ครอบครัว GotoKnow.org ที่อบอุ่น


กลัวตัวเองหลงทางครับ เพราะถ้าหลงทางไปไกลหรือลึกมาก ๆ ผมคงเสียเวลา ที่จะต้องกลับมาเริ่มต้น

            ตั้งแต่ผมเป็นสมาชิกครอบครัว GotoKnow.org  เมื่อ 7 พ.ค.49ได้รับความอบอุ่น จากท่านสมาชิกอาวุโส และรุ่นพี่ให้กำลังใจทักทายพูดคุยและให้ข้อมูล 
            ซึ่งตอนแรกที่เริ่มเขียนบันทึกก็ไม่คาดคิดนะครับว่าจะมีสมาชิกท่านอื่นเข้ามาทักทาย  เมื่อมีหลายท่านเข้ามาก็รู้สึกตื่นเต้นนะครับ  นึกถึงตอนออกอากาศ "วิทยุสมัครเล่นครั้งแรกมือที่จับไมค์พูดสั่นเลยครับ" ผมมีเป้าหมายตั้งไว้ว่า  ให้ตัวเองได้เรียนรู้และเข้าใจ  KM ให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้  เพื่อที่จะสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
             บันทึกของผมที่เขียน  มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านสมาชิก  ได้ช่วยแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยน  ถ้าหากผมจะถามใครสักท่านหนึ่งว่า ผมนั้นเข้าใจถูกหรือยัง  อาจไม่มีใครมาตอบคำถามก็ได้  เพราะบอกกันแล้วว่า  KM ไม่มีถูกผิด ทำมากยิ่งรู้มาก  ก็คือให้งานสอนเราเองเหมือนกับพ่อแม่เคยสอนเอาไว้ว่า  "ทำไปเถอะงานสอน...เองแหละ"        
             ผมจึงหาโอกาสทดลองทำเพื่อเรียนรู้ในงานที่ผมทำอยู่   หรือนำเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผมพบเห็นแล้วนำเข้ามาสร้าง"จินตภาพ"ในกระบวนการ KM   โดยท่านสมาชิกที่เข้ามาเยี่ยมหากมองผิวเผินในบันทึกที่ผมเขียน  อาจมองเหมือนกับผมเขียนบันทึกแบบตัวเองรู้   แต่แท้จริงเขียนเพื่อตั้งคำถามเป็นนัย ๆ ว่าถ้าผมเข้าใจขนาดนี้ใช่หรือไม่ใช่
             ที่ผมกลัวในการทำความเข้าใจ KM ก็คือ กลัวตัวเองหลงทางครับ เพราะถ้าหลงทางไปไกลหรือลึกมาก ๆ ผมคงเสียเวลา ที่จะต้องกลับมาเริ่มต้นเดินทางใหม่

             มาถึงวันนี้  ผมได้รับความกรุณาจากท่านผู้อาวุโส  คือท่าน
อ.วิจารณ์  พานิช  ท่านได้เข้ามาเยี่ยมในบันทึกล่าสุดของผม  และท่านบันทึกฝากไว้ว่า "ผมชอบบันทึกนี้มากครับ"  และท่าน อ.จันทวรรณ  น้อยวัน  ก็ได้เคย บันทึกไว้ให้ก่อนหน้านี้  ว่า "นี่ละค่ะ KM ของแท้ ไม่ลองไม่รู้ใช้ไหมค่ะ" และคุณสิงห์ป่าสัก ก็เขามาทักทายกันบ่อย ๆ  เคยบันทึกไว้ว่า  " ยิ่งทำยิ่งเห็นนะครับ" ครูนงเมืองคอน  "KM คงเนียนอยู่ในใจคุณชาญวิทย์" คุณ ชายขอบ "ผมเจอคนคอเดียวกัน " และอีกหลาย ๆ ท่านที่ผมไม่ได้กล่าวถึง ก็ได้กรุณาให้กำลังใจไว้ ขอขอบคุณไว้ตรงนี้นะครับ
             จากบันทึกเหล่านี้ผมไม่ได้สรุปเอาว่าผมเข้าใจถูกแล้ว  แต่ก็พอจะทราบว่าเส้นทางที่ผมเดินเข้ามา  คงจะใช่แล้วมั้ง(แค่ถูกเส้นทางแค่นั้นนะครับ) ไม่ได้หมายความว่าผมรู้อะไรที่ลึกซึ้งมากไปกว่านี้นะครับ
              ดึกของคืน 14 พ.ค.49   ได้เข้าไปอ่านบันทึกของ พี่หม่า ธุวนันท์  พานิชโยทัย  และคุณสำราญ สารบรรณ์  กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ ลปรร. คำแนะนำของท่าน อ.ประพนธ์ ผาสุขยืด  ในการประชุม KM ของกรมส่งเสริมการเกษตร  ได้เรียนรู้เพิ่มเติมในเชิงลึกมากขึ้นเลยครับ
               ฉะนั้น KM เป็นกระบวนการที่ลึกซึ้ง  ซึ่งถ้าไม่พยายามตั้งสมาธิเข้าใจหรือทดลองทำ คงจะลึกซึ้งได้ยาก   ต้องมีใจนำอย่างมีสมาธิ  ทดลองทำ  แล้วตามการบันทึก  ตามที่พี่เม่ยได้มาบันทึกฝากไว้
ให้ผม  และผมได้นึกถึงบันทึกของ อ.ประพนธ์  ผาสุขยืด  ในเรื่อง KM กับ อริยสัจสี่   ซึ่งท่านได้เปรียบเทียบความเหมือนเอาไว้อ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย  
                และผมก็ได้เรียนรู้ความแตกต่างของกระบวนการ"การจัดทำแผนแม่บทชุมชน"   ที่เคยทำมา  กับ  "การจัดการความรู้" ว่าอยู่ตรงจุดไหน ที่แตกต่างของกระบวนการ
                ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อน ๆ หลายท่านเพื่อให้อธิบาย  และขอทราบวิธีการกระบวนการ  ซึ่งผมก็ลำบากใจที่จะตอบเพราะตัวเองก็เพิ่งเริ่มเรียนรู้และทดลองหาประสบการณ์อยู่
ก็แนะนำให้เข้ามามาหาความรู้ใน GotoKnow  ครับ

คำสำคัญ (Tags): #เรารักในหลวง
หมายเลขบันทึก: 39012เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2006 17:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
"ผมมีเป้าหมายตั้งไว้ว่า  ให้ตัวเองได้เรียนรู้และเข้าใจ  KM ให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้"
  • พี่เม่ยว่า คุณชาญวิทย์ ทำได้เกินเป้าแน่นอน เพราะดูเหมือนว่านอกจากกำลังพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจกับ KM (ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว).....
  • คุณชาญวิทย์กำลังประยุกต์กระบวนการจัดการความรู้เข้ามาใช้ในการวางแผน พัฒนา และดำเนินงานที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ได้อย่างเนี๊ยน เนียน ด้วยค่ะ (นี่แหล่ะค่ะที่เกินเป้า)
  • ถูกใจบันทึกนี้จังค่ะ

     คุณชาญวิทย์ มีอะไร ๆ มากมายครับ ผมได้รับประโยชน์มากจากบันทึกแต่ละบันทึกของคุณ(พี่)

  • ผมมีความคิดเห็นเช่นเดียวกันกับพี่เม่ยและคุณชายขอบครับ
  • พี่ชาญวิทย์ไม่ต้องกลัวว่าจะหลงทางครับ ตราบใดที่เรายังทำงานตามบทบาทหน้าที่ของเราอยู่อย่างปกติ 
  • คนที่หลงทางก็เพราะใช้ KM เป็นเป้าหมาย(หรือKPI) ว่าได้ทำแล้ว  ทั้งๆที่KMไม่ใช่ตัวเป้าหมาย แต่เป็นเครื่องมือสนับสนุนการทำงานของเราต่างหาก
  • ผมเคยเขียนบทความชื่อ"กว่าจะมาเป็น การจัดการความรู้"เคยลงวารสารของกรมส่งเสริมการเกษตร มา ลปรร.กับพี่ชาญวิทย์ครับ

ขอบคุณ พี่เม่ย คุณชายขอบ และคุณสิงห์ป่าสัก
มาก ๆ ครับ ที่กรุณาสะท้อนให้ทราบ  บทความที่ลิ้งไว้ได้อ่านมาก่อนหน้าที้แล้วนะครับ และก็กลับไปอ่านอีกเมื่อกรุณาทำลิ้งมาให้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท