ท่านที่ 4 ตัวแทนของ ชมรมเข้มแข็ง เป็นเรื่องจากภาคผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ค่ะ … คุณสมพร บุญเกิน ... ในคำถามที่ว่า ... กว่าจะเป็นชมรมร้านอาหารชัยภูมิ หรือทำได้อย่างไร ให้ชมรมร้านอาหารชัยภูมิเข้มแข็งที่สุดในระดับเขต
- ก่อนที่จะมาเป็นประธาน เขาเชิญผมตลอด ทั้ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เทศบาล ประชุมปีหนึ่งก็เชิญผมครั้งหนึ่ง บอกว่า ไปประชุมที่เชียงใหม่ ก็ไป ปีที่ 2 ก็ไปที่ชะอำ ก็บอกว่าชมรมฯ อีกแล้ว ก็ไม่รู้ว่าชมรมอะไร ... พูดว่าชมรมฯ เราก็ไม่รู้ว่า เราเป็นสมาชิกของชมรมฯ
- ก็มีคุณหมอจาก สสจ. ที่ชัยภูมิ บอกว่า วันนี้ยังไงก็แล้วแต่ ที่เชิญมา 2 ปีนี่ จะคุยเรื่องชมรมฯ ให้ฟัง ... ก็เลยจับผมไปอยู่ในชมรมฯ และคล้ายๆ ว่า robby ว่าปีนี้ต้องเป็นประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร ... เลยเข้าใจว่า ชมรมนั้นคืออะไร
- ... ก็ไปนั่งคิดทั้งวันทั้งคืนว่า เออ ก่อนที่จะทำชมรมฯ ... ยังไงร้านอาหารที่แม่ค้า ... ถ้าพูดถึงแม่ค้านี่นะครับ ปากมี 3 รส มีทั้งเผ็ด ทั้งเค็ม ทั้งอัด อยู่ด้วยกัน แล้วเราจะเอาชมรมมาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร
- ร้านอาหารที่อยู่ข้างๆ ตรงนี้ทะเลาะกันทุกวันเลย ... แค่ควันไก่ย่างเฉยๆ ยังทะเลาะกันจะเป็นจะตาย แล้วเราจะสร้างชมรมให้เข้มแข็งได้อย่างไร
- ผู้ประกอบการร้านอาหารเป็นสิ่งที่ยากมาก ปากแม่ค้า หมอสาธารณสุขถ้าไปไม่ถูกละก็ ปิดบ้านเลยครับ บอกว่าจะไปตรวจ วันนั้นปิดบ้านทั้งวัน พอหมอสาธารณสุขไป บอกว่าท่านไม่ผ่าน วันหลังไม่ต้องไปเยี่ยมแล้ว บอกว่า ไม่ต้องมา นี่คือปัญหาอุปสรรคของการทำงานชมรมตลอด
- แต่วันนี้ นะครับ ทำไมชมรมของเราถึงเข้มแข็ง เราพูดอยู่ 3 ส่วนครับ
- ส่วนแรก เราจะคุยเรื่องคน
- ส่วนที่ 2 เราคุยกับถึงเรื่องชมรมว่า ชมรมเหล่านี้ ทำอย่างไรถึงจะเป็นหนึ่งเดียว เราก็จับคนเหล่านั้น มาอยู่ในคำว่า ชมรมของพวกเรา ชมรมผู้ประกอบการค้าอาหาร วันนี้ต้องทำเพื่อพวกเราแล้ว ทำเสียหายอะไร เราก็จับคนเหล่านั้นมาอยู่ร่วมกัน โดยใช้ศักยภาพของผู้ประกอบการร้านอาหาร คนที่ทำร้านอาหารนั้น อย่างน้อยๆ มีบุญ
- ส่วนที่สาม มีการบริหารจัดการ ผ่านการอบรมมาหลายครั้งหลายรอบ แต่ยังเขียน ก – ฮ ยังไม่ได้ ... ต่างคนต่างทำก็ทำ เลี้ยงลูกมาตั้งแต่เล็กจนโต จำเป็นด้วยหรือที่จะต้องมาอยู่รวมกันกับเรา เขาพูดอย่างนี้ อาแปะ อาม้า บอกว่าไม่เข้ามา เชิญยังไงก็ไม่เข้ามา ...
- พอเราไปพูดให้เขาเห็นความสำคัญว่า พวกเราถ้ารวมกันอยู่ พวกเราจะมีพลังในการต่อสู้ ในการขับเคลื่อน เพื่อพัฒนาศักยภาพ เพิ่มมูลค่าให้กับตัวเอง เพิ่มองค์ความรู้ เพิ่มการยอมรับกัน เพราะฉะนั้นพวกเราต่างคนต่างอยู่ไม่ได้
- สิ่งที่เราจะสร้างองค์ความรู้ให้กับพวกเราได้ นอกจากเราจะไปดูคนแล้ว คนที่จะเป็นผู้บริหาร ผู้ที่จะมาร่วมกับเราแล้ว อย่างน้อยๆ ต้องมีความสามารถ มีความรู้ ส่วนที่สองต้องมีความเสียสละพอสมควร เพื่อชมรมฯ และส่วนสุดท้าย อย่ามองประโยชน์ส่วนตน ต้องมองประโยชน์ส่วนรวม ต้องเป็นใจสาธารณะ จึงจะเข้ามาอยู่ในชมรมได้
- เพราะฉะนั้นวันนี้ที่ผมพูด คำว่าองค์กรที่จะเข้มแข็ง และมีความมั่นคง และยั่งยืน แพ้ชนะมันอยู่ที่แนวความคิดเท่านั้นเอง ไม่ได้อยู่ที่การกระทำ
- ทำอะไรก็แล้วแต่ เป็น OTOP ก็ขายไม่ได้ครับ แต่ถ้าเราคิดดีทำดีแล้ว สูตรสำเร็จยังไงก็แล้วแต่ มองเห็นตลาดเป็นที่ตั้ง มองเราเป็นกระบวนการของการผลิต แล้วเราจะหาช่องทางจำหน่ายอย่างไร วันนั้น ประสบผลสำเร็จดี กำไรแน่นอน
- เราก็เอาชมรมของพวกเรามาสร้างแนวความคิดร่วมกันว่า ทำอย่างไรองค์กรของพวกเราจะมีแนวความคิดที่เป็นเอกภาพ ต้องมาสร้างความรักใคร่สามัคคี การมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาองค์กรของพวกเราอย่างไร ถ้าเอาขบวนการอย่างนี้ไปให้กับชมรมฯ เพื่อที่จะคัดสรรบุคลากร และเข้ามาเป็นตัวแทนในนามของชมรม ตั้งแต่ ประธาน รองประธาน คณะกรรมการต่างๆ ทั้งหมดจะทำอย่างไร ส่วนนี้จะเป็นตัวแทน และนำไปสู่ชมรมของพวกเรา
- ตั้งแต่เริ่มต้น คือ องค์กรที่อยู่ในชมรมฯ เทศบาลเมือง ในอำเภอเมือง แล้วก็กระจายเป็นการสร้าภาคีเครือข่าย
- เราพูดว่ามีภาคีเครือข่ายขององค์ความรู้ แต่พวกเรามีเวลาที่จะคุยกันน้อยมาก การมีส่วนร่วมมีน้อยมาก
- แต่ชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารจังหวัดชัยภูมิ ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์อนามัยที่ 5 อย่างน้อยก็ประชุมปีละ 2 ครั้ง ที่จังหวัดเราประชุมกันทุกอำเภอ และจังหวัดปีละ 2 ครั้งเช่นกัน ... ร่วมคิด ร่วมทำ นอกจากร่วมประชุม ศึกษาดูงานแล้ว เรายังแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ร่วมกัน
- แล้วสุดท้าย มามองว่า เครือข่ายชมรมพวกเรา ถ้าเราขาดการ ปชส. การ PR ตัวเอง ใครจะไปยอมรับ
- พวกเรา คณะกรรมการผมตั้งขึ้นมาแล้ว ... ผมบอกว่า ต่อไปนี้พวกเราอย่าทำอย่างนั้น พวกเราต้องอยู่ ถือว่าเป็นแบบของคนที่สู่สุขภาพดี มีกำลังทำงานอยู่ทุกวันนี้ พวกเราทำอาหารให้เขากิน เป็นครัวของเขา อย่างวิสัยทัศน์ของเราก็คือ “เป็นครัวของบ้าน เป็นภัตตาคารของโลก” พอพูดอย่างนี้ก็ใกล้ตัว นี่ก็เป็นส่วนที่หนึ่งที่พวกเราได้ทำมา
