เลขาฯกกอ.ยอมรับมหา"ลัยไทยไร้ทิศทาง
ขยายเกินตัวจนที่นั่งเรียนมากกว่าน.ศ.
นายกฤษณพงศ์ กีรติกร เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง "การประกันคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา" ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า คุณภาพการศึกษาไทยมีความอ่อนแอทั้งระบบ โดยในส่วนของสถาบันอุดมศึกษาไทยขยายตัวอย่างไร้ทิศทาง เติบโตอย่างน่ากลัว เพราะเกิดความซ้ำซ้อนในการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง จนขณะนี้มีที่นั่งเรียนในมหาวิทยาลัยมากกว่าคนเรียน ทำให้เวลานี้มหาวิทยาลัยหลายแห่งต้องใช้กลยุทธ์กวาดต้อนนักเรียน บางมหาวิทยาลัยไปตั้งโต๊ะรับนักศึกษากันถึงในโรงเรียนมัธยมศึกษา ดังนั้น หากจะพัฒนาอุดมศึกษาก็ต้องเริ่มสร้างวัฒนธรรมคุณภาพให้เกิดขึ้น ตนอยากเห็นสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ นำผลประเมินคุณภาพของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ไปใช้ในการจัดสรรทรัพยากรการศึกษา หรืออย่างน้อยสภามหาวิทยาลัยได้นำข้อมูลไปใช้ในการจัดสรรทรัพยากรให้กับคณะและสาขาวิชาต่างๆ
จากรายงานข่าวข้างต้น ดิฉันเห็นด้วยกับเลขาธิการ กกอ. ที่ว่าการศึกษาไทยมีความอ่อนแอทั้งระบบ และมีการขยายตัวอย่างไร้ทิศทาง และซ้ำซ้อน ซึ่งการดำเนินการแก้ไขส่วนหนึ่งก็ย่อมที่จะเป็นหน้าที่ของ กกอ.และรัฐบาลในการกำหนดนโยบายและมาตรการการศึกษาในภาพรวม นอกเหนือจากที่ระบุไว้กว้างๆ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในขณะเดียวกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยเองก็จะต้องพิจารณาการเปิดหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรการและนโยบายการศึกษาของชาติ ความต้องการของอุตสาหกรรมที่เป็นจริง สภามหาวิทยาลัยเองก็ต้องดูแลกำกับภาพรวม ไม่อนุมัตให้เปิดหลักสูตรที่ซ้ำซ้อนหรือเป็นหลักสูตรที่ขาดความพร้อม โดยใช้ข้อมูลคุณภาพการศึกษาที่เป็นจริง เช่น ข้อมูลการจบการศึกษา ข้อมูลการจ้างงาน ข้อมูลจำนวนอาจารย์ต่อนักศึกษา หรือดัชนีชี้วัดของสมศ. ฯลฯ ในการกำกับดูและการบริหารงานของผู้บริหารมหาวิทยาลัยไม่ให้เป็นไปอย่างไร้ทิศทางตามที่เลขา กกอ. ได้กล่าวไว้
เรียนท่านอาจารย์กมลวัลย์
ด้วยความเคารพ
กัมปนาท
กัมปนาท
ด้วยความเคารพ
สวัสดีค่ะ อาจารย์กมลวัลย์
เห็นด้วยกับแนวคิดข้างต้นค่ะ จากประสบการณ์การทำงานของตน ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนมาเป็นสถาบันอุดมศึกษา เมื่อปี 2548 ความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่ไม่ได้เกิดจากการประสานงานกัน ดิฉันเห็นปัญหาที่มันเกิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ทำได้ก็แต่เพียงขอบเขตหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ พร้อมกับการทำใจ ...
สถาบันอุดมศึกษา ที่ไม่ได้สังกัด สกอ. ไม่ได้ขึ้นกับกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นการร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ จึงมีน้อย ผลกระทบที่เกิดก็ตกกับนักศึกษา ทั้งๆ ที่พวกเขาก็เป็นคนไทยเหมือนกัน น่าจะได้รับสิทธิในความเจริญก้าวหน้าเท่าเทียมกับที่อื่นๆ
ยังไงก็ตาม เป็นกำลังใจให้อาจารย์ได้ทำหน้าที่ของอาจารย์ เพื่อพัฒนาระบบการศึกษาไทยให้ได้มาตรฐานเท่าเทียมกันนะคะ
ด้วยความเคารพค่ะ
ประเทศไทยยังต้องพัฒนาอีกมากเรื่องการศึกษาค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาพื้นฐาน อุดมศึกษา หรือกลุ่ม ปวช ปวส ค่ะ เพราะผลิตนักศึกษาไม่ได้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมหรืออุตสาหกรรมเท่าใดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม ปวช ปวส ที่ฐานการผลิตลดลง ค่านิยมของผู้เรียนก็น้อยลง (เพราะคนส่วนใหญ่อยากทำงานนั่งโต๊ะมากกว่าทำงานหน้างาน) แต่มีความต้องการมากขึ้นในอุตสาหกรรม
ดิฉันคิดว่าบางทีนโยบายภาครัฐก็มุ่งทำยอดให้มีผู้จบมากๆ แต่ไม่ได้ให้การสนับสนุนพื้นฐานการผลิตนักศึกษาอย่างจริงจัง การลงทุนเกี่ยวกับ infrastructure รวมถึงทุนมนุษย์ของสถานศึกษาอย่างเราก็ไม่สอดคล้องค่ะ ก็ได้แต่ทำหน้าที่ของตนอย่างที่คุณมนต์ว่าไว้ค่ะ แล้วก็ทำใจ .......