ทพญ ฉลอง เอื้องสุวรรณ
ทพญ. ฉลอง ทพญ ฉลอง เอื้องสุวรรณ เอื้องสุวรรณ

ทหารเสือพระเจ้าตาก มุมมองทางจิตวิญญาณที่น่าสนใจ


พระยาพิชัยตัดสินใจที่จะเป็น “ทหารเสือพระเจ้าตาก” แต่เพียงพระองค์เดียว จึงทิ้งลูกและภรรยาเดินออกจากเมืองพิชัยด้วยใจเด็ดเดี่ยว และหายไปจากเมืองพิชัยตั้งแต่วันนั้น


                         วันนี้นั่งดูหนังเรื่องทหารเสือพระเจ้าตาก กับลูก ๆ   รู้สึกประทับใจ นายจ้อย (ทองดี, พระยาพิชัยอาสา, พระยาพิชัยดาบหัก) มาก
                    ตั้งแต่วัยหนุ่ม  จ้อยแสวงหาความรู้เรื่องหมัดมวยจากอาจารย์เมฆ และอาจารย์เที่ยง   สมัยเรียนมวยไทยจากอาจารย์ทั้งสอง  ทองดีเป็นเด็กดี  ตั้งใจเรียน  อดทน  อดกลั้น  เป็นศิษย์รักของอาจารย์ จนทำให้ลูกศิษย์คนเก่าอิจฉา  พาลหาเรื่อง  รุมชกต่อย  ทองดีไม่กล้าอยู่ต่อแม้ว่าจะสามารถต่อสู้กับคนเหล่านี้ได้ก็ตาม   ที่ประทับใจช่วงนี้ คือ ทองดีมีความอดกลั้นต่อการด่าว่าของเพื่อนร่วมเรียน   เลยถามลูกชายวัยรุ่นว่า ถ้าลูกโดนเพื่อนด่าแบบนี้จะทนได้ไหม… เขาบอกว่าทนได้ การอดทนอดกลั้นสามารถช่วยควบคุมอารมณ์ที่ดีมาก   การอดทนต่อคำพูดของคนอื่นที่พูดให้เราเจ็บใจ จึงเป็นการเติบโตทางจิตวิญญาณอย่างใหญ่หลวง   หากเราทนได้ก็ถือว่าเยี่ยมมาก   ที่เยี่ยมมากกว่านั้น คือ การฟังคำด่าอย่างตั้งใจ อย่างลึกซึ้ง และนำไปใคร่ครวญดูว่าที่เขาพูดมานั้นจริงหรือเปล่า  หากจริงก็ต้องขอบคุณเขามาก ๆ เรียกได้ว่า “ศัตรูคือมิตรที่ดีที่สุด”   และหลังจากนั้นก็นำไปปรับปรุงแก้ไขตัวเอราให้พัฒนามากขึ้น
                   หากคนด่าว่าเราแล้วเราโกรธตอบ ก็ถือว่า “เป็นความฉลาดทางอารมณ์ที่ด้อยของเรา เพราะเขาพูดชั่ววินาทีเดียว แต่เรานำไปคิดกังวลอยู่นานนับวัน นับเดือน นับปี  บางคนก็เปลี่ยนแปลงเป็นความโกรธ เกลียด เคียดแค้น พยาบาท  ก็ยิ่งเข้าไปอีก   เป็นอารมณ์ลบ  ทำให้เราเกิดความทุกข์  ซึ่งผู้ด่าลืมไปหมดแล้ว  ไปนั่งสุขสบายตั้งนานแล้ว  แต่เรายังทุกข์ใจอยู่นานแสนนาน  น่าจะโง่มากกว่าที่ไปโกรธตอบเขา
                     ทองดีเป็นเด็กใฝ่รู้ “แค่เดินผ่านเขาฝึกซ้อมมวยจีน” ก็หยุดดูและนำมาฝึกฝน ผสมผสานกับมวยไทย จนสามารถนำไปใช้ต่อสู้ได้ชัยชนะ  เป็นที่โปรดปรานของพระยาวิเชียรปราการ (พระเจ้าตากสิน) และตั้งนามให้ว่า หลวงพิชัยอาสา  ตั้งแต่นั้นมาหลวงพิชัยอาสาก็เป็นทหารเสือของพระเจ้าตากสินต่อสู้กับพม่าจนดาบหัก คนไม่เป็นอะไร  พระเจ้าตากสินประทับใจในความเก่งกล้าสามารถของหลวงพิชัยอาสา  จึงตั้งให้ฉายาให้ว่า “พระยาพิชัยดาบหัก”  หลังจากกอบกู้เอกราชได้ พระเจ้าตากมอบหมายให้พระยาพิชัยดาบหักไปเป็นเจ้าเมือง “พิชัย”
                 ความงามของพระเจ้าตากสิน ที่น่าประทับใจอีกอย่าง คือ ความเสียสละ  และความรักเพื่อนทหารของพระองค์   พระองค์เสียสละแม้กระทั่งคนรักให้กับหลวงพิชัยอาสา โดยกล่าวว่า หญิงรึจะสู้ทหารกล้า  นับเป็นผู้นำที่มีจิตใจเมตตา  เสียสละ  ที่เห็นทหารกล้ามีความสำคัญมากกว่าคนรักของพระองค์  ทรงมีน้ำพระทัยใหญ่หลวงที่เห็นความสุขของทหารกล้ามีค่ายิ่งกว่าคนรัก
                ความงามของพระยาพิชัยดาบหักอีกอย่าง คือ “ความกตัญญูกตเวที” หลังจากพระองค์ได้เป็นเจ้าเมืองพิชัยแล้ว ก็กลับไปหาครูมวยทั้งสองท่าน คือ ครูเที่ยงและครูเมฆ  ได้แต่งตั้งครูเมฆเป็นกำนันและครูเที่ยงเป็นผู้ใหญ่บ้าน  ประพฤติปฏิบัติตนต่ออาจารย์เยี่ยงศิษย์ที่ดี  แม้ว่าจะเป็นเจ้าเมืองแล้วก็ตาม 