- การแก้ปัญหาอุปสรรคของพวกเรามีมาโดยตลอด ส่วนหนึ่งคำว่า ชมรม เหมือนกับว่า พอตั้งแล้วบอกว่า ชม และรม จริงๆ คือ ตั้งไว้สำหรับชม และให้ลมพัดอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา
- พวกเราก็คิด ... ทำยังไงจึงจะมีที่สร้างสำนักงานของชมรมอย่างเข็มแข็ง เพื่อส่วนที่หนึ่งเป็นข้อมูลให้กับพวกเรา สอง เกิดการประสานงานให้กับสมาชิกของพวกเรา ส่วนที่สาม เมื่อเรามีที่ทำการที่ถูกต้องแล้ว ใครจะไม่ให้พวกเราเข้าไปช่วย
- พวกเราในชมรมของพวกเราทำเกือบทุกอย่าง ... เขาบอกว่าวันนี้อยู่ดีมีสุข พวกเราก็เข้าโครงการกับเขา ... เขาบอกว่าส่งเสริมยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ทุกวันนี้ร้านอาหารไม่มีไม่ปลอดภัย
- ถามว่าไหวไหม ถ้าให้ผมเป็นคณะกรรมการนะ ก็ต้องร่วมคิดร่วมทำ ไปอยู่ในการส่งเสริมสุขภาพดี เมืองไทยแข็งแรง ไปส่งเสริมในชุมชนก็ตาม ทุกอย่าง ชมรมของพวกเราขอเสนอตัว พอเสนอไปเสนอมา 1 ปีผ่านไป นักการเมือง 4-5 ท่าน บอกวันนี้ประธานชมรมเริ่มออกอาการจะลงการเมือง เริ่มอยากให้พวกเรามีส่วนร่วม ผมจะได้ยืนยันว่า วันนี้ผมเป็นคนสาธารณะที่แท้จริง ไม่ได้หวังสิ่งอะไรที่ตอบแทน ....
- จากการร่วมคิดทำแผนฯ เพื่อพัฒนาส่งเสริมในท้องถิ่นของพวกเรา ท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องอยู่ในเขตที่พวกเราอยู่ เครือข่ายของพวกเรา 16 อำเภอ และตอนนี้เรากำลังทำ 19 จังหวัดภาคอีสานให้เป็นเครือข่าย
- และทำอย่างไรครับ ที่แผนพัฒนาตรงนี้จะพุ่งตรงไปที่สาธารณสุข สาธารณสุขเห็นชอบ ปีนี้เราจะงบพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการชมรมร้านอาหารอย่างชัดเจน ว่า เราต้องไปช่วยในการส่งเสริม และสงเคราะห์ผู้ประกอบการอย่างพวกเราอย่างไรบ้าง แล้วก็ส่งตรงไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดให้เห็นชอบ พอท่านผู้ว่าฯ เห็นชอบ ท่านผู้ว่าฯ สั่งท้องถิ่นจังหวัดว่า ผมก็ว่า โครงการเหล่านี้ของผู้ประกอบการค้าขายเขามีประโยชน์นะสำหรับเรา เพราะฉะนั้นฝากไว้หน่อย ถ้าพอบรรจุได้ เขาก็จะบรรจุแผนให้กับพวกเรา ต่อไปนี้พวกเราจะมีงาน มีงบประมาณ ลองสุ่มเช็คดูครับ ถามว่าในท้องที่นั้นจะทำมั๊ย คำว่า อาหารปลอดภัยเขาก็จะทำ Clean Food Good Taste เขาก็จะทำ แม้แต่สิ่งแวดล้อมเอง พัฒนาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ... เช่น ตอนนี้ผมกำลังติดต่อ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต วิทยาลัยเกษตร คุยเรื่อง สิ่งแวดล้อมอยู่ ก็ไปจับมือกับราชการ ใช้งบประมาณราชการครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีก 50% ผมหาให้
