ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาถือว่าเป็นโอกาสทองของเกษตรกรชาวสวน โดยเฉพาะชาวสวนยางพารากับชาวสวนปาล์มน้ำมันที่ราคาผลผลิตกำลังดีมาก ยางพารากิโลกรัมละ 100 กว่าบาท และปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 5 บาทกว่า ก็ถือเป็นผลดีต่อเกษตรกรและระบบเศรษฐกิจ แต่เมื่อมาดูผลผลิตปาล์มน้ำมันในแต่ละสวนจะพบว่า ผลผลิตไม่มี ผลทะลายปาล์มลดลง ซึ่งอาจเกิดจากผลกระทบในช่วงแล้งที่ผ่านมา ด้วยผลผลิตที่ลดลงแต่ความต้องการมากขึ้น ทำให้ราคาของปาล์มน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตาม อุปสงค์ และอุปทานของตลาดสิ้นค้าเกษตร หรือเป็นเพราะเหตุปัจจัยอย่างอื่น แต่อย่างไรก็ตามก็ถือเป็นโอกาสดีของเกษตรกร
เมื่อฤดูฝนเข้ามาพัดพาความชุ่มชื่นคืนมาอีกครั้ง เกษตรกรก็มักจะเริ่มใส่ปุ๋ยบำรุงพืชกันทั่วหน้า ปาล์มน้ำมันถือเป็นพืชที่มีความต้องการปริมาณธาตุอาหารเป็นจำนวนมากในการเจริญเติบโต และให้ผลผลิต เพื่อทดแทนธาตุอาหารที่สูญเสียไปกับผลผลิต จึงนับได้ว่าปุ๋ยเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตปาล์มน้ำมัน เพราะ 60 -70 % ของต้นทุนการผลิตปาล์มน้ำมัน คือปุ๋ย เพราะฉนั้นเกษตรกรต้องใช้ปุ๋ยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คือ ใช้ปุ๋ยให้ถูกสูตร ถูกปริมาณอัตรา ถูกเวลา และถูกวิธี เพื่อให้พืชสามารถใช้ประโยชน์จากปุ๋ยให้ได้มากที่สุด ส่งผลต่อผลผลิตที่สูงสุดและคุ้มค่าการลงทุน ด้วยความสำคํญดังกล่าวข้างต้น ได้มีวิธีการใส่ปุ๋ยปาล์มในรูปแบบใหม่เกิดขึ้น นั้นคือ การเจาะลำต้นแล้วใส่ปุ๋ย วิธีการทำคือ ใช้สว่านเจาะลำต้น แล้วนำท่อPVC ขนาดสองนิ้วที่เจาะรูรอบๆแล้ว ใส่เข้าไปในลำต้น แล้วก็ใส่ปุ๋ยทางท่อ พร้อมปิดฝา แล้วพืชก็จะดูดปุ๋ยที่ใส่ไปใช้ วิธีนี้จะเป็นวิธีการใส่ปุ๋ยที่ถูกต้องและประหยัดปุ๋ยจริงหรือ??? หรือเป็นวิธีที่ทำให้ต้นปาล์มน้ำมันตายเร็วขึ้น?? การใส่ปุ๋ยวิธีนี้จะเป็นนวัตกรรม หรือว่าอันตราย?? ไม่มีนักวิชาการใดมารองรับวิธีการนี้ แต่มาดูหลักการและเหตุผลกันว่า การเจาะลำต้นถือเป็นการทำลายเนื้อเยื่อปาล์ม เกิดการเสียหาย บริเวณเนื้อเยื่อดังกล่าวก็จะไม่มีเนื้อเยื่อเจริญมาทดแทน ส่งผลให้เนื้อเยื่อลำต้นบริเวณนั้นเน่า และมีเชื้อโรคอื่นๆตามมา ส่งผลให้ต้นปาล์มตายได้ และในกรณีที่เกษตรกรใส่ปุ๋ยในปริมาณมาก และหนาแน่น จะพบว่าวัชพืชบริเวณนั้นตายหรือแม้แต่รากพืชก็อาจตายได้ เพราะฉนั้นการเจาะลำต้นแล้วใส่ปุ๋ยก็ย่อมเป็นอันตรายแก่ต้นปาล์มด้วยเช่นกัน ซึ่งปกติแล้วธาตุอาหารที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ต้องอยู่ในรูปไอออน หรือประจุ และรากพืชจะดูดเข้าท่อลำเลียงต่อไปแล้วนำไปใช้ในกระบวนการต่างๆของพืช การเจาะลำต้นเป็นเหตุให้พืชเกิดสภาวะเครียด ส่งผลให้พืชเร่งสร้างผลผลิตเพื่อการสืบพันธุ์ ทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้นในช่วงแรก จนเกษตรกรบางท่านเกิดความหลงผิด คิดว่าวิธีการดังกล่าวสามารถทำได้และเกิดประโยชน์ เพราะว่าสามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยได้ แต่หลังจากนั้นต้นปาล์มจะโทรม เนื้อเยื่อก็จะเน่าผลผลิตก็จะลดลง และอาจทำให้ต้นตายไปในที่สุด ด้วยเหตุและผลดังกล่าวการเจาะลำต้นเพื่อใส่ปุ๋ยปาล์มถือว่าเป็นอันตราย จึงอยากจะฝากถึงเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันทุกท่านได้ไตรตรองและพิจารณา ด้วยหลักการและเหตุผล อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาอะไรง่ายๆ ยังมีเจ้าหน้าที่และหน่วยงานต่างๆ ที่สามารถให้คำแนะนำแก่ท่าน หากมีข้อสงสัยและข้อเสนอแนะอื่นใดสามารถปรึกษาได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด หรือสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน มีความยินดีและพร้อมแนะนำ เพื่อการพัฒนาวงการปาล์มน้ำมันให้มีประสิทธิภาพต่อไป
สวัสดีครับคุณสิงห์ป่าสัก
ผมก็คิดว่ามันน่าจะเป็นอันตรายเช่นกัน
มีข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะอย่างไรบ้างครับ
ที่เคียนซาก็มีคนทำบ้าง จะคอยดูผลก่อนค่ะ ยังไม่ถึงปีเลย เขาก็ว่าผลผลิตเพิ่ม ยังไม่กล้านำมาเล่าให้ฟังเลย เพราะไม่มีข้อมูลทางวิชาการ
การเจาะต้นใส่ปุ๋ย ได้ทดลองดูแล้ว ไม่มีอันตรายใด ๆ
ผลผลิตมิได้ลดเหมือนใส่ปุ๋ยทางดิน คนไม่เห็นไม่ได้ทำ
คงคิดว่าร้ายเอาการ แต่ทำแล้วผลตอบแทนดีขึ้นมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ทำไมต้องเอานักวิชาการมาอ้าง
นักวิชาการปัจจุบันทำเพื่อตัวเองให้ได้รับผลตอบแทนทั้งนั้น
ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
จึงทำให้เกษตรกรปัจจุบันต้องเป็นอยู่อย่างนี้
นักวิชาการปัจจุบันทำเพื่อตัวเอง
นักวิชาการปัจจุบันทำเพื่อตัวเอง
นักวิชาการปัจจุบันทำเพื่อตัวเอง
นักวิชาการปัจจุบันทำเพื่อตัวเอง
นักวิชาการปัจจุบันทำเพื่อตัวเอง
นักวิชาการปัจจุบันทำเพื่อตัวเอง
เคยทดลองเจาะปาล์มอายุ 10 ปี ทดลอง 2 ต้นแรกใส่ยาฆ่าหญ้าประเภทดูดซึม 2 เดือน ต้นปาล์มตาย และอีก 4 ต้นใส่ปุ๋ยเคมีเหลวต้นปาล์มจากใบเหลืองใบเขียวเข้มขึ้นและผลปาล์มจากลีบท้ายแหลมผลกลมเต่งสมบูรณ์ขึ้น ก็แสดงว่าต้นปาล์มดูดสารอาหารได้ทางลำต้นซึ่งมี ท่อน้ำท่ออาหารอยู่ทั่วต้นเพราะเป็นพืชใบเลี่ยงเดี่ยว..ครับ
คุณสมบัติของปุ๋ยเคมีเหลวตราม้าคู่ห้าดาวสูตร5-25-25และสูตร12-12-6
1.สามารถนำพาธาตุอาหารแทรกซึมเข้าทางใบ ลำต้น ราก
2.สามารถใช้ในอัตราความเข้มข้นสูงไม่เป็นอันตรายต่อใบและลำต้น
3.สามารถนำพาธาตุอาหารในปุ๋ยเหลว ดูดซึมภายใน 4-6ชั่วโมง ลดสภาวะการเกิดกรดในลำต้นปาล์ม
เนื่องจากไม่มีธาตุอาหารตกค้างโดยเฉพาะตัว N ไนโตรเจน
เทคนิคการเจาะที่ช่วยให้ปุ๋ยเหลวดูดซึมได้เร็ว
คือการเจาะที่ระดับ6นิ้ว เจาะในแนวทแยงออกด้านข้างไม่เข้าไส้หรือแกนของต้นปาล์ม แล้วตอกท่อ4หุนลงไป
2นิ้ว เหลือพื้นที่ในการดูดซึม4นิ้ว
ปุ๋ยเคมีเหลวตราม้าคู่ห้าดาวในรูปแบบคีเลทมีคุณสมบัติดังนี้
1.ทำหน้าที่ควบคุม ธาตุอาหารต่างๆให้มีความคงทน ไม่เสื่อมสลาย แม้จะตกลงสู่ดิน ก็พร้อมจะถูกดูดซึมเข้าทาง รากได้ดี โดยไม่ถูกจับโดยประจุของดิน
2.เมื่อเข้าสู่ระบบปรุงอาหารของพืช จะทำปฏิกิริยากับน้ำย่อยของต้นปาล์ม เพื่อปลดปล่อยธาตุอาหารต่างๆให้พืชใช้ประโยชน์ได้ทันที
สนใจสอบถามข้อมูล คุณนิว 081-9884740
สิ่งที่อยากจะแนะนำคือต้นปาล์มสายพันวิเศษหรือปุ๋ยวิเศษนั้นไม่มี ไม่มีคำว่าก้าวกระโดดในภาคเกษตร
มันขึ้นอยู่กับการดูแลความสม่ำเสมอในการให้ปุ๋ยและมีเทคนิคที่ดี สิ่งที่ได้รับก็คือผลผลิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เทคนิคการเจาะและปุ๋ยเคมีเหลวที่ใช้ดัดแปลงมาจากเทคนิคการปลูกพืชไม่ใช้ดิน ต้องสร้างสภาวะที่ต้นไม้ดูดซึมธาตุอาหารได้โดยไม่ใช้ดินและไม่เป็นอันตรายต่อรากและลำต้น ค่าphต้องอยู่ในช่วง5.0-6.5 ต่ำกว่า5.0จะเป็นอันตรายกับเนื้อต้นปาล์มและค่าphเกิน
6.5ต้นปาล์มก็ไม่อยู่ในสภาวะที่ดูดซึมธาตุอาหาร ธาตุอาหารหลักที่เป็นกรดคือตัวNไนโตรเจน เป็นธาตุอาหารที่เป็นตัวนำโปตัสเซียม
แมกนีเซียม โบรอน และค่าphจะเพิ่มขึ้นเมื่อต้นปาล์มดูดตัวNหมด ที่ผมใช้อยู่ผมใช้ปุ๋ยเคมีเหลวในรูปแบบคีเลท และสูตรธาตุอาหารต้องลงตัวเพื่อให้เกิดสภาวะสมดุล ยังมีข้อมูลอีกหลายอย่างและผลผลิตที่ได้รับ ผมอยู่อ.หลังสวน จ.ชุมพร ใครอยากดูสวนปาล์ม
แวะได้ครับ หรือโทร081-9884740 คุณนิว
เจาะต้นปาล์มใส่ปุ๋ยเคมีเหลวพร้อมท่อ4หุนและฝาครอบ เพื่อป้องกันแมลงเข้าลำต้นปาล์ม โดยเจาะที่ความลึก6นิ้ว แนวทะแยงออกด้านข้าง เพื่อการดูดซึมที่ดีตอกท่อลงไปประมาณ2นิ้ว ให้มีพื้นที่ในการดูดซึม4นิ้ว ก่อนใส่ปุ๋ยเคมีเหลวครั้งต่อไปควรใช้สายยางขนาดเล็ก(สายวัดระดับน้ำ)ตัดประมาณ1เมตรเป่าน้ำเลี้ยงออกจากท่อก่อนทุกครั้ง
ต้นปาล์มที่เจาะใส่ปุ๋ยน้ำของบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย เริ่มรับทำตั้งแต่ปี1995
ผมก็อยู่ชุมพรครับ เจาะแล้ว แต่ใส่ปุ๋ยเม็ด ก็เห็นได้ชัดว่าผลผลิตเพิ่มขึ้น ทะลายใหญ่ขึ้น แต่คิดว่ายังมีเทคนิควิธีอะไรปรับปรุง
ไว้หลังปีใหม่แล้ว ผมจะขออนุญาติติดต่อคุณนิวเพื่อไปขอเทคนิคหน่อยครับ
ยินดีต้อนรับครับ จะเน้นเพื่อการศึกษาไม่ใช่การขาย และเยี่ยมชมสวนปาล์มที่ใช้เทคนิคนี้จริง โทรนัดก่อนนะครับ 081-9884740
http://www.siamonlineshop.com/market/shop.asp?id=29224 ข้อมูลการเจาะต้นปาล์มใช้ปุ๋ยเคมีเหลวในรูปแบบคีเลท
การเจาะต้นปาล์มใส่ปุ๋ย ครั้งแรกใด้มีการทดลองขึ้นที่สวนปาล์มเก่าที่ครั้งแรกเจ้าของสวนตั้งใจจะล้มต้นปลูกใหม่ เลยคิดทำเครื่องเจาะเพื่อหยอดยาฆ่าต้นปาล์ม แต่ฉุกใจเลยทดลองเอาปุ๋ยใส่ดู ปรากฎว่าใบปาล์มเขียวขยายแผ่สวย ต่อมาการออกดอกติดผลดีขึ้น เจ้าของสวนชื่อเจ้จู อยู่สามแยกราชกรูด ระนอง ผ่านมา4-5ปี ทดลองล้มต้นผ่าดูรอยเจาะใส่ปุ๋ย ไม่ปรากฎการเน่าหรือติดเชื้อใดๆ ทั้งสิ้น ได้ทดลองทำเองอยู่สองสวน มาปีกว่า ผลผลิตที่ได้ไม่ต่างจากการใส่ปุ๋ยทางดิน มากกว่าด้วยซ้ำโดยฉะเพาะปาล์มแก่ จะเห็นความแตกต่างอย่างมีนัย แต่การเจาะต้นใส่ปุ๋ยจะประหยัดปุ๋ยได้มาก 2-4 เท่าตัว ไม่ว่าการใส่ปุ๋ยทางดินหรือทางลำต้น ต้นไม้ทุกชนิด จะนำพาสารละลายในรูปของเหลว ไปผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสงที่ใบ แปรเปลี่ยนเป็นอาหารพืชที่เหมาะสมย้อนกลับมาเลี้ยงราก ต้น กระตุ้นให้แตกรากอ่อนยอดอ่อน เป็นใบ สร้างตาดอก เป็นลูกผลต่อไป ผลผลิตของปาล์ม ไม่ได้อยู่ที่ปุ๋ยอย่างเดียว ยังต้องอาศัย แสงแดด น้ำ พันธุ์ การจัดการที่ดี ถึงจะเจาะต้นปาล์มใสปุ๋ย ต้นปาล์มก็ยังต้องใช้รากเป็นตัวดึงดูดน้ำ แร่ธาตุอาหารในดินเช่นเดิม การเจาะต้นใส่ปุ๋ย ช่วยลดการสูญเสียปุ๋ย ไม่ถูกชะล้าง ถูกดินตรึง ธาตุอาหารบางอย่างละเหยไปกับลม ปาล์มต้องอาศัยใบ แสงแดด ดึงดูดน้ำสารอาหาร ปรุงแต่งแล้วนำมาเลี้ยงต้นต่อไป ไม่ใช่ที่บางคนบอกว่า ใส่ปุ๋ยใส่สารทางต้นแล้วต้นปาล์มดูดกินเข้าต้นเลย ไม่ต้องผ่านกระบวนสังเคราะห์แสง คงไม่ใช่ ถ้าคุณตัดใบปาล์มออกให้หมด แล้วใส่สารใส่ปุ๋ย แล้วดูซิปาล์มจะออกดอกติดผลได้หรือไม่ ต้นปาล์มจะเจริญเติบโตได้หรือไม่ หวังว่าคงให้ความกระจ่างได้พอสมควร ถามว่าเจาะต้นปาล์มใส่ปุ๋ยเสี่ยงหรือไม่ ขอตอบว่าไม่เสี่ยง ถึงอย่างไรต้นก็ไม่เน่าไม่ตาย
ต้นนี้ทดลองทำประมาณ10เดือน หายจากการเป็นกะเทยครับ ต้นปาล์มที่เป็นกะเทยทะลายจะดก แต่ไม่มีเม็ด แสดงให้เห็นว่าการเจาะลำต้นนั้นต้นปาล์มได้รับธาตุอาหารจริง ลองใส่ปุ๋ยทางดินมาเยอะไม่หายครับ ใช้ปุ๋ยเคมีเหลวฉีดเข้าต้นหาย100%ครับ ลองทำกับปาล์มที่เป็นกะเทยหรือเม็ดลีบก่อนได้ครับไม่มีอะไรเสียหาย อยากให้ลองทำเอง เก็บข้อมูลเอง ทำเฉพาะต้นที่มีปัญหาก่อนนะครับรับประกันได้ว่าไม่เสียเวลาแน่นอน
คุณนิว 081-9884740
http://www.siamonlineshop.com/market/shop.asp?id=29224 ร้านเจาะต้นปาล์ใส่ปุ๋ยเคมีเหลวคุณนิว
http://www.siamonlineshop.com/market/shop.asp?id=29224 ร้านเจาะต้นปาล์มใส่ปุ๋ยเคมีเหลวคุณนิว
ต้นปาล์มกระเทยเมื่อได้รับปุ๋ยเคมีเหลวจะมีการพัฒนาการทะลายใหญ่ขึ้น เม็ดปาล์มใหญ่ขึ้น แต่เมื่อผ่าเม็ดปาล์มจะเห็นได้ว่ามีแต่เนื้อไม่มีเม็ดใน ถ้าไม่ได้รับปุ๋ยที่เพียงพอเม็ดปาล์มก็จะลีบบางครั้งก็มีแต่ทะลาย แต่ก็มีเรื่องประหลาดคือ เริ่มมีทะลายตัวผู้ออกมา ซึ่งนักวิชาการบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่สามารถกลายพันธุ์ได้ ต้นปาล์มไม่สามารถกินทางลำต้นได้ แต่ก็ไม่ได้ลองทำกัน สิ่งที่ผมนำมาเสนอมาจากการทำจริง ทดลองทำจริง เป็นข้อมูลจริง แต่นอกตำราครับ คุณนิว
ต้นปาล์มกระเทยเมื่อได้รับปุ๋ยเคมีเหลวจะมีการพัฒนาการทะลายใหญ่ขึ้น เม็ดปาล์มใหญ่ขึ้น แต่เมื่อผ่าเม็ดปาล์มจะเห็นได้ว่ามีแต่เนื้อไม่มีเม็ดใน ถ้าไม่ได้รับปุ๋ยที่เพียงพอเม็ดปาล์มก็จะลีบบางครั้งก็มีแต่ทะลาย แต่ก็มีเรื่องประหลาดคือ เริ่มมีทะลายตัวผู้ออกมา ซึ่งนักวิชาการบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่สามารถกลายพันธุ์ได้ ต้นปาล์มไม่สามารถกินทางลำต้นได้ แต่ก็ไม่ได้ลองทำกัน สิ่งที่ผมนำมาเสนอมาจากการทำจริง ทดลองทำจริง เป็นข้อมูลจริง แต่นอกตำราครับ คุณนิว
http://www.siamonlineshop.com/market/shop.asp?id=29224 ข้อมูลการเจาะต้นปาล์มคุณนิว
แวะชมของจริงได้ครับ โทร081-9884740 คุณนิว เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันนะครับ
ต้นปาล์มกะเทยอายุ7ปี ที่ทำการเจาะใส่ปุ๋ยเคมีเหลวไม่เคยมีทะลายตัวผู้ ทำให้ช่อดอกตัวเมียที่ออกมาไม่ได้รับการผสมเกสร เมื่อผ่าเม็ดปาล์มจะไม่มีกะลา หรือแรกว่าเป็นหมัน แต่ตอนนี้มีทะลายตัวผู้ออกมา1ทะลายและมีช่อดอกตัวเมียออกมาใหม่3-5ช่อ กำลังรอดูอยู่ว่าเมื่อเป็นผลปาล์มจะมีกะลาหรือไม่ ต้นปาล์มกะเทยน่าจะเป็นยีนแบบพิสิเฟอรา (Pisifera) ยีนควบคุมลักษณะผลแบบนี้เป็นลักษณะด้อย (recessive, Sh-Sh-) ลักษณะผลไม่มีกะลาหรือมีกะลาบาง มีข้อเสีย คือ ช่อดอกตัวเมียมักเป็นหมัน (abortion) ทำให้ผลฝ่อลีบ ทะลายเล็ก เนื่องจากผลไม่พัฒนา ผลผลิตทะลายต่ำมาก ไม่ใช้ปลูกเป็นการค้าการที่มีต้นพิสิเฟอราปรากฏในสวนปาล์มน้ำมันลูกผสมเทเนอราที่ปลูกเป็นการค้า เป็นตัวบ่งชี้ว่าเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันนั้น มาจากแหล่งผลิตที่มีการผลิตลูกผสมที่ไม่ได้มาตรฐานช่อดอกตัวเมียมี 2 ลักษณะ คือ female fertile และ female infertile มักพบว่าต้นพิสิเฟอราที่มีการพัฒนาของผลมาจากช่อดอกแบบ female infertile จะมีทะลายฝ่อและลำต้นใหญ่มาก ส่วนลักษณะ female fertile พบว่าอาจมีเนื้อในขนาดเล็กปรากฏในบางผล เปรียบเทียบลักษณะผลของปาล์มน้ำมัน ผลปาล์มลีบ จนไม่มีน้ำหนักไม่สามารถนำไปขายได้ แต่เมื่อเจาะลำต้นใส่ปุ๋ยเคมีเหลวแล้วผลปาล์มใหญ่ขึ้นทั้งที่ไม่มีกะลา และน้ำหนักดีสามารถนำไปขายได้ ช่วงนี้ติดงานอยู่ครับไม่ได้ถ่ายรูปใหม่มาให้ดูกัน แต่ก็ยังรอดูอยู่ว่าผลปาล์มชุดใหม่จะมีกะลาหรือไม่ คุณนิว
ต้นพิสิเฟอราที่มีการพัฒนาของผลมาจากช่อดอกแบบ female infertile จะมีทะลายฝ่อและลำต้นใหญ่มาก ทะลายจะฝ่อและลีบเนื่องจากไม่มีกะลา สาเหตุที่นำมายกตัวอย่างต้นพิสิเฟอรา(กะเทย)แสดงให้เห็นว่าน้ำหนักของผลผลิตจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับเม็ดปาล์มหรือผลปาล์มที่ใหญ่ขึ้น จึงยกตัวอย่างต้นฟิสิเฟอรา(กะเทย)ให้เห็นความชัดเจนหลังจากเจาะต้นปาล์มใส่ปุ๋ยเคมีเหลว คุณนิว
ขอทราบรายละเอียดหน่อยครับ เกี่ยวกับราคาปุ๋ยน้ำ ยี่ห้อ ปริมาณกี่ลิตร
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
http://www.siamonlineshop.com/market/shop.asp?id=29224 คลิกเข้าไปดูข้อมูลได้ครับ หรือโทร 081-9884740 คุณนิว
ลูกค้าผมสวนปาล์มอยู่แถวโรงพยาบาลท่าฉาง เจาะไว้ประมาณ2000ต้น ตอนนี้เริ่มรับผลผลิต ปาล์มอายุ12ปีครับ คุณนิว
เห็นด้วยครับกับคนชุมพร อยากลองทำดูบ้าง รอนักวิชาการรับรองคงไม่ใหว
ถ้าทำสำเร็จ บริษัทขายปุ๋ยต่างชาติก็เจ๊งนะซิ นี่เป็นเหตุผลที่นักวิชาการเมืองไทย
ไม่ให้การรับรองครับ เพระพวกนี้ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของพวกตัวเอง
ขอราคาปุ๋ยเคมีเหลวด้วยคับ
เคมีเหลวที่พูดถึงคืออะไรยี่ห้ออะไรค่ะ กำลังศึกษาเรื่องเจาะต้นปาล์มอยู่ค่ะขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ
การดูดปุ๋ยเหลวขึ้นข้างบนทางท่ออาหาร (ต้นนี้เจาะใส่ปุ๋ยเหลวประมาณ1ปีครับ)ลักษณะเนื้อต้นปาล์มบริเวณแผลที่เจาะเป็นเนื้อไม้สดและแข็งเหมือนลักษณะเนื้อต้นปาล์มทั่วไป
ไม่ทำลายเนื้อเยื้อ ลักษณะเด่นของปุ๋ยเคมีเหลวที่นำมาใช้ ต้องอยู่ในรูปแบบคีเลท และค่าphที่เหมาะสมไม่ทำลายเนื้อเยื้อต้นปาล์ม และทางดินควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ประมาณปีละ1-2ครั้งต่อปี
ต้นปาล์มจะนำพาธาตุอาหารขึ้นไปทางท่ออาหาร ประมาณ1-6นิ้วจากผิวเปลือกนอก(เจาะใส่ปุ๋ยเหลว1ปี)เมื่อเข้าสู่ระบบปรุงอาหารของพืช จะทำปฏิกิริยากับน้ำย่อยของพืช เพื่อปลดปล่อยธาตุอาหารต่างๆ ให้พืชใช้ประโยชน์ได้ทันที(Chelating agent)คุณสมบัติของปุ๋ยเคมีเหลวที่ใช้
สอบถามข้อมูลได้ที่ http://th.88db.com/Home-Services/Gardening-Landscaping/ad-1243609/
ผมคนหนึ่งที่เจาะต้นปาล์มมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
ใช้ทั้งปุ๋ยเม็ดและ ปุ๋ยน้ำของคุณนิว
มีผลเสียดังนี้
1.ปาล์มทะลายใหญ่ขึ้น ทำให้หนักยกขึ้นรถคนเดียวไม่ไหว
2.ต้องเสียค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น
3.ต้องขนทลายปาล์มมากขึ้น รถขนเที่ยวเดียวไม่หมด ต้อง 2-3 เที่ยว
4.ต้องจ่ายเงินค่าปุ๋ยน้อยลง
5.ใส่ปุ๋ยเดิมใช้คนหลายคน แต่ใส่ปุ๋ยน้ำใส่คนเดียว 1 ชั่วโมงได้ 10 ไร่
6.บางครั้งต้องเสียค่าว่าจ้างรถไถมาลากรถบรรทุกปาล์มเพราะดินไม่แน่น (ใส่ปุ๋ยเคมีทางดิน ดินแน่น) รถติด เสียเวลา
7.เสียเวลาเก็บทาง เพราะทางใหญ่ขึ้น หนักด้วย
8.เสียเพื่อน เพราะร้านขายปุ๋ยเคมีไม่ชอบหน้า (เขาขายปุ๋ยเคมีเม็ดได้ลดลง)
9.สวนข้าง ๆ อิจฉา เพราะของเรางามดี เขาอาจเอายาฆ่าหญ้าใส่แทนปุ๋ยเราได้
ฯลฯ
หมายเหตุ.....นักวิจัยและนักวิชาการบางคนเคยทำอะไรเพื่อประเทศชาติบ้าง....
ในพืชมีระบบลำเลียงน้ำและอาหารเช่นเดียวกับมนุษย์เราที่มีระบบเลือดช่วยในการลำเลียงน้ำและอาหารไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย สำหรับระบบลำเลียงในพืชนั้นมีลักษณะเป็นหลอดเล็ก ๆ จำนวนมากมาย ทั้งท่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ ที่เรียกว่า ไซเลม (Xylem) และท่อลำเลียงอาหาร จำพวก น้ำตาล และกรดอะมิโน ที่สร้างขึ้นจากการสังเคราะห์แสง เรียกว่า โฟลเอม (Phloem) ท่อลำเลียงทั้งสองจะนำน้ำและอาหารกระจายไปทุกส่วนของพืช เพื่อการเจริญเติบโต
ผมถ่ายวีดีโอไว้นะครับ สวนปาล์มเจาะต้นใส่ปุ๋ยเหลว เข้าดูที่เพจนะครับ
วีดีโอการเจาะต้นปาล์มใส่ปุ๋ยเคมีเหลว
วีดีโอการเจาะต้นปาล์มใส่ปุ๋ยเคมีเหลว