"อ้น ทำการบ้านหรือยังลูก"
ผ่านไป 10 นาที
"อ้น การบ้านเสร็จหรือยัง"
อีก 10 ต่อมา
"อ้น มาอาบน้ำกินข้าวลูก"
และต่อมา "เอ้า เล่นเข้าไป เดี๋ยวตาก็เสียหรอก"
คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงหลับตาเห็นภาพชัดว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อลูกหมกมุ่นอยู่กับหน้าจอของเกม ทั้งเกมบอย เกมคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงตู้เกมที่มีเกลื่อนกลาด แม้แต่หน้าโรงเรียน หลายท่านนึกโกรธเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ปล่อยให้มีตู้เกมทั้งเมือง โกรธคนคิดเกมที่ออกเกมใหม่แทบทุกเดือน ท้ายสุดนึกโกรธตัวเองที่ซื้อเกมให้ลูก
ทำไมเด็กติดเกม ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินก็ต้องบอกว่า ก็เพราะเขาสร้างเกมมาไว้ให้ติด ซึ่งถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะไม่อย่างนั้นเด็กทุกคนที่เล่นเกมก็ต้องติดกันหมด เพราะเกมมีลักษณะที่ตอบสนองเด็กอย่างท้าทาย สนุกสนาน และชวนติดตาม
แต่ความจริงเด็กไม่ติดกันทุกคน และทุกอย่างในโลกนี้เมื่อมีข้อเสียก็ต้องมีข้อดีบางอย่างอยู่บ้าง เช่น เกมช่วยฝึกการสังเกต ฝึกทักษะความไวในการโต้ตอบ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายหลบจากโลกภายนอก แต่การเล่นอย่างขาดการควบคุมที่เรียกว่าติดเกมนั้น ส่งผลให้เด็กใช้เวลากับการเล่นเกมจนขาดความกระตือรือร้นและความรับผิดชอบต่อตนเองที่จะทำกิจวัตรประจำวันและหน้าที่ที่สำคัญคือเรื่องการเรียน และการเล่นอย่างหมกมุ่นทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพกายทั้งเรื่องสายตา ความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้จากการทำกิจกรรมอื่น ขาดทักษะทางสังคมในการอยู่ร่วมกับคนอื่น เด็กที่ติดเกมหลายคนจะหงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย และหลายคยก้าวร้าวมากขึ้น
ตัวอย่างของอ้น เป็นภาพสะท้อนให้เห็นปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องยอมรับว่า ปัญหาการติดเกมในเด็ก เป็นผลจากการดูแลของคุณพ่อคุณแม่เอง ตั้งแต่การตัดสินใจซื้อเกมให้ลูกเล่น และการกำกับดูแลตั้งแต่ต้น การดูแลมีจุดสำคัญอยู่ 2 ประการ คือ การดูแลเวลาเด็กเล่นเกม และดูแลเกมที่ลูกเลือกเล่น ในประเด็นแรก คุณพ่อคุณแม่ต้องมีกติกาชัดเจนว่า เล่นเกมได้เวลาไหน นานเท่าไหร่ เช่นจะให้เล่นหลังทำการบ้านเสร็จ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง กำกับดูแลให้เป็นไปตามข้อตกลง พร้อมกับมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ เป็นทางเลือกให้ลูกด้วย อย่าปล่อยให้เด็กเล่นไปเรื่อยๆ หรือใช้วิธีพูดบอกโดยไม่มีท่าทางกำกับอย่างหนักแน่นจริงจัง เหมือนกับตัวอย่างแม่ของอ้น ประการที่สองคุณพ่อคุณแม่ต้องเรียนรู้เกมที่ลูกเล่นด้วย พูดคุยกับลูกเรื่องเกมที่เขาสนใจ เลือกเกมที่เป็นกีฬา การผจญถัย หรือเกมในทางสร้างสรรค์อื่นๆ มาเล่นกับลูก
ถ้าลูกเล่นจนติดเกมไปแล้ว การแก้ไขก็จะต้องการความมั่นคงจากคุณพ่อคุณแม่มาก ทั้งความมั่นคงทางอารมณ์ และความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เริ่มจากการตกลงกติกากันให้ชัดเจน และคุณพ่อคุณแม่ก็กำกับให้เป็นไปตามข้อตกลง ในช่วงแรกเด็กจะหงุดหงิด และต่อต้านเวลาคุณพ่อคุณแม่เอาจริง เพราะเขาเคยต่อรองได้ผลมาก่อน คุณพ่อคุณแม่ต้องอย่าพยายามใช้อารมณ์กับลูก พูดด้วยท่าทีธรรมดาแต่มั่นคงว่าเราตกลงกันแล้วก็ต้องทำตามที่ตกลง อย่าเอาแต่พูดบ่นโดยไม่มีท่าทีเอาจริง ในช่วงแรกอาจต้องชักจูงให้ลูกมาสนใจกิจกรรมอื่น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องให้เวลากับเขาพอสมควร อย่าท้อถอยหรือพูดประชด เมื่อเด็กเห็นว่าต่อรองไม่ได้ก็จะทำตามในที่สุด
เด็กติดเกม.. ต้องช่วยกันดูแล
แต่พ่อ แม่ ติด gotoknow เนี่ย ต้องแก้อย่างไรดีคะอาจารย์
อิอิ.. เข้ามาอ่าน กับขออนุญาตแซวนิดหน่อยนะคะ ^__^
คุณมาโนช ค่ะ
ถ้าเรากำหนดกฎกติกา ของการเล่นเกมส์ ให้เขา พอจะแก้ปัญหาได้ไหมค่ะ เช่น กำหนดช่วงเวลาเล่นเกมส์ เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมให้เขา หรือไม่ก็ หากิจกรรมอื่นให้เขาทำ นอกเหนือจากการปล่อยให้เล่นเกมส์อย่างเดียว
แถวบ้านดิฉัน มีร้านเน็ตหลายร้าน และที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าคือ เมื่อมองเข้าไปในร้านแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ อายุไม่ถึง 10 ปี ทั้งน้าน
อ้อ ขอสนับสนุนคำถามของคุณ k-jira ดิฉันก็เคยโดนลูกกล่าวหา ว่า แม่ติด chat เหมือนกันค่ะ อิ อิ
คุณขจิต ครับขอบคุณสำหรับ idea ดีๆ น่าลองทำดูครับ
ผมแวะดูไปในร้านเน็ต ก็น่าเป็นห่วงอย่างที่ คุณ รัตติยา ว่าครับ (สงสัยจะดูร้านเดียวกัน)
ครูอ้อย และ คุณกฤษณา ครับลูกติดเกมเป็นเรื่องปกติครับ สำคัญที่ว่าเขาใช้เวลากับมันอย่างเหมาะสมหรือเปล่า และเนื้อหาของกมมีเรื่องน่าห่วงไหม โดยเฉพาะหากเป็นเน็ต
k-jira ครับ ลองเสนอไอเดียหน่อยครับว่าทำยังไงถึงจะเลิกติด G2000 (G2k) ได้เนี่ย
ผมขอเสนอ idea แรกก่อนว่าให้ผู้ปกครองมาคุมเวลาเล่น !!
(แง ... ไม่เอ้าววววว)
วิธีแก้ แบบที่บ้านแป้นนะคะ คือ
วิธีพวกนี้ พ่อเป็นคนกำหนดค่ะ โดยให้แป้นเป็นตัวประสาน เพราะแป้นกับน้องๆห่างกัน 10 ปี เราเลยรู้ใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ติดงอมแงมเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้เล่นเกมส์ เที่ยวหลงระเริงกับการท่อง net ได้ทั้งวันทั้งคืน และที่สำมะคํญ มิใช่เด็กน้อย แต่อยู่ในวัยป้า (ซิ่ง) แล้วน่ะค่ะ
เคยถูกประกาศิตจากอาจารย์คนที่ชื่อคล้าย ๆ อ. มาโนช (สลับ ม้า-หนู เป็น ปลา-ม้า โดยคงเสียงเดิม) ให้ถอดปลั๊กออก 7 วัน แต่ไม่สำเร็จค่ะ เพราะทำท่าจะลงแดงตายค่ะ
ผมเองก็เคยผ่านทั้งติดเกม ติด chat เหมือนกันครับ
เมื่อก่อนผมว่างผมก็เล่นเกม แต่เมื่อผมอยู่ประมาณ ม.2 ผมก็เริ่มเล่นบาส พอตกเย็นก็ออกไปเล่นบาสกับเพื่อนๆที่สนาม เวลาเล่นเกมจึงน้อยลง อีกอย่างครอบครัวผมกำหนดว่า ห้ามเล่นเกิน 3 ทุ่มครึ่ง ครับ ลองหากีฬาให้ลูกเล่นดูดีมั๊ยครับ
ตอนนี้ผมก็มีอาการตาแดงตลอดหากใช้คอมมากๆ ไม่รู้จะทำไงดีเหมือนกัน ^^" นอนพักสายตาทั้งคืนก็ไม่ค่อยหาย ผลจากการเล่นคอมตั้งแต่เด็กๆ ท่านใดรู้วิธีแก้ไขช่วยบอกด้วยนะครับ
อาจารย์ลำดวนครับผมเดาเอาว่าเด็กในที่นี้คือวัยรุ่น คงถูกนะครับ
วัยรุ่นเขาจะมีโลกส่วนตัวของเขาพอสมควรครับ ถ้าไปจู้จี้กับเขามากๆ เขาจะหงุดหงิด แต่ครั้นจะปล่อยก็ทำใจไม่ได้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ปวดมึนหัวไปตามๆ กัน
เขาคงจะทำอะไรบางอย่างที่ไม่อยากให้พ่อแม่รู้ เช่น แชทกับแฟน เข้าบางเว็บ ที่รู้ว่าพ่อแม่ต้องว่าแน่
วิธีแก้ก็แบบที่คุณแป้นว่าคือวางคอมพ์ไว้ในที่ๆ เป็นสาธารณะ เช่นห้องนั่งเล่น ไม่ให้คอมพ์อยู่ห้องนอน ก็พอช่วยได้ระดับหนึ่งเท่านั้น ยังไงก็มีบางเวลาที่เขาอยู่คนเดียว
เพราะฉะนั้นวิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ ...
"ทำใจ" ครับ ...... แป่ว.........T_T
จริงๆ ครับ ถ้าเขาจะเข้าไปดูไอ้พวกนี้จริงบ้างก็ไม่เป็นไรครับ เพียงแต่ต้องเตือนในแง่ระวังการถูกหลอก โดยเฉพาะถ้าเป็นเพศหญิง
อ้าว เหรอครับ ดีครับ ดีใจที่ช่วยกันแตกต่อความคิด แล้วจะตามไปคุยต่อนะครับ