เมื่อวันหนึ่งพ่อฉัน...ไม่สบาย


ทำอย่างไรดรเมื่อพ่อไม่ยอมไปหาหมอ

เมื่อวันหนึ่งพ่อฉัน...ไม่สบาย

 

            เมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนแม่โทรมาบอกว่า  พ่อไม่สบาย พ่อเริ่มผอมลง ฉันได้ยินก็หัวเราะก๊าก....จะเป็นไปได้ยังไงก็ฉันเพิ่งกลับจากบ้านมา 2  วันเอง  ฉันยังบอกแม่อีกนะว่า

แม่คิดมากไปเองหรือเปล่าพอถึงวันศุกร์ฉันก็กลับบ้านโดยปกติแล้วฉันจะกลับบ้านที่ลำพูนทุกอาทิตย์     ฉันกลับบ้านเห็นพ่อเหมือนเดิม อ้วนพุงใหญ่เหมือนเดิม  พ่อแข็งแรง และอารมณ์ดีหัวเราะร่า เป็นปกติ ฉันจึงมั่นใจในคำพูดของฉันที่บอกแม่ว่า แม่คิดมากไปเองหรือเปล่า

         

            แต่....อาทิตย์ที่แล้วฉันไม่กลับบ้าน เพราะฉันติดสอบทั้งอาทิตย์ ก็อ่านหนังสืออยู่หอไม่กลับบ้าน วันศุกร์สอบเสร็จฉันก็รีบกลับบ้าน           ทันทีทีเห็นหน้าพ่อฉันตกใจเลยล่ะเพราะพ่อผอมลงดูซูบผอมไปมากอย่างเห็นได้ชัด หน้าตาดูซีดเซียว เพราะปกติพ่อเป็นคนอ้วนท้วนสมบูรณ์

             ฉันชวนพ่อไปหาหมอไปตรวจสุขภาพพ่อก็ไม่ยอมไป ดื้อเหมือนเด็กอย่างไงอย่างนั้น  แต่พ่อก็บอกปัดว่า รอสิ้นปีพ่อจะไปหาหมอเองอย่างน้อยได้ยินคำนี้ฉันก็โล่งใจสบายใจขึ้นอีกหน่อย...  

            เมื่อวันอาทิตย์ 23 ที่ผ่านมาฉันไปเลือกตั้ง  ไปกับแม่เห็นผู้ใหญ่บ้านเขาไม่สบาย  แม่ก็ถามว่าอาการ  เพราะกลัวพ่อจะไม่สบายเหมือนผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าป่วยเป็นโรคไต ผู้ใหญ่ผอมไปจากเดมมากเพียงแค่ระยะเวลาเพียงเดือนกว่าเท่านั้น จากคนที่ตัวสูงใหญ่ อ้วนท้วนกลายมาเป็นคนผอมซูบ  ผิวซีดเหลือง เปลี่ยนจากเดิมไปมากที่เดียวอาการเริ่มต้นผู้ใหญ่บอกว่า หิวน้ำบ่อย ถึงขั้นที่ต้องเอาน้ำไปกินในห้องนอนด้วย นอนสักครึ่งชั่วโมงก็ต้องเข้าห้องน้ำ ฉี่บ่อย และนาน ลักษณะฉี่จะเป็นฟอง เหนื่อยง่าย พอตกกลางคืนจะเข้าห้องน้ำมากกว่า10 ครั้ง เพียงแค่ได้ยินเท่านี้ฉันอึ้ง!!!!ไปเลยเพราะพ่อฉันก็มีอาการคล้ายอย่างนี้เลย พอกลับถึงบ้านรีบถามพ่อว่ามีอาการอย่างผู้ใหญ่บอกหรือเปล่า  พ่อบอกเหมือนกันทุกอย่างที่ถามฉันเริ่มใจคอไม่ดี ชวนพ่อไปหาหมอเดี๋ยวนั้นเลย  แต่พ่อก็ไม่ยอมไป  ฉันพูดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปฉันโกรธพ่อมากเลยทีไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นห่วงบ้างเสียเลย

            ฉันจะทำอย่าไงดี  ฉันอยากให้พ่อไปหาหมอพูดเท่าไหร่อธิบายยังไงก็ไม่ยอมไปหาหมอ พ่อบอกแต่ว่า พ่อไม่เป็นไรแค่ดื่มน้ำมาก ก็เลยฉี่บ่อยเท่านั้น ใครก็ได้ช่วยฉันที ช่วยหาวิธีที่ฉันจะพาพ่อไปหาหมอให้ได้ ฉันพูด และทำทุกอย่างแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะพ่อดื้อเหมือนเด็ก ถ้าใครมีวิธีดีก็ช่วยแนะนำบอกกันด้วยนะ เพราะตอนนี้ฉันเครียดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอยากพาพ่อไปหาหมอ
หมายเลขบันทึก: 156162เขียนเมื่อ 27 ธันวาคม 2007 10:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 23:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีค่ะ

อ่านบันทึกนี้ของน้องแล้ว เข้าใจความรู้สึกจังค่ะ อาการแบบนี้คงต้องรีบไปพบคุณหมอ แต่จะพูดยังไงดีให้ท่านยอมไป

ลองกล่อมด้วยเหตุและผล ว่าด้วยรักและห่วงใย แต่อย่าพูดในเชิงลบนะค่ะ เกรงว่าคุณพ่อจะกังวลและไม่สบายใจ ทำให้ไม่กล้าไปพบคุณหมอ เพราะกลัวการเผชิญกับความจริงค่ะ ควรพูดให้ท่านสบายใจ พูดในเชิงบวกไว้ค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ เดี๋ยวคงต้องรอสมาชิกท่านอื่น ที่มีประสบการณ์มาให้คำแนะนำต่อค่ะ พี่จะลองไปสอบถามให้ค่ะ

ขอบคุณนะคะคุณมะปรางเปรี้ยว

เครียดมากเลยตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรกลัวพ่อจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ใช้เหตุผลอย่างไรพ่อก็ไม่ยอมไปหาหมอ

  • แวะมาให้กำลังใจค่ะ
  • รีบชวนคุณพ่อไปหาหมอนะคะ
  • การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ
  • ขอให้ท่านหายป่วยและมีสุขภาพดีโดยเร็วนะคะ
  • สวัสดีปีใหม่นะค่ะ
P ขอบคุณที่ให้กำลังใจ หนูจะพยายามเพื่อทำให้พ่อยอมไปหาหมอให้ได้เลยวันนี้ ถ้าไม่ยอมไปต้องช่วยกันลากพ่อไปให้ได้แล้วส่ะค่ะเพราะตอนนี้เครียดมากกว่าคนป่วยอีก

สวัสดีค่ะ

ถ้าดูจากที่น้องเล่า ดูคุณพ่อจะเป็นคนอารมณ์ดีและรักลูกสาวมากทีเดียวนะคะ

พี่เห็นว่าตอนนี้น้องห่วงคุณพ่อมาก เป็นไปได้นะคะว่าบางครั้งความห่วงใยทำให้เราเครียดและอาจเผลอแสดงออกไปด้วยน้ำเสียงท่าทีที่อาจจะแข็งไปซักนิด..ทำให้บรรยากาศดูตึงๆหรือกลายเป็นเหมือนการบังคับ..แอบกระซิบนิดนะคะว่าผู้ใหญ่ก็ดื้อเหมือนเด็กๆนั่นแหละค่ะ เพราะฉะนั้นเราปลอบเรามีวิธีหลอกล่อเด็กอย่างไรกับผู้ใหญ่เราก็ใช้แบบเดียวกัน ซึ่งอาวุธสำคัญคือความรักที่น้องและคุณพ่อมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมนี่ล่ะค่ะ ^ ^

ลองคุยด้วยแบบนุ่มนวล ( จุดสำคัญของวิธีนี้คือควบคุมตัวเราให้ได้นะคะ ) โดยตกลงกับคุณแม่ว่าช่วยๆกันพูดหน่อยนะคะ แต่ไม่ใช่แนวบังคับน้า

อาจจะกอดแล้วชวนคุยเรื่องอื่นๆไปก่อนหรือบอกว่าตอนนี้เหมือนพ่อผอมลง พ่อสังเกตตัวเองว่าเป็นยังไงบ้าง ให้ท่านเล่าอาการต่างๆมานั่นแหละค่ะ แล้วชวนท่านกับคุณแม่ ( ย้ำว่ากับคุณแม่นะคะ เพราะท่านเป็นคู่ทุกข์คู่ยากกันมานาน ทำอะไรถ้าทำด้วยกันท่านจะอุ่นใจกว่าค่ะ )..ไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยกัน ( เอาแบบให้ไปหาหมอก่อนนะคะอย่าตั้งเป้าว่าต้องไปตรวจแบบเฉพาะทาง เดี๋ยวท่านจะปฏิเสธว่าท่านไม่เป็นอะไรแบบที่ผ่านมานา )

เพราะการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นการตรวจสุขภาพปกติที่ผู้สูงอายุควรทำน่ะค่ะ แล้วนัดวันที่น้องหรือลูกคนอื่นๆสามารถไปกับท่านได้ เพื่อที่เราจะได้ทราบด้วยและเป็นกำลังใจให้ท่านทราบว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราอยู่กับท่านเสมอ..สิ่งสำคัญคือบอกรักท่านก่อนที่จะพูดเรื่องพาท่านไปตรวจสุขภาพนะคะ  เลือกชวนในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ..โทร.ไปสอบถามที่ รพ.ลำพูนก่อนได้นะคะว่าถ้าจะตรวจสุขภาพประจำปีของคุณพ่อคุณแม่จะมาได้วันไหนบ้างเพราะ รพ.ทั่วไปจะมีแพ็คเก็จการตรวจสุขภาพของผู้สูงอายุค่ะ

เอาใจช่วยให้น้องสามารถพาคุณพ่อ ( และคุณแม่ ^ ^ ) ไปพบหมอได้นะคะ

 

 

P  ขอบคุณนะคะ หนูว่าเป็นวิธีที่ดีมากเลยค่ะหนูจะพูดหว่านล้อมให้ได้เลยวันนี้เป็นไงเป็นกันค่ะ  ขอบคุณนะคะ

พี่ เบิร์ด แวะมาให้คำแนะนำน้องแล้ว ลองนำไปใช้ผลอย่างไร มาบอกต่อกันด้วยนะคะ

อีกรอบค่ะเพราะลืม

การตรวจสุขภาพทั่วไปของผู้สูงอายุจะมีการเจาะเลือดดูคลอเรสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ซึ่งต้องงดน้ำ - อาหารตั้งแต่ 2 ทุ่ม - 8 โมงเช้าวันตรวจ.. พี่ไม่แน่ใจว่าทางรพ.จะแนะนำอย่างไรนะคะน้องลองโทร.ถามดูอีกทีว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

แต่พี่เห็นว่า คำว่า " ตรวจสุขภาพทั่วไป " เอาไว้บอกคุณพ่อให้คุณพ่อรู้สึกว่าไม่หนักหนาอะไรเพราะใครๆก็ทำกันแต่ถ้าคุณพ่อยอมไป " หาหมอ " ได้..เราเก๊าะแจ้งที่ประชาสัมพันธ์ว่าเรามาตรวจเพราะมีอาการแบบนี้ๆ ( จับตรวจเฉพาะทางด้วยเหตุผลที่พี่บอกมานั่นแหละค่ะว่าต้องงดน้ำ - งดอาหารก่อนตรวจคุณพ่อจะไม่ไหว )

เอาใจช่วยนะคะ

สวัสดีค่ะคุณ toisang

  • ไม่แน่ใจว่าตอนนี้คุณพ่อยอมไปตรวจหรือยังนะคะ... 
  • อาการที่ว่ามานั้นดิฉันลองถามๆคุณหมอดู  ส่วนใหญ่บอกว่าน่าจะจากโรคเบาหวาน.... ไม่อยากให้คุณแม่หรือน้องคิดไปเองว่าเป็นคล้ายโรคของผู้ใหญ่บ้านค่ะ....
  • ....ช่วงนี้อาจจะอยู่ระหว่างทำใจของคุณพ่อที่จะต้องเผชิญกับคำวินิจฉัย......
  • เบื้องต้น...บอกไปก่อนเลยก็ได้ค่ะว่า...อาการคล้ายโรคเบาหวาน  ซึ่งถ้าคุมน้ำตาลในเลือดอยู่(อาจจะด้วยการคุมอาหารด้วยตนเองถ้าระดับน้ำตาลต่ำ  หรือใช้ยาช่วยซึ่งหมอสั่งให้ได้)  ก็หายค่ะ  ไม่ต้องกังวล   ข้อสำคัญคุณพ่อจะกลัวเหมือนผู้ใหญ่บ้านหรือเปล่า...ดูๆแล้วไม่น่าใช่ค่ะ  โรคไตมักจะมีอาการบวม...ต้องค่อยๆบอกท่านดีๆค่ะ  อย่าดุ....
  • ปีใหม่นี้มีโอกาสได้กลับบ้านก็น่าจะพาไปหาหมอค่ะ..ถ้าวันธรรมดาที่รพ.รัฐคนไข้เยอะ เราไม่ว่างเพราะเรียน ก็อาจจะพาไปที่คลินิคหมอใจดีซะก่อน(อ้างว่าเป็นหวัดมั้ย  ไปรักษาอาการหวัดก็ได้ค่ะ  ...ต้องบอกเทคนิคคุณแม่ไว้ด้วยเพราะหากเรากลับมาเรียน  คุณแม่อาจจะต้องปะเลาะพาไปเอง  แล้วค่อยให้คุณหมอช่วยพูดคุย...)  เขาอาจจะขอเจาะดูระดับน้ำตาลในเบื้องต้น...แล้วแนะนำต่อ...ถ้าหมอบอก  คุณพ่อน่าจะเชื่อ
  • บอกคุณพ่อได้เลยค่ะว่าตอนนี้หมอเก่งๆมีมาก  วินิจฉัยได้ไว  รีบรักษาก็หายเร็ว...อย่าวินิจฉัยโรคกันเองค่ะเพราะไม่งั้นความกลัวทำให้คิดไปใหญ่โตเกินเหตุ....ไม่สบายใจมากไปเปล่าๆ....
  • ...เข้าใจว่าคงเครียดกันทั้งบ้าน...ทำใจให้สบายค่ะ  คนรอบข้างต้องมีคนอารมณ์ดีทำให้คุณพ่อสบายใจและเชื่อมั่นค่ะ...ท่านจึงยอมไปด้วย...ท่านไม่อยากให้ใครกังวล(เพราะจริงๆท่านเองก็กังวล)
  • ...ขอให้โชคดีนะคะ

ขอให้พ่อของต้อยหายเร็วๆ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และมีจิตใจที่เข้มแข็ง เป็นที่รักของครอบครัวตลอดไปนะ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อหายเร็วๆนะคะ

                ที่ท่านไม่ไปท่านอาจคิดว่าถ้าท่านเอาเงิน

ไปรักษาตัวเอง  แล้วเงินที่จะส่งให้คุณเรียนต่อหรือ

เงินค่าใช้จ่ายในบ้านอาจจะร่อยหรอลงเพราะท่าน

และท่านก็ห่วงกลัวว่า คุณ  กันแม่จะเดือดร้อน 

ท่านก็เลยไม่ยอมไปหาหมอก็ได้  คุณต้องเป็นกำลังใจ

และอธิบาย  หรือทำอย่างไรก็ได้ให้ท่านไม่ต้องห่วง

แล้วท่านอาจจะยอมไปหาหมอก็ได้

               เป็นกำลังใจให้  และให้คุณพ่อหายไวไว

                                        เข้าใจ  เห็นใจ

                                           คนไร้พ่อ

                                          Librarian

หุ่นเพรียว สวย ใส กับสารอาหารอารมณ์ดี

ลดน้ำหนักลงอย่างถาวร 10-12 ก.ก.ภายใน 3 เดือน กับสารอาหารอารมณ์ดี

หุ่นเพรียว สวย ใส ไม่เสียสุขภาพจิตและร่างกายแข็งแรง ด้วยสมุนไพรธรรมชาติ

(ไม่ใช่ยาลดน้ำหนัก ไม่กดประสาท ไม่ปวดหัว ไม่หิวน้ำปากแห้ง) การันตีไม่มี โย่โย่เอ๊กเฟค

รับปรึกษาโภชนาการที่ดีฟรี

ติดต่อคุณหนู อารมณ์ดี - - > 086-696-4994

[email protected]

http://www.freewebs.com/dietniceguy/

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท