ตลาดนัดกรมอนามัย 2550 - Press Tour (26) ตามรอย KM ย่างก้าวสู่ LO ... no.8


ทำไมเราต้องมาสนใจเรื่อง Mindset ... เพราะว่าตัวนี้ มันเป็นสิ่งที่กำกับอยู่ในใจของเรา ... เพราะว่า Mindset เป็นตัวกำหนดการรับรู้ของเรา และการรับรู้สำคัญไฉน ... การรับรู้เป็นต้นทางของความคิด ความคิดก็จะมีผลต่อพฤติกรรม ท่านคิดและท่านทำ จะโดยทางกาย หรือวาจาก็ตาม ... และผลต่อพฤติกรรม ก็มีผล กับผลลัพธ์ ผลลัพธ์ก็เกิดจากกรรม หรือการกระทำ

 

บันทึกนี้ อ.ประพนธ์ เล่าถึง 3 รูปแบบ ของ KM ค่ะ ... ตอนนี้เอาเนื้อๆ ของ รูปแบบที่ 1 และ 2 มาเล่าให้ฟังก่อน ส่วนเรื่องที่ 3 ค่อนข้างยาว ก็เลยเล่าบางส่วน และจะมีเพิ่มอีกบันทึกหนึ่งนะคะ

 

  • รูปแบบแรก พวกเราคุ้นเคยกันดี คือ แบบที่ Top – Down ... องค์กรตั้งคณะกรรมการ KM ทำแผน KM (ใช้ KM ของ กพร. ว่างั้นเถอะ) มี KM focus area ไล่มาเรื่อย นี่คือโมเดล ความจริง กพร. ก็เอาโมเดลของสถาบันเพิ่มฯ นะ
  • รูปแบบที่สอง ที่อื่นเขาไม่ได้คุ้นเคย แต่กรมอนามัยคุ้นเคย ก็คือ การสร้างเครือข่าย ใช้ tacit นะครับ เน้น CoP ก็คือ Role Model ของ สคส. นั่นเอง
  • จากปลา 1 ตัว เป็นโมเดลปลาตะเพียน เพราะว่าหัวปลาไม่ใช่หัวเดียวนี่ มันมีเรื่องนี้ๆ ข้อสำคัญให้วิ่งไปหาหัวปลาใหญ่ ก็คือ หัวปลาขององค์กรนะ อย่าไปทำเรื่องที่มันแยกทางออกไป ไม่ใช่นะครับ
  • ตกลงท่านเห็น 2 โมเดลนี้ไหมครับ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา 2 โมเดลนี้ห่างกันเลย กพร. ไม่สนใจเรื่อง CoP กพร. ไม่พูดคำว่า tacit พูดเหมือนกันแต่เป็นการพูดแบบ lecture แต่สิ่งที่ กพร.สนใจ คือ explicit เพราะว่ามีตัวชี้วัด เขาเน้น Knowledge center เขาเน้นแผน KM ตกลงเป็น KM แบบตายตัว แบบวางแผนอย่างดี เคร่งครัด ปฏิบัติตามแผนฯ ได้ 5 แต้ม อะไรอย่างนี้
  • แต่ KM แบบ สคส. เป็น KM แบบ organic ครับ ผมเรียก KM แบบ กพร. ว่า Organize - จัดตั้ง วางแผน ... Organic – ไหลเลื่อน เคลื่อนไปตามธรรมชาติ นะ
  • แต่มาวันนี้ คือ เห็นชัดเลย ว่า กพร. หันมาเล่นเรื่อง CoP กพร. หันมา work กับ สคส. มากขึ้น 2 วงนี้เข้าใกล้กันมากขึ้นแล้ว ตอนนี้อาจทาบกันครึ่งต่อครึ่งแล้ว (ตอนนี้ผมให้ดูภาพอดีตนะครับ) ซึ่งเกี่ยวกัน
  • ซึ่งผมเชื่อว่า 2 วงนี้ กำลังเคลื่อนเข้าหากัน
  • แต่มาตอนนี้ ผมอยากจะบอกท่านนะ ว่า มันมี KM อีกวงหนึ่งครับ ที่เราจะไม่มองไม่ได้ มันคือ KM ระดับจิตใจ
  • เพราะไม่ว่าเราจะมาฝืนคนให้ share เรื่อง CoP ถ้า Share ไป เขาไม่เอาด้วย CoP มันก็ตายครับ มันก็มอดไป มันก็หายไป มันก็จืดไป
  • ในที่สุด เรามาเจอกันแล้วนะครับ มันมีสิ่งที่คนเขามารวมตัวกันด้วยความสนใจ โดยเฉพาะชาวบ้าน นะครับ
  • เราก็เลยพบว่า KM ระดับปัจเจก ทิ้งไม่ได้ครับ ท่านจะไปทำระดับองค์กร หรือเราบอกว่า ไปทำระดับกลุ่ม ระดับทีม แต่ไม่ทำระดับปัจเจก มันไม่ได้ เพราะแต่ละคนต้องมี KM ในตัว
  • เวลาผมพูด KM ในตัว ผมหมายถึง หัวใจนักปราชญ์
