เหมือนที่เคยเขียนวันก่อนว่า มีเรื่องอยากเขียนมากมาย ทั้งเรื่องงาน เรื่องคน เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่เนื่องจากมีเวลาจำกัด ต้องเลือกเอาเพียงเรื่องเดียว สุดท้ายแล้วก็เลือกเรื่องที่ดูกว้างมาก...อีกแล้ว
อ่านบันทึกคุณศิริ ครบรอบทำงาน 10 ปีและอีกหลายๆบันทึกของวันนี้ที่ไปร่วมลปรร.แล้ว ยิ่งรู้สึกถึงพลังของ"ความรัก" ว่า ทุกเรื่องที่คิดจะเขียน ถ้าเอา"ความรัก"มาจับแล้ว ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องและช่วยได้ไปทุกเรื่อง
ความรัก ทำให้เรา
- ให้อภัย
- ให้ความเข้าใจ
- ยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข
- ทำมากกว่าที่ถูกสั่งหรือมากกว่าที่พลังเรามี
- ไม่อยากเอาชนะ
- เปิดใจรับฟัง
- นึกถึงตัวเอง และผลประโยชน์ของตัวเองน้อยลง
- ให้ความสำคัญกับความรู้สึกมากกว่าวัตถุ
- หยุดการกระทำที่ไม่ดี
สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่อง"สากล" ที่ใครๆก็รู้และยอมรับ แต่ทำไมเรายังทำร้ายตัวเอง และผู้อื่น ด้วยการไม่ให้"ความรัก"แก่กันและกัน ทำอย่างไรเราจะช่วยกันขยายความรู้คิดนี้ให้แผ่ออกไป ให้พวกเราสามารถให้"ความรัก"กับคนได้กว้างขึ้น สำหรับตัวเองแล้ว รับรู้ได้ว่า พวกเราชาว GotoKnow มีความรักให้แก่กัน แบบที่พูดถึงนี้ โดยที่เราไม่ต้องรู้จักกันเป็นการส่วนตัวเลย เราทำได้อย่างไร....ทำอย่างไรเราจะสร้างโลก GotoKnow ให้มีมากขึ้นในสังคมไทย ทำอย่างไร....
"ทำอย่างไรเราจะสร้างโลก GotoKnow ให้มีมากขึ้นในสังคมไทย "
คำตอบคือ....
ปฏิบัติอย่างที่เราทำกันอยู่ต่อไปเรื่อยๆครับ ขยายวงออกไปทีละน้อย และสื่อสารให้ผู้คนที่เราเกี่ยวข้องได้รับรู้อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอและทุกวิถีทาง ผมทำเสมอเมื่อมีโอกาส และเชื่อว่าพวกเราหลายคนก็คงเช่นเดียวกัน และต้องไม่ลืมที่จะนำความรู้สึกดีๆและความชื่นชมศรัทธาที่เรามีให้กันและกันไปแพร่ต่อให้กว้างขวางขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมอันแสดงถึงความรัก ความมีน้ำใจ ความเสียสละ ความไม่เห็นแก่ตัว ของใครต่อใคร ซึ่งหาได้ง่ายมากจากบันทึกของผู้คนใน GotoKnow
ปิดทองหลังพระไปเรื่อยๆครับ ถ้าเกรงว่าจะไม่มีคนเห็น ลองอ่านข้างล่างดูนะครับ ....
ท่าน วสิษฐ เดชกุญชร เคยเล่าให้ฟังว่าเมื่อครั้งท่านเข้ารับพระราชทานพระเครื่องจิตรลดาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ได้รับพระราชทานแล้ว ทรงพระกรุณาพระราชทานพระบรมราโชวาทมีความว่า ...
" พระที่ให้ไปน่ะ ก่อนจะเอาไปบูชา ให้ปิดทองเสียก่อน แต่ให้ปิดเฉพาะข้างหลังพระเท่านั้น "
และพระราชทานพระบรมราชาธิบายต่อว่า ...
" ที่ให้ปิดทองหลังพระก็เพื่อเตือนตัวเองว่าการทำความดีไม่จำเป็นต้องอวดใครหรือประกาศให้ใครรู้ ให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่และถือว่าความสำเร็จในการทำหน้าที่เป็นบำเหน็จรางวัลที่สมบูรณ์แล้ว "
ความรัก..
....เป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่.และเป็นแสงสว่างที่ให้ความอบอุ่นกับทุกสรรพสิ่ง...
.....ไม้เว้นแม้กับตัวเราเอง..
ยังไม่เคยพบหน้า
แต่ศรัทธาในมิตรภาพ
.....
ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราครับ แล้วค่อยแผ่ขยายออกไปที่คนรอบข้าง...
สักวันคงจะแผ่ขยายไปทั่วครับ...
ขอบคุณครับ...
ความรักคือการมีความสุขแต่บางทีมันกลับเป็นอีกอย่างที่ทำให้ฉันเสียใจ
แต่ก่อนฉันเคยเข้าใจว่ารักแล้วจะมีแต่ความสุขแต่กลับมีแต่น้ำตา ความเสียใจ ความเศร้า
พวกเราทุกคนต้องทนเสียทุกสิ่งทุกอย่างกับเรื่องแบบนี้ รักคือเจ็บ เจ็บคือจบ
ถึงเพื่อน เราอยากให้รู้ว่าเพื่อนคนนึงยังรักยังห่วงใย ทำใจให้สบายอยางที่เราเคยเป็นมาก่อนเราอยากให้มันกลับมา
เพื่อนคนนี้รู้ว่ามีเรื่องมากมายที่เข้ามาทำให้เราต้องเสียใจเสียนำตากับเรื่องพวกนี้
เเต่เราทุกคนต้องสู้เเละเราจะไม่ทิ้งกัน
ฉันเพิ่งได้เรียนรู้เข้าใจความเจ็บปวดกับความรักมันเป็นยังไง
เมื่อก่อนฉันคิดว่าการแอบรักใครซักคนมันมีความสูขเมื่อฉันได้เห็นหน้าเขาได้แอบมองดูเขาได้เล่นได้หยอกล้อกับเขา แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันได้เปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อเขาได้รู้ว่าฉันนั้นได้แอบรักเขา รู้สึกที่มีให้กันตอนนี้มันค่อยๆหายไป
เขาไม่มองหน้าฉันเขาไม่คุยกับฉัน เขาไม่เล่นกันฉันเหมือนเมื่อก่อน
เขาคงรักเกลียดฉันมากแต่มันก็เป็นเหตุผลที่ฉันรับไหว แต่มันไม่ไช่อย่างนั้นแล้ว
เมื่อเพื่อนขนงฉันก็แอบรักเขาอยู่เหมือนกันและดูท่าทีแล้วเขาคนนั้นที่ฉันแอบรักก็มีจิตใจหันเหไปรักเพื่อนฉันเหมื่อนกันซึ่งฉันรับได้ เมื่อเพื่อนของฉันรู้ทั้งรู้อยู่ว่าฉันรักแต่ทำไมเขามาทำกับฉันอย่างนี้เป็นเหตุผลที่ฉันรับไม่ได้เลย
ฉันรุ้แล้วว่าฉันเป็นคนผิดที่ไปรักเขา และฉันก็ไม่ควรไปโทษใครได้ด้วยเช่นกัน
แนผิดเอง
เห็นด้วย กับ อ.แผ่นดินค่ะ