แผนที่แสดงกลุ่มเทือกเขาที่ตั้งอำเภอดงหลวง
ชีวิตในธรรมชาติ: ประมาณปี พ.ศ. 2527 พี่น้องไทโซ่ดงหลวงเป็นคอมมิวนิสต์กลุ่มสุดท้ายของประเทศไทยที่ออกมามอบตัวกับทางการเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยนั้น เมื่อย้อนถอยหลังไปในอดีตนั้น ถือว่าดงหลวงเป็นสังคมปิดโดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีถนน มีแต่ทางเกวียน ทางวัว ทางม้าเดิน แต่ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางคนเดินเสียมากกว่า ท่านลองเดาซิว่าสภาพบ้านเรือนจะเป็นเช่นไร
หลายท่านคงนึกภาพไม่ออก เลยเอาบ้านที่หลงเหลืออยู่มาให้ดูกัน ส่วนใหญ่บ้านจะประกอบด้วยไม้ไผ่ การเอาไม้จริง หรือต้นไม้มาทำบ้านนั้นเพิ่งมีเมื่อออกจากป่ากันมานี่เอง
ผู้เฒ่าท่านหนึ่งกล่าว อย่างที่กล่าวบ่อยๆว่า อาชีพหลักในสมัยนั้นคือการปลูกข้าวไร่บนที่ดอนสูงอาศัยเพียงน้ำฝน การมาทำนาในที่ลุ่มนั้น การทำนาปีในที่ลุ่มนั้นมีจำนวนน้อยมาก มาก ทั้งนี้พ่อเกี้ยง เชื้อคำฮด เฒ่าจ้ำใหญ่ตำบลพังแดงอธิบายเหตุผลว่า “การมาทำนาปีในที่ลุ่มนั้น ต้องเป็นครอบครัวใหญ่และมีความขยันจริงๆ เพราะต้องทำรั้วรอบที่นา มิเช่นนั้นวัวจะเข้าไปเหยีบย่ำ
เราทราบดีว่าการใช้เวลาของชาวไทโซ่โบราณนั้นมีชีวิตอยู่กับป่าจริงๆ มีเวลาว่างก็เข้าป่า จึงไม่มีเวลามาเฝ้าวัวควายที่จะเข้ามาเหยีบย่ำข้าวนั่นเอง เรานึกไม่ถึงเหตุผลง่ายๆที่เป็นวิถีชีวิตของพี่น้องไทโซ่ อาหารจานโปรดคือสัตว์ป่านานาชนิด หนึ่งในนั้นก็คือ หนูป่า ที่มีอยู่อย่างชุกชุมและเด็กหนุ่มๆมักจะใช้เวลาไปวางกับดักหนูป่าทั้งวัน ทั้งคืน และไม่พลาดหรอกที่จะไม่ได้กิน
เครื่องมือดักหนูของชาวบ้าน
“หนูป่าที่ได้มาจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง ให้กับเพื่อนที่ไปด้วยกัน และส่วนที่สองก็ให้กับพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องซึ่งไม่มีโอกาสขึ้นป่าล่าสัตว์ ส่วนที่สามจึงเอามากินเอง นี่คือวัฒนธรรมพี่น้องไทโซ่ที่ยังถือปฏิบัติกันอยู่จนปัจจุบัน งดงามจริงๆ ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่แก่กันนี้ สังคมในเมืองหลวงกำลังเรียกร้องหายิ่งนัก”
บ่ะไฟโป๊ก : ขณะที่บางคนร่ำรวยมาจากไหนเป็นหมื่นๆล้าน แต่ข่าววันนี้มี่แม่ฆ่าลูกในไส้เพราะความยากจน บางคนมีที่อาศัยที่เรียกคฤหาสน์ราคามากกว่า 300 ล้าน แต่ไทโซ่ดงหลวงใช้ไม้ไผ่ทำที่อาศัยโดยไม่เสียมูลค่า บางคนซื้อหาไฟแช๊กฝังเพชรราคานับแสนบาทให้เจ้านายใช้ประดับบารมี แต่ผู้เฒ่าดงหลวงยังใช้หินตีกับเหล็กให้เกิดประกายไฟใช้ เรียกว่า “บ่ะไฟโป๊ก” ใครจะเชื่อ ผู้เขียนเคยเรียนในสมัยเด็กๆว่ามนุษย์ถ้ำโบราณนับเป็นพันๆปีเขาใช้กัน แต่มีที่ดงหลวงครับ
พ่อเฒ่าอายุ 76 ปี ผ่านชีวิตมาโชกโชนกับธรรมชาติ กินกลอย กินมัน แทนข้าวก็เคยเพราะข้าวหมดก่อน พ่อเฒ่าขาว เชื้อคำฮด อยู่บ้านหนองหมู บ้านเดียวกับพ่อเกี้ยงเฒ่าจ้ำใหญ่ของตำบล พ่อเฒ่าขาวสูบบุหรี่พื้นบ้าน บวนด้วยใบตอง ยาสูบก็ปลูกเอง แต่พ่อเฒ่าไม่ใช้ไฟแช๊ก ไม่ว่ายี่ห้ออะไรก็ตามหรือสมัยใหม่ที่เป็นแก๊ส หรือไม้ขีด ยกเว้นว่าอุปกรณ์ทำไฟของพ่อเฒ่ามีปัญหาก็อาจจะขอยืมลูกๆใช้บ้าง แต่ไม่ค่อยเกิดขึ้น
เครื่องมือกำเนิดไฟของพ่อเฒ่ามีหินจากลำห้วยที่มีแง่คม มีเหล็กตะไบเก่าๆที่ยังมีบั้งเล็กๆสำหรับตะไบไม้ และที่สำคัญคือ ฝ้ายหรือนุ่นที่บรรจุอยู่ในกระบอกไม้ไผ่เล็กๆพอเหมาะมือปิดหัวท้ายด้วยฝาตลับยาหม่อง
อุปกรณ์ที่อาจกล่าวว่าเป็นเทคโนโลยี่เบื้องต้น (Low Technology) นี้พ่อเฒ่าภูมิใจนักเพราะว่า ไม่ต้องพึ่งถ่านไฟแช๊ก ไม่ต้องพึ่งน้ำมันไฟแช๊ก วัสดุอุปกรณ์ไม่ต้องเสียเงินซื้อหาเพราะมีอยู่ในชุมชน ไม่ต้องกลัวน้ำมันหมด ไม่ต้องกลัวถ่านหมด.. บ่ะไฟโปกใช้ได้ตลอดเวลา พวกวัยรุ่นต่างหากที่มักจะมาพึ่งพ่อเฒ่า เพราะไม้ขีดหมด ไฟแช๊กมันหมดแก๊ส พ่อเฒ่าภูมิใจในเครื่องกำเนิดไฟโบราณชุดนี้ พ่อเฒ่ากล่าวอีกว่า ความจริงเครื่องมือชุดนี้ถือว่าสมัยใหม่ขึ้นมาแล้วนะ ก่อนหน้านี้ชาวบ้านใช้วิธีโบราณจริงๆคือใช้ไม้สีกันจนเกิดไฟ เดี๋ยวนี้หมดไปแล้วตั้งแต่เข้าป่านั่นน่ะ
พ่อเฒ่าขาว เชื้อคำฮด เจ้าของ บ่ะไฟโป๊ก
พ่อเฒ่าอธิบายว่าไผ่เหมือนคันธนู ตรงกลางคันธนูมีร่องสำหรับฝน ไม้ที่ฝนจะพันด้วยก้านคล้ายคันสีไวโอลิน ม้วนเชือกกับแท่งไม้ วางแท่งไม้ลงบนร่องคันธนูนั่น แล้วก็บังคับให้แก่นไม้นี้หมุนโดยการขยับคันที่เหมือนเครื่องสีไวโอลินนี่ เมื่อร้อนมากๆก็จะเกิดไฟขึ้นโดยเอานุ่นหรือฝ้ายไปวางตรงส่วนที่ร้อนนั่น ก็จะได้ไฟติดนุ่น แล้วเป่าให้ไฟลุก แล้วเอาไปต่อกับฟืนใหญ่ต่อไป “นี่ไงครับรูปธรรมของการพึ่งตนเอง พอเพียงแบบดงหลวง”
อ้ายบ่าวบางทรายเจ้า...17-19 มีค. ที่บ้านครูบานะเจ้า..
อยากได้กระป๋องดักหนูตัวอย่างสักอัน
จะมาให้เด็กๆเอากระป๋องเก่ามาทำประโยชน์
ตกลงครับท่านครูบา ผมจะประสานงานน้องๆที่มุกดาหารจัดการให้ครับ
สวัสดีค่ะ พี่ชาย ที่คิดถึง
เรียนเชิญที่ ... เราชาวโกทูโน..มาทำอะไร..สนุกๆในวันตรุษจีนกันนะ
สวัสดีครับครูอ้อย
เดี๋ยวพี่หารูปสวยๆก่อนนะครับ
เข้าท่าครับ
ซิน เจีย ยู่ อี่ ซิน นี้ ฮวด ใช้ ครับ