  • ผมหมายถึง ทักษะ สุ จิ ปุ ลิ ครับ สุ คือ การฟัง จิ คือ การคิด แต่ไม่ใช่ ฟังไปคิดไปนะ ฟังให้จบก่อนแล้วมาคิด ตรอง วิเคราะห์ สังเคราะห์ ดีมากเลย ปุ - ให้เพียรถามครับ คือ ปุจฉา ลิ คือ ลิขิต บันทึกนะครับ ถ้าไม่มีการบันทึก ไม่จดเรื่องราว ไม่จดสิ่งที่สังเคราะห์ไว้ ไม่มีทางได้ Knowledge assets ไม่มีทางได้หางปลา
  • ตกลงท่านเห็นไหมว่า ในตัวเองของแต่ละคนต้องมีหัวใจนักปราชญ์ ไปๆ มาๆ ท่านดูสิ ว่า กลับมาสู่พื้นฐานจนได้ ว่าถ้าคนไม่มีหัวใจนักปราชญ์ ไม่มีหัวใจใฝ่รู้ ยากครับ ที่จะเกิด KM อย่างยั่งยืน
  • ตกลงรูปแบบจึงแล้วแต่การเน้น บางที่เน้นองค์กร บางที่เน้นกลุ่ม บางที่เน้นตัวบุคคล ถามว่า วิธีไหนถูกหรือผิด ผมว่าขึ้นกับองค์กรท่านเริ่มแบบไหน ถามว่า
  • ขณะนี้กรมอนามัยเริ่มแบบไหน ผมมองจากสายตาคนนอกว่า กรมอนามัยเริ่มแบบที่ 1 และแบบที่ 2 ใช่ไหมครับ กรมฯ อาจจะถือว่า แบบที่ 3 เราก็มีนะ เรามีการเช็คสิ่งที่อยู่ในใจด้วยนะ ว่า สิ่งที่อยู่ในใจของเราเป็นอย่างไร
  • เราพูดเรื่องแรงบันดาลใจ ใช่หรือเปล่า ท่านมีวงเรื่องสุนทรียสนทนา เรื่อง Dialogue นะ ท่านทำแล้ว ... ก็แสดงว่า เริ่ม KM ระดับปัจเจกแล้วนะ แต่ถ้าบอกว่าไม่ได้ทำเลย ก็คงเป็นโอกาสต่อไปที่กรมอนามัยต้องเน้น
  • และผมอยากจะบอกท่านว่า KM วงที่ 3 นี่สำคัญมากเลยนะ ผมจะลองขยายความให้ท่านดู
  • ... ทำไมข้างล่าง ผมใช้คำว่า Mental model และ Mindset เพราะจุดนี้เป็นจุดที่จะทำให้ท่านไปสู่ LO ได้เป็นอย่างดี ท่านจำโมเดลของ Peter Senge ได้ไหมครับ
  • โมเดลของ Peter Senge เจ้าพ่อแห่ง Organization พูดไว้ว่า องค์กรที่จะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ต้องมี 5 องค์ประกอบหลัก
  • อันแรกคือ Share vision ต้องมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ถ้าท่านดูของ Senge แต่ละตัว และไปวางไว้ที่นี่ครับ ของ Senge จะอยู่ที่ไหนครับ อยู่วง 1 ... องค์กร เพราะเขากลัวว่า ทำแล้วไม่ไปสู่ Share vision ตกลงองค์กรแห่งการเรียนรู้ เรียนรู้ไปทำไม เรียนรู้เพื่อสนองตอบต่อ Share vision และ Share vision มันจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากทำ อยากรู้ ตกลง Share vision อยู่ที่วงหนึ่ง
  • ตัวที่สอง Team learning … เขาคิดว่าคน ถ้าเรียนรู้แล้วต้องเรียนรู้แบบเป็นทีม Team learning ก็จะอยู่วงที่ 2
  • แล้วผมจะไล่อีก 3 ตัว คือ Personal Mystery - ใฝ่รู้ Mental Model - ใช้กรอบความคิดตัวเอง System Thinking – ความคิดเชิงระบบ 3 ตัวหลัก อันเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคลหมดเลยนะ
  • โดยเฉพาะตัวที่ชื่อว่า Mental model, Mindset

รวมเรื่อง ตลาดนัดความรู้กรมอนามัย 2550 

 

หมายเลขบันทึก: 120824เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2007 18:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท