิอิ

หลบก่อน  กลัวไฟฉายเคาะหัว

อิอิ

แจ้งข่าว

น้องหน่อยเดินทางกลับบ้านแล้ว  หมดบอกไปนอนพักที่บ้านได้ เมื่อถึงเวลาตัดไหมก็เข้าที่ รพ.สุรินทร์ได้ ไม่ต้องเดินทางไปขอนแก่น

 

เอ่อ..มีคนข้างกายดีใจหายอย่างนายจืด ก็ อุ่นใจเหมือนได้แก้วสารพัดนึก

จบข่าว

ขอบคุณ ที่ส่งข่าวหน่อย แรงใจพวกเราช่วยให้หน่อยแข็งแรงเร็ววัน

  • มันไม่ใช่ความผิดของข้าราชการที่รับผิดชอบเรื่องฝึกอบรม ผมว่าท่านครูบาก็เห็นตรงนี้
  • แต่กระบวนการฝึกอบรมภายใต้ระบบราชการที่มีระเบียบรัดตรึงอยู่นั้นเมื่อสมัยกรุงธนบุรีก็ไม่แปลก  แต่นี่เขาไปถึงยุคนาโนกันแล้ว ยังใช้ระเบียบเดิมอยู่ ล้าหลังยิ่งกว่าประเทศลาวอีกครับ อ้าวจริงๆนา
  • กระบวนการเรียนรู้เขาพัฒนาไปไกลแล้ว ไม่เชื่อถามน้องคนดอย น้องยอดดอย น้องเอก และอีกหลายๆคนซิ ฝ่ายเอกชนเขสตั้งฝ่าย HRD พัฒนากันมาไกลแล้ว
  • ราชการปฏิรูปเพื่อให้ใช้หลักจิ๋วแต่แจ๋ว คนน้อยแต่มีประสิทธิภาพ ผมว่ามันไม่ใช่จิ๋วแต่แจ๋ว มันจิ๋วแล้วก็กะจิ๋วหลิว ลงไปเรื่อยๆ เห็นใจเจ้าหน้าที่ เห็นใจผู้รับผิดชอบที่ถูกครอบด้วยระบบระเบียบที่สลัดไม่หลุด
  • ดีหน่อยบางหน่วยที่หัวหน้างานเข้าใจก็ยืดหยุ่นพอไปได้แต่ก็เสียวๆ วันไหลลูกน้องโกรธ ไม่พอใจขึ้นมาก็จะงัดหลักฐานเอามาฟาดฟันกัน
  • ผมทำงานนี้อยู่ก็โดนกรอบระบบบีบซะอยู่เลยเหมือนกัน เพราะเราทำงานภายใต้ระเบียบราชการ สัมมนาชาวบ้านก็บังคับให้จัดที่โรงแรม จะ....หรือ ฝ่ายการเงินอ้างว่าจัดในหมู่บ้านเบิกไม่ได้  แต่นโยบายข้างบนบอกว่าต้องสร้างการมีส่วนร่วม ต้องสร้างคุณภาพเพื่อให้เกิดผลทางปฏิบัติ  ต้องติดตามประเมินผล ตามสูตร..แหมอยากให้คนพูดมาทำเองจังเลย แล้วผมจะเป็นคนประเมินผมให้ เอ้าไม่คิดตังค์ หรอก ทำให้ฟรีๆเลย จะเอาแบบลึกแบบตื้นแค่ไหนได้...
  • มันล้าสมัยเสียจนไปอวดประเทศลาว ก็ไม่ได้
  • ยิ่งเวียตนามก้าวกระโดด.... ไหนรังเกียจกันจังว่าเป็นประเทศสังคมนิยม  แต่ความก้าวหน้าเรื่องการศึกษาเขามีอัตรเร่งมากกว่าประเทศไทย(ทวีมีชัยชะโย)ของเราหลายเท่าตัวนัก  อีกหน่อยข้าราชการระดับสูงก็ไปดูงานจากเขาแล้ว (หาเรื่องไปเที่ยว)
  • อย่าหาว่าเข้ามาบ่นเลยนะครับ..ท่าน ก็เห็นท่านครูบาจัดหลักสูตรแบบหมุนตามผู้เรียน ซึ่งมันเหนื่อยเอาการนะครับ เพราะสมองมันคิดตลอดเวลาว่า เฮ้ย รูปการณ์เป็นแบบนี้ เอาไงกันดี.. หากให้น้องออตเอาน้ำใส่แก้วไปแนบกระหม่อมท่านครูบานี่ เผลอๆอาจจะร้อนชงกาแฟได้เลยนะซิอ้าว สมองมันร้อยเพราะถูกใช้งาน
  • หากหมดภาระหน้าที่ แล้วจะมาเปิดห้องเรียนช่วยครูบากันซักตั้ง มานั่งเขียนประสบการณ์ห้องเรียนสวนป่าที่นี่แหละ เสนอปริญญาดุษฎีบัญฑิตมหาวิทยาลัยประเทศลาวให้รู้แล้วรู้แรดไปเลย อิอิ..

อ่านความเห็นพี่บางทรายแล้ว....สุดยอด...คารวะค่ะ

แวะมาเรียนขอบพระคุณครูบาค่ะ วันหนึ่งอาจจะต้องใช้ไฟฉายจริงๆค่ะ...ถึงเวลานั้นครูบาไม่ให้ก็จะตื้อเอาล่ะค่ะ....อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท