การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3


วิจัย

รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษาค้นคว้า นางอัมพวัน   สายใหม  โรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพลฯ อ.เมือง จ.สุโขทัย
ปีที่พิมพ์ 2551

บทคัดย่อ

การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา และใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ และเพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ โรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพลฯ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 ที่มีต่อการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างและพัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพลฯ อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 เล่ม 20 แบบฝึก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียน และหลังเรียน จำนวน 20 ข้อ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ จำนวน10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน t - test และค่าดัชนีประสิทธิผล
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาพัฒนา และใช้ในการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. นักเรียนที่เรียนโดยเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิผลในการเรียนรู้มีความรู้เพิ่มขึ้น
3. นักเรียนที่เรียนโดยเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา2551 ที่ครูได้นำมาใช้สำหรับนักเรียน โรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพลฯ จำนวน 3 เล่ม 20 แบบฝึก เวลา 16 ชั่วโมง ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีพฤติกรรม การเรียนรู้ และรับรู้ได้มากขึ้น จึงทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนาเต็มความสามารถของแต่ละคน นอกจากนี้ เมื่อนักเรียนได้ใช้แบบฝึกทักษะนี้ด้วยตนเองแล้ว ยังส่งผลให้นักเรียนมีความพึงพอใจ ในการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกดังกล่าว ดังนั้นการนำแบบฝึกเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน น่าจะเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ และกลุ่มสาระอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพ มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ และสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน

 

คำสำคัญ (Tags): #วิจัย#อังกฤษ
หมายเลขบันทึก: 275923เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2009 20:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 17:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ช่วยนักเรียนที่เรียนโดยเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิผลในการเรียนรู้มีความรู้เพิ่มขึ้น

ทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนาเต็มความสามารถของแต่ละคน

นักเรียนที่เรียนโดยเสริมทักษะวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิผลในการเรียนรู้มีความรู้เพิ่มขึ้น

ช่วยให้เด็กมีความรู้

มีประสิทธิภาพ มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ และสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน

ทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนาเต็มความสามารถของแต่ละคน

ช่วยให้เด้กมีความรู้เพิ่มขึ้น

มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้

แอนได้รับความรู้ไหม่อ่านบ้างนะ

ช่วยให้นักเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ

ทำให้เด็นักเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เป็นงานวิจัยที่ดีจะช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางกาเรียนวิชาภาษาอังกฤษได้ดี เพราะวิชาภาษาอังกฤษเป็นที่มีความสำคัญต่อนักเรียนในปัจจุบันมาก

ปัจจุบีนภาษาอังกฤษเป็นเป็นวิชาที่มีความสำคัญต่อนักเรียนมากจึงเป็นเรื่องที่ดีที่คุณครูเลือกที่จะทำวิจัยช่วยเหลือนักเรียนทำให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจภาษาอังกฤษเพิ่มขึน ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น

เป็นงานวิจัยที่ช่วยพัฒนานักเรียนให้มีความรู้และเข้าใจภาษาอังกฤษดีขึ้นและพัฒนานักเรียนที่เรียนอ่อน ดีมากค่ะ

ตัวเฮี้ยอารายเนี่ย

อ่านไม่ออก

ไม่เห็นดี

โห่!อีควาย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท