ช้างน้าวที่กล่าวถึงต่อไปนี้ไม่ใช่ช้างมีงวงมีงาตัวใหญ่ๆนั่นนะครับ หรือไม่ใช่ลูกช้าง มช.ด้วยครับ ช้างน้าวเป็นชื่อไม้ดอกชนิดหนึ่งครับที่เป็นไม้มงคลและได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถให้เป็นไม้ประจำจังหวัดมุกดาหารเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ปี พ.ศ. 2537 ครับ
เนื่องจากท่านครูบาสุทธินันท์ ได้รับช้างน้าวมาที่สิงห์ป่าสักและครอบครัวปลูกกันที่มหาชีวาลัยอีสานเมื่อช่วงวันที่ 28-30 ก.ค.วันเฮฮาศาสตร์ที่ผ่านมา ผู้บันทึกเลยขยายข่อมูลให้ท่านครูบาทราบเท่าที่ผู้บันทึกทราบมา จนทำให้ท่านครูบาสนใจมากขึ้นว่าเป็นไม้ที่มีดอกสีเหลืองสวย บานนานร่วมเดือนและเป็นไม่มงคล จนเลยไปถึงว่า น่าที่จะจัดเฮฮาศาสตร์ครั้งต่อไปที่มุกดาหารในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเข้าป่าดูช้างน้าวออกดอกแบบเดิมๆกลางป่าดงหลวงเลย จนผู้บันทึกตื่นเต้นที่ยินดีที่จะจัดงานนั้น
เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมจึงไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับช้างน้าวมาเพิ่มเติม ตามไปเปิดพจนานุกรมไม้ดอกไม้ประดับของบรมครู ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม ปรากฏว่าไม่มีข้อมูลครับ ไปดูเอกสารไม้ดอกไม้ประดับของปัทมา แซ่ลี้ หนังสือชื่อ "ณ วันดอกไม้บาน" ก็มีข้อมูลสองสามบรรทัดเอง จึงเข้า Web ไปดูข้อมูล คราวนี้พบข้อมูลมากมายเลยครับ เลยเอามาฝากกันครับ
ช้างน้าวมีชื่อพฤกษศาสตร์ OCHNACEAE ชื่ออื่นๆ Ochna integerrima Lour. Merr. อยู่ในวงศ์ กระแจะ, ตาลเหลือง
ช้างน้าวเป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดเล็ก ตามปลายกิ่งมีกาบหุ้ม ตาแข็งและแหลม
ใบ : เดี่ยว รูปไข่กลับ โคนสอบแคบ ปลายเรียวแหลม มนหรือเว้า เส้นใบละเอียด หยักถี่
ดอกช่อ: เหลือง ออกเป็นช่อกระจุกตามกิ่ง และโคนซอกใบ เกสรตัวผู้มีจำนวนมาก ร่วงง่าย
ผล : กลม เมล็ดเมื่อสุกมีสีดำติดอยู่บนฐานรองดอกสีแดง เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็น สีดำมัน ออกดอกเดือน มกราคม-พฤษภาคม การยายพันธุ์ เพาะเมล็ด
ประโยชน์ : รากขับพยาธิ แก้น้ำเหลืองเสีย เบาหวาน, ผิดสำแดง, ดีซ่าน เปลือกต้น มีรสขม ใช้ปรุงเป็นยา ช่วยให้เจริญอาหาร
ถิ่นกำเนิด: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้นตามป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ในต่างประเทศที่ลาวและเวียตนามถือว่าเป็นไม้มงคล มีการซื้อขายกิ่งที่มีดอกตูมและนิยมนำไปปักไว้ที่บ้าน
ภาคกลางเรียก กำลังช้างสาร ระนองเรียกกระแจะ จันทบุรีเรียก ขมิ้นพระต้น ทางเหนือเรียกตาลเหลือง จังหวัดเลยเรียกดอกเหมย มุกดาหาร เรียกดอกตรุษจีน บุรีรัมย์เรียกแง่ง ตราดเรียกช้างโน้ม ระยองเรียกช้างโหม ราชบุรีเรียกฝิ่น
ผู้บันทึกไปทำงานมุกดาหารเมื่อปี 47 เดินที่ตลาดอินโดจีนริมแม่น้ำโขงก็พบชาวบ้าน และแม่ค้าเอากิ่งช้างน้าวที่มีดอกตูมๆมาวางขายครับ ที่เรียกดอกตรุษจีนก็เพราะเธอจะบานช่วงตรุษจีน และในตลาดอินโดจันนั้นพ่อค้าชาวจีนและไทยเชื้อสายเวียตนาม นิยมซื้อเอาไปไหว้เจ้าด้วยครับ เราคิดกันว่าช่วงฤดูหนาวปี 51 นี้เราจะลุยป่าเพื่อดูช้างน้าวกันครับในวันเฮฮาศาสตร์ดงหลวง ขอจบลงที่ตรงนี้ครับ
“…ช้องนางช้างน้าวสายหยุด ช่อตะแบกชาตบุษย์ชูก้าน พิกุลพวกแก้วเป็นแถวบาน พุดตานพันแต้วจำปี…” รามเกียรติ์ : พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ร.1
สวัสดีค่ะพี่บางทราย
ดอกช้างน้าวสวยดีนะค่ะ อยากดูใกล้ๆค่ะ งานเฮฮาศาสตร์ที่ดงหลวงกุมภาพันธ์ปีหน้าได้ดูแน่นอนใช่มั้ยค่ะ...ดอกสีแดงข้างล่าง คล้ายๆ ดอกมิกกี้เมาส์นะค่ะ
ท่านบางทรายค่ะ ขอบคุณแทนคนเมืองมุกทุกคนเลยคะ
สวัสดีครับอาจารย์ paew
สวัสดีครับท่าน สะมะนึกะ สะ-มะ-นึ-กะ
สวัสดีครับน้อง Moo MOO
สวัสดีครับน้องสิงห์ สิงห์ป่าสัก
สวัสดีครับออต ออต
สวัสดีครับ pa_daeng
ไม่เคยรู้จักเลยค่ะ เป็นความรู้ใหม่ของน้องจริง ๆ สีสรรสวยสดใสดี แบบนี้เรียกว่าธรรมชาติสร้างสรรนะคะ
น้องก็ชอบกล้วยไม้ค่ะ เหมือนพี่pa_daeng ค่ะ แต่เอามาเลี้ยงเองที่ไร ดอกไม่ค่อยออก ดอกที่ออกก็เล็กค่ะ...ตอนนี้เลยหันมาเลี้ยงไม้ใบแทน จำพวกว่าน
ขอบคุณพี่บางทรายที่นำมาให้รู้จักกันนะคะ
หวัดดีน้อง Phiangruthai
เตรียมตัวเป็นคุณแม่ให้เต็มที่นะ เดี๋ยวนี้วิชาการด้านการดูแลเด็กเล็กมีมากมาย ทำให้คุณแม่มือใหม่เตรียมตัวได้ดี แต่ก็อย่าลืมของเก่านะสมัยคุณพ่อคุณแม่ที่ดูแลเรามา มีของดีมากมาย
อ้าวไปคุยเรื่องลูกน้อยไปแล้ว
ที่บ้านพี่ก็ชอบกล้วยไม้ มีช้างกระอยู่จำนวนหนึ่ง ดูแลบ้าง ไม่ได้ดูแลบ้างก็ออกดอกทุกปี ช่วงดูแลก็ให้ปุ๋ยน่ะครับ จะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ที่มีขายเป็นชุด หรือให้ปุ๋ยประเภทน้ำหมัก
หากคุยเรื่องกล้วยไม้ต้องอาจารย์ภูคา ยกให้ท่าน พี่ยังเป็นลูกศิษย์แบบแอบแอบน่ะครับ
สวัสดีครับพี่บางทราย
ตอนแรกได้เห็นคำว่า ช้างน้าว นึกว่าเป็นกล้วยไม้ซะอีก ทำให้ผมงง ว่ามีกล้วยไม้เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดด้วยหรือ แต่พอเปิดเข้ามาอ่านดูจึงได้รู้เพิ่มอีกแล้วครับ
ขอแก้ข่าวนิดหนึ่งครับ เรื่องกล้วยไม้ ผมก็ยังรู้น้อยอยู่ครับ ก็ต้องศึกษากับไปเรื่อย ๆ อาศัยใจรัก ก็มีความสุขแล้วครับ
สวัสดีครับ อาจารย์ ภูคา
สวัสดีครับน้อง MOO