ได้เห็นประกาศประชาสัมพันธ์ เรื่องการจัดงาน "มหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติครั้งที่ ๓" ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนามาเป็นเดือน ๆ ยอมรับว่าตื่นเต้นและอยากมีโอกาส เพราะได้อ่านบันทึก ครั้งที่ ๒ ของงานก็ทำให้อยากไปร่วมเรียนรู้มากขึ้น
จนในที่สุดความฝันก็เป็นจริงแล้ว เมื่อคุณสำราญ สารบรรณ์ จากกรมส่งเสริมการเกษตรติดต่อทางโทรศัพท์ว่าให้ไปทำหน้าที่วิทยากรในงานนี้ในส่วนของบูทกรมส่งเสริมการเกษตรด้วย ผมดีใจและสมหวังก็รอว่าให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ ผมคงได้เจอ Blogger เก่ง ๆ หลายคนแน่ ๆ ได้เห็นบรรยากาศของงาน คงได้รับองค์ความรู้จากหลายหน่วยงาน / องค์กร และแล้วหนังสือแจ้งให้ไปร่วมงานเป็นทางการก็แจ้งให้ทราบรายละเอียด เรื่องการเดินทาง สถานที่พัก รายละเอียดในสถานที่จัดงาน รู้ทันทีว่าแถวนั้นแค่เคยผ่าน ๆ ไม่รู้รายละเอียดลึกซึ้งมากนัก
๓๐ พ.ย.๔๙ ช่วงบ่ายก็เดินทางไปยังสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ในตั๋วระบุรถนอนคันที่ ๓ ขึ้นไปบนรถก่อนเวลาออกประมาณครึ่งชั่วโมง ชักสงสัยทำไมไม่เห็นมีผู้โดยสารอื่นเลย ในรถก็ไม่เปิดเครื่องปรับอากาศเลยแค่เดินผ่านไปเหงื่อแตกเลย หรือว่าเราผิดเองกลับลงมาใหม่ เพื่อดูข้างรถให้แน่ใจแต่ก็ใช่ สังเกตเห็นเท้าพนักงานวิ่งไปวิ่งมาจากใต้ท้องรถ และได้ยินเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์แต่ไม่ติด และได้ยินผู้โดยหลายคนบอกว่า แอร์เสีย แอร์เสีย แล้วก็ส่ายหน้า จนในที่สุดรถก็เคลื่อนขบวนออกจากสถานี แต่แอร์ยังไม่เย็นก็ใช้พัดลมกันไปพลาง ๆ พนักงานบอกว่าให้เราไปนั่งตู้ใกล้ ๆ ก่อนเดี๋ยวกำลังแก้ปัญหาอยู่
ผมเริ่มคิดแล้วนะครับ เพราะเดินทางคนเดียวจึงคิดไป เอ้.... เราไปงานที่ตั้งใจแต่เริ่มต้นเป็นอย่างนี้แล้วข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเนี่ย แต่ในที่สุดเมื่อผ่านไปชั่วโมงเศษ ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทางค่อยสบายใจขึ้น ถึงหัวลำโพงจับแท็กซี่บอกไปโรงแรม "เอวาน่า" ซอย ๔ ถนนบางนา-ตราด ตามที่ สคส.จัดไว้ ทำให้ตื่นเต้นอีกแล้วเมื่อคนขับถาม มันอยู่ด้านซ้ายหรือขวาครับ เพราะผมไม่ค่อยได้มาแถวนี้ ผมบอกว่าบอกตามตรงเลยนะครับผมไม่ทราบรายละเอียดเรื่องเส้นทางเลย ผมขอพึ่งพาแล้วกัน งั้นขึ้นทางด่วนนะครับ ผมบอกยังไงก็ได้ไม่เป็นไร เขาบอกว่าตึกใหญ่จะเห็นแต่ไกล และก็จริงครับสักพักก็เห็นตึกใหญ่ภาษาอังกฤษ "AVANA" ใหญ่โตเลยครับ เลยคุยกันไปเรื่อย ๆ เหมือนรู้จักกันมานานเพราะเปิดใจคุยกัน แต่ก็ต้องตื่นเต้นอีกครั้งแล้วเมื่อ เริ่มเข้าใกล้ตึกอื่น ๆ ตึก AVANA นั้นหายไป และไปกลับรถเข้าซอยไกลมาก เมื่อมาถึงตรงปากซอย ๔ เขาบอกว่าที่จริงผมควรจะเลี้ยวตรงนี่เมื่อกี้ แต่ผมไม่ทันเห็นเลยไปซะไกลเกรงใจพี่จัง ผมบอกว่าไม่เป็นไรหรอกรถก็เยอะไม่ว่ากัน
จนในที่สุดรถก็จอดหน้าโรงแรม ผมจ่ายเงินตามมิเตอร์ บวกด้วยค่าทางด่วนให้เขาไป แต่เขาบอกว่า "พี่ครับผมลดค่าทางด่วนให้ เพราะผมพาพี่ไปผิดเอง" ผมบอกว่าไม่ต้องคืนหรอกเดี๋ยวน้องขาดทุน เขาบอก"ไม่ขาดครับพี่เอาไปเถอะนะครับ" เขายื่นออกมานอกรถพยามให้ผมรับให้ได้ ผมขอบคุณเขาและอวยพรให้เขาโชคดี ผมเห็นรอยยิ้มและแววตาเขามีความสุข เป็นแววตาของคนที่มีน้ำใจมีคุณธรรมมีความรับผิดชอบ เพราะเราเริ่มต้นที่การพูดคุยที่จริงใจ ต่างคนต่างไม่ปิดบังเพราะผมก็บอกเขาว่าผมไม่ผิดบังนะผมไปไม่ถูก เขาก็กล้าบอกว่าเขาหลงทางและกล้ารับผิดชอบ
เช้าวันที่ ๑ ธ.ค. ๔๙ ได้รับและสัมผัสสิ่งดี ๆ ผมเองรู้สึกถึงความสุขที่ได้รับ นี่แหละน่าจะใช่ที่พระท่านบอกว่า การให้มีความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ คงจะมีอะไรที่ดี ๆ ให้ผมอีกในวันนี้ในงานมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติที่ผมอยากมาร่วมและรอคอย
ลืมชมครับว่ารูปใหม่หล่อกว่าเดิมครับ (ภาพที่ผมถ่ายให้ใชไหมครับ)
ต้องเป็นเพราะความจริงใจ และความเป็นมิตรที่สื่อออกไปแน่นอนเลยค่ะ ที่ทำให้ได้พบสิ่งดีๆย้อนกลับมา
รูปใหม่เหมือนตัวจริงมากกว่ารูปเก่าเยอะจริงๆค่ะ คุณยุทธถ่ายได้เก่งจัง (มีรูปเราในกล้องคุณยุทธที่สวยๆบ้างไหมนะ...รำพึงดังๆเผื่อได้ยิน :-))
ดีใจมากที่ได้พบตัวเป็นๆคุณชาญวิทย์ค่ะ ศรัทธาและชื่นชมความตั้งใจจริงในการทำงานมานานพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นฝาแฝดกับครูนงในใจโอ๋-อโณเลยค่ะ
เรียน อ.Thawat
คุณน้อง สิงห์ป่าสัก
คุณเล็ก ศุภลักษณ์
คุณโอ๋-อโณ
เรียน พี่นันทา ครับ
เรียน อ.ขจิต
เรียน ท่าน ผอ.ธุวนันท์