- ทีนี้เราก็ทำโครงการ 3.5 ล้าน พัฒนาคลองน้ำใสที่จังหวัดชัยภูมิ ที่จะทำให้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา
- เพราะฉะนั้น ชมรมของพวกเรานี่ พวกเราไปแล้วให้เขาได้งานด้วย ไม่ใช่พวกเราไปเอาหมด แต่พวกเราจะช่วยให้การสนับสนุน และอีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติของเขาด้วย พอเขาเล็งเห็นความสำคัญนี้นะครับ วันนี้ผมถามว่า ใครจะเอา และใครอยากให้ชมรมของพวกเราไปอยู่ใกล้ชิด เรื่องงบประมาณ ผมเชื่อว่า ท้องถิ่นที่เงินทุกที่ ไม่ว่า อบจ. อบต. หรือ อยู่ดีมีสุข ก็มีงบประมาณ จะให้เหมือนกัน และวันนี้ขาดไม่ได้ ก็ศูนย์อนามัยที่ 5
- วันนี้เป็นองค์ความรู้ แล้วนำไปพัฒนาคน คนจะได้ไปพัฒนางาน อย่างนี้จะทำให้ชมรมของเราเข้มแข็ง
- ส่วนที่สอง คือ การลดช่องว่างของการทำงาน วันนี้ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ มันเป็นไปไม่ได้ พวกเราต้องทำงานในเชิงรุก ให้มากขึ้น ว่า ทำอย่างไรถึงจะทำมากกว่าพูด ถ้าพูดมากคนทำก็ทำให้งานล้มเหลว วิเคราะห์ปัญหาด้วยเหตุด้วยผล สร้างบรรยากาศของการทำงานอย่างเป็นเพื่อนมิตร สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญ แล้วกลยุทธ์การทำงานอย่างมีส่วนร่วมก็มีส่วนสำคัญ ต้องบูรณาการ
- วันนี้ เขาให้เรามีการทำงานอย่างมีส่วนร่วม ร่วมทำ ร่วมคิด ทำอย่างไร เราทำให้มีนโยบายร่วมกัน ถ้าทำอย่างนี้แล้วคนเอา องค์กร สมาคม ชมรม จนถึงองค์กรที่รองรับชมรม มันเริ่มเติบโตมาอย่างนี้ แต่ถ้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง เขาก็อยู่กับพวกเราได้ต่อเนื่อง
- บางทีเราคิดว่างบประมาณเราน้อย ก็เลยบอกว่า ทำอะไรก็แล้วแต่ ทำแค่เล็กๆ ก็พอ พอคิดได้อย่างนี้ก็ไปให้ชมรมทำเลย แต่บางทีชมรมเขามีกำลังอยู่ว่า เขาจะเชื่อมโยงอย่างไร ถ้าได้เริ่มต้นอย่างนี้แล้ว ชมรมจะไปทำอย่างไร เขาหาได้
- ที่จังหวัดชัยภูมิทุกวันนี้ ให้สวัสดิการ กองทุนบ้าง อะไรบ้าง ก็ยังมีเงินเหลือ ผมบอกว่าทำไมไม่ให้มีมาก เงินวันนี้ เราไม่ใช่คนที่หามาแล้วเอาไว้แจก ไม่ใช่ เราจะไม่เอาเงินไปแจกโดยพลการ แต่ต้องเอาไปทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องสมาชิกของพวกเรา และเกิดประโยชน์ต่อสังคม และเกิดประโยชน์ส่วนหนึ่ง บอกกับท่านรองฝ่ายการเงินว่า หาแล้วห้ามเก็บ ต้องนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ถ้าเก็บเอาไว้เกินล้าน สองล้านเมื่อไร วันนั้น ชมรมจะพัง เพราะมีเงินมาก ผลประโยชน์ก็จะมีมาก เพราะฉะนั้นเอาไว้เพียงพอที่บริหารจัดการได้ ที่ชัยภูมิทำอย่างนี้
- บทบาทหนึ่งที่กรมอนามัยมอบให้เราก็คือ ต้องไปพัฒนาการประกอบอาชีพในเรื่อง อาหารกับโภชนาการ อาหารปลอดภัย วันนี้ถ้าไม่มีชมรมฯ ตรงนี้เหนื่อยแน่
- เวลาไปเสนอโครงการ ท่านนายกฯ รับ งบประมาณไม่ใช่ของเรา เป็นงบท้องถิ่นทั้งนั้น
- เราเพียงแต่นำโครงการวันนี้ไปนำเสนอ ว่า ถ้าทำอย่างนี้ๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของท่านแล้ว มันจะทำให้เศรษฐกิจของท่านดีได้อย่างไร โดยชมรมของเราเป็นคนดำเนินการ เราเสริมกิจกรรมทั้งด้านการท่องเที่ยว การบุญประเพณี เวลาเราไปจัดที่ไหน
- เราจะเอากิจกรรมของชุมชนออกมา ไม่ว่าจะเป็นชุมชนเต้นแอโรบิค ชุมชนของเยาวชน อะไรก็แล้วแต่ ออกมา ปชส. ให้กับชุมชนในเขตเทศบาลปีที่
- พอมาทำอย่างนี้ชุมชนเขาก็มีความสุข ว่า ชมรมเขาเอาจริงเอาจัง เขาก็ไม่ต้องการอะไร ถ้าเกิดการยอมรับจากทั้งภาครัฐ และเอกชน เวลาเดินไปไหนก็แล้วแต่ มีแต่คนเรียกว่า มาช่วยหน่อย มาคุยหน่อย บางทีท่านนายกฯ จะให้เกียรติเรามาเชิญท่านประธานไปคุยให้กับคณะบริหารให้ผมฟังหน่อย ถ้าเขาเห็นดีด้วย ถ้าผมคุยคงเดียวก็คุยแล้วไม่ผ่าน
- เราบูรณาการทั้งหมด ว่า ... ทำอย่างไรชมรมฯ ของเราจึงจะมีหน้าที่กำหนดยุทธศาสตร์พัฒนา และส่งเสริมจังหวัดของพวกเรา เป็นคณะกรรมการร่วม
... การสร้างชุมชนเข้มแข็ง ต้องมีคน
... อันดับที่สอง ชมรมต้องมีวัตถุประสงค์ เป้าหมายที่ชัดเจน
... สุดท้าย เพื่อที่จะสร้างองค์กรของเราให้เข้มแข็ง พันธกิจของเรา ยุทธศาสตร์ ของเราต้องชัดเจน เพื่อการยอมรับทั้งภาครัฐ และเอกชน ชมรมพวกเราให้เกิดความเข้มแข็ง เป็นองค์กรที่สร้างสาธารณประโยชน์ให้กับท้องถิ่นสุดท้ายคุณสมพรบอกว่า "ผมเชื่อว่า ไม่มีใครปฏิเสธ และสมาชิกไม่ต้องไปหา วันนั้นเราบอกว่า อย่างน้อยที่สุดท่านได้ทำบุญ อย่างที่สองได้ทำงานร่วมกัน อย่างที่สาม ทำงานอย่างมีเพื่อน ส่วนที่สี่ ท่านได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพ พัฒนาตัวเอง และเป็นองค์กรรองรับท่านอย่างสมศักดิ์ศรี อย่างนี้ชมรมจะเข้มแข็งอย่างแน่นอน"
รวมเรื่อง ตลาดนัดความรู้กรมอนามัย 2550
สวัสดีค่ะคุณหมอนนท์..เพื่อนร่วมทาง
ครูอ้อยชอบคำว่า...ทำงานอย่างมีเพื่อนค่ะ
เหมือนครูอ้อย อ่านบันทึก อย่างมีเพื่อน
เกี่ยวกับไหมนี่
คิดถึงค่ะ