ดงหลวงมีภูเขาไฟ ค้นพบมานานแล้วครับแต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์กัน
น่าที่จะมีเหตุผลสองสามประเด็นคือ
ผู้บันทึกเคยนำ Power point ไปแสดงให้คนเมืองมุกดาหารดูบ้างแล้ว และทราบว่าคณะคุณนายท่านผู้ว่าราชการจังหวัดยุคหนึ่งเคยขึ้นไปดูแล้ว แต่ไม่ได้ทำอะไรต่อ ไม่ทราบเหตุผลครับ
ผู้บันทึกติดใจอยู่อย่างหนึ่งคือ ที่บริเวณนั้นมีรอยพระบาท และธาตุไม้ตั้งอยู่
ขออธิบายว่าธาตุไม้ คือ สัญลักษณ์พระธาตุพนมที่ใช้ไม้มาทำสี่เหลี่ยมคล้ายเสาบ้าน แต่ตกแต่งโดยแกะสลักอย่างหยาบๆให้คล้ายองค์พระธาตุพนม
ทำไมองค์พระธาตุพนมจึงมีความสำคัญต่อชนเผ่าไทโซ่ หรือ บรู นี้มากนัก
พ่อเกี้ยง เชื้อคำฮด อายุ 75 ปี เฒ่าจ้ำใหญ่แห่งตำบลพังแดงกล่าวว่า เพราะผู้สร้างองค์พระธาตุพนมครั้งกระโน้นนั้นคือท่านพระยาสุวรรณปิงคะละ ซึ่งเป็นคนโซ่ หรือ บรู นี่เองเหตุนี้องค์พระธาตุพนมจึงมีความสำคัญต่อชนเผ่านี้มากนัก ดังเคยกล่าวไว้แล้วว่า หากพี่น้องอิสลามต้องไปแสวงบุญเมกกะ ชาวไทโซ่ก็ต้องมีอย่างน้อยสักครั้งในชีวิตที่ต้องเดินทางไปกราบองค์พระธาตุพนม สิ่งเคารพสูงสุด
ก่อนเข้าป่าร่วมกับ พคท.ของพี่น้องไทโซ่ดงหลวงทั้งอำเภอจะจัดงานใหญ่ที่บริเวณลานภูเขาไฟแห่งบ้านโพนสว่างแห่งนี้ ทุกหมู่บ้านจากตำบลดงหลวง ตำบลหนองแคน ตำบลพังแดงตำบลกกตูม แม้ตำบลชะโนดซึ่งไม่ใช่คนโซ่ก็จะแห่แหนกองบุญมาร่วมงาน ซึ่งในบริเวณนี้จะมีศาลาไม้เพื่อใช้ประกอบพิธีทางศาสนาพุทธ โดยจะนิมนต์พระสงฆ์มาจากวัดต่างๆทั่วทุกหมู่บ้านไทโซ่ มารับกองบุญนี้
ช่วงเข้าป่าตั้งแต่ พ.ศ. 2506 จนถึงปี 2526 ได้งดเว้นการทำพิธีดังกล่าวเพราะพื้นที่นี้อยู่ในการปกครองของ พคท.และไม่อนุญาตทำพิธีกรรมความเชื่อแบบนั้น เมื่อออกมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยปี พ.ศ. 2526-2527 นั้นชาวไทโซ่จึงรื้อฟื้นพิธีกรรมขึ้นมาใหม่ เรียกงานบุญวัดดอย จะทำในวัน 14-15 ค่ำเดือน 6 ทุกปี แปลกที่เรียก 2 ชื่อพร้อมกันคือ เรียกงานสงกรานต์ไทโซ่ และงานพิธีขอฝนของไทโซ่ พิธีหลักจะเป็นการขอฝนมากกว่าพิธีสงกรานต์
สมัยก่อนนั้นวันขึ้น 14 ค่ำเดือน 6 ตั้งแต่เช้าชาวบ้านจะเริ่มออกเดินทางมาลานภูเขาไฟหรือที่วัดดอย(วัดที่ไม่มีพระประจำ)นี้ พวกแม่ค้าก็หอบ หาบของกินต่างๆไปวางขายกัน แต่ละบ้านก็แต่งกองบุญไป บ่ายก็ทำพิธีรอบๆปากภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งชาวบ้านเรียกปากภูเขาไฟนี้ว่า “น้ำสร้างพระอินทร์” หรือบ่อน้ำพระอินทร์นั่นเอง ผู้เฒ่าผู้แก่จะมารวมกัน “ทำพิธีขอฝน” ง่ายๆโดยการแต่งขันธ์ 5 และดอกไม้ไปวางไว้ที่ขอบน้ำสร้างพระอินทร์ แล้วกล่าวคำขอฝนให้ตกตามฤดูกาลเพื่อชาวบ้านจะได้ทำนาทำสวนกันตามปกติ แล้วเมื่อเสร็จก็เอาน้ำที่อยู่ในบ่อน้ำสร้างนั้นไปใส่ลงในรอยพระบาทจนเต็ม แล้วก็สาดน้ำกันเป็นที่สนุกสนาม นี่ละมั๊ง ที่เรียกสงกรานต์ ตกกลางคืนก็จะมีการเล่นพื้นบ้านคือ หมอรำกลอน ซึ่งว่าจ้างมาจากอำเภอดอนตาล ในปีหลังๆมาจะมีภาพยนตร์และรำวงด้วย
รุ่งเช้าจะมีพิธีสงฆ์สวดอภิธรรม รับถวายกองบุญ แล้วก็เสร็จพิธี แยกย้ายกันกลับบ้าน ความยิ่งใหญ่สมัยนั้นคือ ไทโซ่มาร่วมกันทุกหมู่บ้าน นอกจากไทโซ่ แล้วจะมีชาวผู้ไทมาร่วมงานด้วย
แต่น่าเสียดายอย่างยิ่ง พิธีนี้ได้เจือจางลงมาเหลือเพียงแค่ชาวบ้านโพนสว่างอันเป็นที่ตั้งของลานหินภูเขาไฟทำพิธีนี้เท่านั้น ไม่ใช่งานใหญ่เหมือนในอดีตอีกต่อไป...ทำไม??? เหตุผลเป็นความจริงที่ไม่น่าเชื่อ
ปีหนึ่งมีพระสายธรรมยุติมาจำพรรษาที่ศาลาบนพื้นที่วัดดอยนี้ ชาวบ้านก็ให้การศรัทธาต้อนรับ เมื่อมาถึงเวลางานประเพณีดังกล่าวท่านคัดค้านการเล่นต่างๆ และให้ย่องานให้เสร็จภายในวันเดียว ชาวบ้านเริ่มไม่พึงพอใจ ต่อมามีคนในหมู่บ้านเสียชีวิต ไปนิมนต์พระรูปนี้มาสวดงานศพ ปรากฏว่าท่านมานั่งสมาธิ ไม่สวดมนต์ตามที่ชาวบ้านนิมนต์มาและตามประเพณีเดิม จนชาวบ้านต้องไปนิมนต์พระสายมหานิกายจากวัดอื่นมา
ความขัดแย้งเริ่มบานปลายมากขึ้นเมื่อพระรูปเดิมที่มาจำพรรษาที่นี้ไปตกแต่งรอยพระบาท พยายามสร้างกุฏิในที่ที่ชาวบ้านไม่เห็นด้วย เมื่อมาถึงงานวัน 14-15 ค่ำเดือน 6 ท่านก็ยืนยันให้ลดรูปงานลงมาให้มากที่สุด เมื่อเป็นดังนั้นชาวบ้านอื่นๆก็เริ่มทยอยไม่มาร่วมงานอีกต่อไป ไม่มีกองบุญ ไม่มีการสวดอภิธรรม ไม่มีสาดน้ำสงกรานต์ ไม่มีชาวบ้านไทโซ่ทั่วทั้งอำเภอเดินทางมา และจางหายไปจนปัจจุบันนี้
พระท่านรูปนั้นก็จากไปนานหลายปีแล้ว ลานภูเขาไฟก็แห้งแล้ง ไร้การดูแล ทำนุบำรุง แม้จะมีสำนักสงฆ์สายมหานิกายมาจำพรรษาแทนที่ในปัจจุบัน
แต่ก็มีผู้เฒ่าไม่กี่คนที่ยังศรัทธามาทำพิธีแบบเงียบๆ ครับ
เมื่อเวลาผ่านไป หลายอย่างก็ปรับเปลี่ยนไป
และนี่คือการปรับเปลี่ยนบางอย่างของวิถีไทโซ่
(ขอแก้ไขว่าบ้านโพนสว่างอยู่ ตำบลพังแดงครับไม่ใช่ตำบลหนองแคน)น)
น่าเสียดาย วัฒนธรรมที่ดีงาม จริงๆครับ ....
สวัสดีค่ะคุณบางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)
น่าสนใจนะคะ มีภูเขาไฟด้วย
แต่น่าเสียดายที่รอยพระบาทกับธาตุไม้ไม่ได้รับการดูแลต่อ เพียงเพราะความเชื่อที่แตกต่างกัน...กับวัฒนธรรมที่หายไปพร้อมกับคนยุคหนึ่ง..
อย่างน้อยคุณบางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา) ก็มาได้บันทึกไว้ล่ะค่ะว่ามีสิ่งเหล่านี้อยู่ พยายามคิดในทางที่ดีค่ะ เพราะคงไปเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้ค่ะ...
ขอบคุณนะคะ
สวัสดีครับคุณบางทราย
มีความเห็นเหมือนอาจารย์กมลวัลย์ครับ น่าเสียดายรอยพระพุทธบาท พระธาตุ และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามจริงๆ ควรได้รับการทำนุบำรุงสืบทอดต่อให้ลูกหลาน
วันหนึ่งข้างหน้า อาจมีผู้มีบุญมาบูรณะใหม่ให้ใหญ่โตขึ้นก็ได้นะครับ
ขอบคุณนะครับที่มีเรื่องสนุกๆที่มีสาระมาเล่าให้ฟัง
สวัสดีครับ น้องขจิต ฝอยทอง
ระบบ internet ที่บ้านมีปัญหาทั้งคืน เลยตัดสินใจมาใช้มรา ร้านในเมือง และเอาคุณแม่เข้าโรงพยาบาลด้วย เลยตอบช้าไปหน่อยครับ
เอ้า ถ้าสนใจก็หากมีเวลาก็แวะมานะครับ
สวัสดีครับคุณ join_to_know
ครับหากผมสามารถต่ออายุโครงการระยะที่สองได้คงได้มาปรึกษาหารือเรื่องการรื้อฟื้นประเพณีเช่นนี้ครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับอ.กมลวัลย์
ขอบคุณครับ อาจารย์ คิดตรงกันว่าอย่างน้อยก็บันทึกไว้เพื่อวันหน้าที่โอกาศ หรือท่านอื่นๆจะมาสานต่อให้เกิดสิ่งดีงามต่อไปก็จะยิ่งดีครับ
ขอบคุณครับอาจารย์
สวัสดีครับอาจารย์อ.ศิริศักดิ์
ขอขอบคุณที่กรุณาแวะมาเยี่ยมครับ ผมพยายามทำบันทึกไว้และหากเป็นไปได้คงนำบันทึกนี้ไปปรึกษากับเจ้าของพื้นที่เพื่อตั้งประเด็นเสวนาดูว่าจะทำอะไรได้บ้างต่อไปในภายภาคหน้าครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะพี่บางทราย
เบิร์ดเพิ่งเคยเห็นปากปล่องภูเขาไฟในไทย ! ..น่าสนใจออกค่ะ ดับมานานแล้วหรือยังคะแล้วลึกแค่ไหน เชื่อมต่อไปที่อื่นด้วยหรือเปล่า..( ข้อมูลพวกนี้น่าจะดึงให้เกิดความสนใจได้น่ะค่ะ ^ ^ )
รอยพระบาทก็น่าสนใจค่ะธรรมดามีน้ำเต็มอย่างนี้หรือเปล่าคะ..เกิดมาตั้งแต่สมัยใด เป็นรอยพระบาทข้างไหน.. เกิดพร้อมๆกับรอยพระบาทที่ใดของไทย..( ข้อมูลที่กระตุ้นให้ตาโต อิ อิ )
ธาตุไม้สร้างมาเมื่อไหร่..ไม้อะไร..รูปรอยที่แกะสลักไว้จำหลักเป็นลวดลายอะไร..มีตำนานใดเกี่ยวข้อง..มีความหมายใด..มีคนเห็นอิทธิปาฏิหาริย์อะไรบ้าง.. ( คนไทยชอบอิทธิฤทธิ์นี่คะ ^ ^ )
เข้ามาป่วน ( ตามคำแซวพี่บางทรายค่ะ )...งานนี้โบราณคดีเคยเข้ามาสำรวจให้มั้ยคะ ?
พรุ่งนี้จะส่ง CD ไปให้นะคะ ...วันนี้ติดงานทั้งวันเลย
สวัสดีครับน้องเบิร์ด
ขอบคุณมากที่ตามมาตั้งคำถาม เยอะแยะเลย พี่เองก็เอาหินมา 3 ก้อน(ยกมือไหว้เจ้าที่แล้ว) เอามาให้นักธรณีวิทยาพิจารณา วิคราะห์หน่อยว่า มีข้อมูลทางวิทยาศาตร์ธรณีว่าอย่างไรบ้าง จึงขอเวลาหน่อยนะครับ (เด็กจอมแก่น)
ส่วนเรื่องอื่นๆจะทะยอยตอบนะครับ
โอ เค นะเด็กจอมแก่น
สวัสดีค่ะ
รู้สึกเราจะมีภูเขาไฟเล็กๆอย่างนี้อีกนะคะ เคยอ่าน จำไม่ได้แล้ว จะลองค้นดู แต่ก็แปลกดีนะคะ แล้วมันมอดหมดหรือยังคะ
สวัสดีค่ะพี่บางทราย
สวัสดีครับ SASINANDA
ผมใช้ภาพถ่ายดาวเทียมของ Point asia สำรวจดูแล้วเอารถลุยภาคพื้นดิน พิจารณาด้วยความรู้พื้นๆที่ไม่ใช่นักธรณีวิทยา คิดว่าดินแดนแถบนี้น่าที่จะเป็นแดนภูเขาไฟเก่าแก่
มีหลุมแบบนี้อีกหลายจุด แต่เก่า ไม่สวบงาม และปากหลุมไม่ชัดเจนอย่างรูปที่เอามาแสดงครับ ป่าไม้ด้านบนของภูเขาไฟตามรูปนี้สวยงามมาก มีพระไปส้รางสำนักสงฆ์บนภูเขา ตรงนั้นเป็นหน้าผา มองออกไปเป็นวิวป่าไม้สวยจริงๆครับ วันหลังจะเอารูปมาฝากครับ
ภูเขาไฟเหล่านี้ไฟมอดหมดแล้วครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับพี่บางทราย
เมืองไทยยังมีอะไรดีๆอยู่เยอะเลยนะครับ...ตอนผมไปบวชอยู่ที่วัดถ้ำพระภูวัว อ.เซกา จ.หนองคาย...เคยเดินขึ้นไปบนเขาหลังวัด (ไกลมาก)...มีลานหินรูปร่างแปลกๆเป็นร่องๆ แนวๆ น่าสนใจมาก...บางลานก็มีหลุมเกิดจากการกัดกร่อนโดยธรรมชาติ...มีน้ำอยู่ตลอดเวลาแปลกตาดีครับ...มีต้นไม้ดอกไม้แปลกๆที่ขึ้นตามโขดหินด้วย...ตกตอนกลางคืน..ดาวเต็มฟ้าเลยครับ...ยิ่งคืนไหนสวดปาติโมกข์..มีบทชุมนุมเทวดา..คืนนั้นฟ้ายิ่งสวยครับ...
โอชกร
สวัสดีครับน้องRanee
ใช่ครับพี่ก็เสียดายที่ผู้มีอำนาจน่าที่จะมาพัฒนาให้น่าดูมากกว่านี้ ปล่อยให้ธรรมชาติถูกกระทำมากไป
น่าที่จะพัฒนาปากหลุมให้สะอาด เพราะบางปากหลุ่มมีหญ้าขึ้นเต็มเลยครับ และน้ำเป็นสีเขียวอันเนื่องมาจากมีตะใคร่ขึ้นเต็ม
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับน้อง โอชกร - ภาคสุวรรณ
น่าสนใจที่ไปบวชที่นั่น ใช่ครับเมืองไทยมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากที่ยังไม่เปิดเผยออกมา ที่ดงหลวงก็มีหลายที่เช่นกัน ตั้งใจว่าจะทะยอยเอาออกมา เท่าที่จะมีเวลาอยู่ และเอื้ออำนวย
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ น้องเบิร์ด
คำถาม เบิร์ดเพิ่งเคยเห็นปากปล่องภูเขาไฟในไทย ! ..น่าสนใจออกค่ะ ดับมานานแล้วหรือยังคะแล้วลึกแค่ไหน เชื่อมต่อไปที่อื่นด้วยหรือเปล่า..( ข้อมูลพวกนี้น่าจะดึงให้เกิดความสนใจได้น่ะค่ะ ^ ^ )
คำตอบ อย่างที่มอกนะครับว่ากำลังขอข้อมูลจากนักธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่นอยู่ครับ ข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับภูเขาไปนี้ ที่พื้นที่ไม่มีปรากฏเลย ที่น่าสนใจคือ นอกจากตรงนี้แล้วหากดูพื้นที่รอบๆบริเวณนี้จาก Point Asia จะพบว่ามีลักษณะพื้นที่ลานหินคล้ายๆกันอีกหลายแห่ง เมื่อวานพี่เลยเอารถไปลุยคนเดียวมาพบว่ามีลักษณะเป็นภูเขาไปอีกหลายแห่ง แต่ปากหลุมไม่เด่นชัดมากเท่าที่ปรากฏในภาพนี้ ด้วยความรู้พื้นฐาน พื้นที่แถบนี้น่าที่จะเป็นพื้นที่ภูเขาไปมาก่อนเมื่อหลายล้านปีมาแล้ว รอคำตอบทางข้อมูลทางธรณีวิทยาอยู่ครับ
คำถาม รอยพระบาทก็น่าสนใจค่ะธรรมดามีน้ำเต็มอย่างนี้หรือเปล่าคะ..เกิดมาตั้งแต่สมัยใด เป็นรอยพระบาทข้างไหน.. เกิดพร้อมๆกับรอยพระบาทที่ใดของไทย..( ข้อมูลที่กระตุ้นให้ตาโต อิ อิ )
คำตอบ เท่าที่สอบถามาผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า การนำน้ำไปใส่ลงในรอยพระพุทธบาทคือความเชื่อของชาวบ้านว่าจะมีสาวนทำให้เกิดฝนตก เป็นส่วนประกอบของพิธีขอฝน น้ำที่เอามาก็คือน้ำจากหลุมปากปล่องภูเขาไปที่มีน้ำขังอยู่นั่นแหละครับ ขนเอาใส่ให้เต็ม และน้ำนี้เมื่อไม่มีฝนตกลงมาเติมน้ำ ก็จะแห้งหายไปเพราะโดนแดดเผาครับ บางครั้งพี่ขึ้นไปแล้วไม่เห็นมีน้ำน่ะครับ
เกิดมาแต่สมัยใด พี่สอบถามผู้เฒ่า บอกว่าไม่มีใครรู้ว่ามีมาแต่เมื่อใด แต่จากการฟังการเล่าของผู้เฒ่าประมาณได้ว่าก่อนที่ชนเผ่าโซ่จะเข้ามาอยู่ในท้องถิ่นนี้ เพราะเมื่อโตขึ้นมาก็เห็นแล้ว พ่อของผู้เฒ่าก็เห็นแล้ว และไม่มีใครเล่าประวัติให้ฟังได้เลยครับ
เป็นพระบาทข้างไหน เป็นพระบาทข้างขวาครับ
เกิดขึ้นมาพร้อมกับรอยพระบาทใดของไทย นักโบราณคดีก้ไม่เคยมาพิสูจน์ ทางจังหวัดก็ไม่เคยเชิญนักโบราณคดีมาพิสูจน์ครับ (นั่นซิพี่ถึงว่าทำไมจังหวัดเงียบจังเลยเรื่องเล่านี้)
ธาตุไม้สร้างมาเมื่อไหร่..ไม้อะไร.. จากการประมาณด้วยการสังเกตการพูดคุยกับพ่อเฒ่านะครับ น่าจะประมาณปี พ.ศ. 2526-2527 ซึ่งเป็นปีที่ทางพี่น้องไทโซ่ออกจากป่าแล้วรื้อฟื้นพิธีขอฝน สงกรานต์ขึ้นมาใหม่ หลังจากช่วงที่อยู่ป่า 20 กว่าปีเศษนั้นไม่สามารถทำพิธีได้เพราะทางพรรคห้ามทำ และต่อมามีเรื่อขัดใจกันก็เลิกทำพิธีไป ดังกล่าวแล้ว ปกติการทำธาตุจะทำทุกปี ปีละหนึ่งต้น แล้วแต่ว่าจะทำเล็กทำใหญ่ ทำด้วยไม้เนื้อแข็งคืออ ตะแบก
รูปรอยที่แกะสลักไว้จำหลักเป็นลวดลายอะไร..มีตำนานใดเกี่ยวข้อง..มีความหมายใด. รูปรอบที่แกะสลักนั้นจะจลองแบบหยาบๆเหมือนองค์พระธาตุพนมครับ เพราะดังเล่าแล้วว่าไทโซ่มีความเคาระองค์ธาตุพนมมากครับ เพราะเชื่อว่าพระผู้สร้างองค์ธาตุพนมนั้นมี 5 รูป และหนึ่งในนั้นเป็นพระชาวไทโซ่ครับ นี่คือความเชื่อของไทโซ่ จึงให้ความเคารพสูงสุด
มีคนเห็นอิทธิปาฏิหาริย์อะไรบ้าง.. ( คนไทยชอบอิทธิฤทธิ์นี่คะ ^ ^ ) มีแน่นอน บ้างก็ว่าหากทำพิธีแล้วการทำนายทายทักของหมอผู้ทำพิธีนั้นจะแม่นมาก ส่วนมากจะถามถึงเรื่องเกี่ยวกับ ดินฟ้าอากาศ การทำนาทำไร่ ทำสวนจะได้ผลแค่ไหน เหมือนการ เสี่ยงทางวันพืชมงคลครับ ส่วนเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยมีมากทีเดียวครับ
คำถามน้องเบิร์ดนั้น เป็นประเด็นที่พี่ตั้งไว้อยู่ว่าจะหารายละเอียดเพิ่มเติม ความจริงเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับประเพณีของไทโซ่อีก 2-3 แห่ง คือ หลวงปู่องค์ดำแห่งบ้านมะนาว และวัดที่บ้านติ้วที่เป็นวัดไม่มีพระ แต่ใช้ "ผ้าขาว" เป็นผู้ทำพิธีต่างๆ เพราะชาวไทโซ่ "เชื่อผีมากกว่าพระ" น่าสนใจมาก แต่ขอเวลาหน่อยนะครับ หรือใครสนใจจะมาศึกษาก็ยินดี หรือแม้แต่จะมาเที่ยวชมก็ยินดีครับ
สวัสดีครับน้องเม้ง
คุณยายก็เป็นโรคคนชราน่ะครับ ไปตามสภาพ ก็ 97 แล้ว เนื่องจากนอนบนเตียงมาเกือบ 10 ปี จึงเกิดแผลกดทับ และกินลึกเข้าไปถึงกระดูก ก็ต้องรักษากัน ยาสมัยใหม่นี้เขามีคุณภาพดีมาก แต่ แพง.....จริงๆ
ใช้ครับพี่ก็ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ แต่ผู้รับผิดชอบไม่สนใจ เหลือแต่ท้องถิ่นต้องดันเอง แต่คงต้องค่อยๆคุยกัน
น้องเบิร์ดเขาเก่งจริงๆ ยกนิ้วให้เลย เห็นด้วยตามที่น้องเม้งกล่าว
เนื่องจากคุณยายป่วยดังกล่าว และโครงการของพี่กำลังเข้าช่วงงานเก็บข้อมูลสนามเพื่อขยาย Stage 2 ซึ่งพี่ต้องเป็นแม่งานรับผิดชอบ พี่คงหายไปบ้างนะครับ
สวัสดีครับพี่ 21. Lin Hui
บ้านโพนสว่าง ตำบลพังเเดงไม่ใช่หรอค่ะ
ขอบคุณน่ะค่ะ ที่ช่วยประชาสัมพันธ์ให้น่ะค่ะ
สาวบ้านติ้วครับผมแก้ไขแล้วครับ ขอบคุณมาก เผลอไปครับ เอ..ลูกสาวใครหนอ บอกหน่อย ฝากความระลึกถึงผู้ใหญ่ถวิลด้วยนะ เคยเขียนถึงวัดบ้านติ้วด้วย ลองหาดูนะ กำลังคุยกันว่าจะปรับปรุงพัฒนาโครงการสูบน้ำได้อย่างไร น้องสาวบอกเพื่อนๆช่วยกันดูแลฝายด้วยนะ อย่าไปทำลายมันนะ วันหลังต้องเจอกันหน่อยแล้วหละ