                    นอกจากนี้ ยังเห็นบุญคุณของ “บุญเกิด” ผู้ติดตามมาตั้งแต่เรียนหมัดมวย  แม้บุญเกิดไม่เคยสนใจจะเรียนก็ตาม  แต่ก็ติดตามรับใช้มาตลอด  จึงทรงแต่งตั้งให้บุญเกิดเป็น “หมื่นหาญณรงค์” เป็นทหารในเมืองพิชัย
                 สำหรับความงามของหมื่นหาญณรงค์ คือ “ความจงรักภักดีต่อเจ้านาย และเลือดรักชาติ กล้าหาญมาก”  แม้ไม่มีความสามารถเพียงพอก็ตาม   ครั้งหนึ่งทหารพม่ายกมาจากกรุงอังวะมาตีเมืองพิชัย  พระยาพิชัยบอกให้หมื่นหาญณรงค์ช่วยนำลูก เมีย ของท่าน หนีไป เพราะคิดว่าคงสู่พม่าไม่ได้  แต่ หมื่นหาญณรงค์ บอกว่า เขาจะร่วมต่อสู้กับพระยาพิชัย   จนพระยาพิชัยแปลกใจว่าตลอดเวลาที่สู้รบมา “บุญเกิด” ไม่เคยกล้าหาญที่จะสู้รบ แต่มาครั้งนี้ทำไมต้องอาสาด้วย  “บุญเกิดตอบว่า ตอนนี้เขาคือ หมื่นหาญณรงค์ เป็นทหารที่ต้องกล้าหาญ ต่อสู้เพื่อชาติ ต้องเสียสละเพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้”   ในที่สุดก็เป็นเรื่องเศร้าว่า “หมื่นหาญณรงค์ตายในสนามรบ”     พระยาพิชัยเสียใจว่า หากไม่แต่งตั้งให้เป็นหมื่นหาญณรงค์ บุญเกิดก็ไม่น่าจะตายเร็วเช่นนี้
                สุดท้ายที่ประทับใจในความงามของพระยาพิชัยดาบหัก  คือ “ความจงรักภักดีต่อพระเจ้าตากสิน” หลังจากทราบข่าวว่าพระเจ้าตากสินสิ้นพระชนม์  พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นเมืองหลวงใหม่ของไทย  เจ้าเมืองหัวเมืองต่าง ๆ จะต้องเข้าไปถือน้ำพิพัฒนสัตยาต่อพระมหากษัตริย์   พระยาพิชัยตัดสินใจที่จะเป็น “ทหารเสือพระเจ้าตาก” แต่เพียงพระองค์เดียว  จึงทิ้งลูกและภรรยาเดินออกจากเมืองพิชัยด้วยใจเด็ดเดี่ยว และหายไปจากเมืองพิชัยตั้งแต่วันนั้น   ซึ่งน่าเสียดายทหารกล้าคนนี้มาก แต่ด้วยความจงรักภักดีต่อพระเจ้าตากสิน ที่ได้ถือน้ำพิพัฒน์สัตยาร่วมกันมาแล้ว  จึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือแปรพักตร์ไปเป็นทหารเสือของผู้ใดได้อีกในชาตินี้  น่าชื่นชมความงามของบุคคลสำคัญของชาติไทยที่ช่วยกอบกู้อิสรภาพให้ชาติไทยเป็นเอกราชอยู่ได้จวบจนทุกวันนี้

หมายเลขบันทึก: 110814เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2007 12:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
แหม...รับอาชีพใหม่เป็นนักวิเคราะห์วิจารณ์หนังได้เลยค่ะ ยอดเยี่ยมมาก คุณหมอหลอง
  • เข้ามาอ้าน
  • ประทับใจมาก
  • อยากอ่านที่คุณหมอเขียนอีกจัง
  • ณ วันนี้ 29 ธันวาคม  2550  จึงขออวยพรปีใหม่ 2551 คุณหมอตาม ส.ค.ส. 2551 แด่ชาว G2K ครับผม
น.ส ศรัญญา สังข์ด้วง

สวัสดีค่ะคุณหมอ

น้าของหนูสนใจในหนังเรื่องนี้

แต่หาดูไม่ได้ค่ะถ้าคุณหมอมีแล้วอยาก

ขายต่อหรือมีหน้าเวปของหนัง

ของให้คุณหมอติดต่อกลับ 086-6314484

หรือ [email protected]

ได้ไหมค่ะ เรื่องของเริ่องมีอยู่ว่า

น้าของหนูไปหาหมอดูแลวเขาบอกว่า

น้ามีองค์พระเจ้าตากตามตัวและคอย

ช่วยเหลือเขาอยู่จึงอยากรู้พระประวัติ

ของพระองค์น้าเขาให้หนูหาทางเน๊ตดู

หนูมาเจอหน้าเวปของคุณหมอ

จึงอยากของความช่วยเหลือ

ขอบคุณมากค่ะที่อ่านข้อความ

คนไม่เชื่อประวิติศาสตร์

** คุณหมอกล่าวถึงคุณสมบัติของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระยาพิชัยรณรงค์สงคราม(ดาบหัก) ไม่เคยมีใครเรียกบรรดาศักดิ์เต็ม ๆ แบบนี้ มีความหมายว่าออกทำศึกทุกครั้งได้รับชัยชนะ มีการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์นี้ในสมัย ร.3 ใช้เรียกเจ้าเมืองสระบุรี ในสมัย ร.1 และ ร.2 ไม่มีการแต่งตั้งให้ใครได้รับบรรดาศักดิ์นี้ และหมื่นหาญณรงค์ ไว้ค่อนข้างจะสมบูรณ์ แต่ขาดไปหนึ่งอย่างสำหรับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระองค์ท่านเห็นความสุขของอาณาประชาราษฎร์เป็นสำคัญมากกว่ารักพระชนม์ชีพของพระองค์ และครอบครัวของพระองค์ท่าน ผมไม่เชื่อในหนังในละครเพราะมีการปรุงแต่งให้ได้อรรถรถ (ผมคงเขียนเองและนึกขึ้นมาเอง)

** ผมไม่เชื่อประวัติศาตร์ที่คนเขียนว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระองค์ท่านเสียพระสติ ผมไม่เชื่อประวัติพระยาพิชัยว่าเป็นเจ้าเมืองพิชัย และก็ไม่เชื่อว่าพระยาพิชัยเสียชีวิตโดนประหารในวันที่ 7 เม.ย. 2325 และก็ไม่เชื่อตามที่คุณหมอเขียนว่าพระยาพิชัยเดินออกจากเมืองพิชัยด้วยความเด็ดเดี่ยวและหายไปจากเมืองพิชัยตั้งแต่วันนั้น ยังมีสิ่งที่ผมไม่เชื่ออีกมากมาย เพียงแต่ผมไม่มีหลักฐานว่าเรื่องที่ผมไม่เชื่อนั้นเรื่องจริงเป็นเช่นไร สิ่งที่ผมเชื่ออาจจะถูกหรือผิดก็ได้ หากคุณหมอเชื่อประวัติศาตร์ ที่คนเขียนให้อ่านให้ศึกษาก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะมีหลักฐานยืนยันได้ อย่างเช่น สมัยที่ผมเรียนเขาบอกว่า 1 ในสาเหตุที่ต้องย้ายกรุงเพราะกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน เป็นเมืองอกแตกเหมือนเมืองพิษณุโลก พอย้ายมาฝั่งพระนคร ไม่รู้ใครเอาแม่น้ำเจ้าพระยาไปไว้ที่ไหน กรุงเทพมหานคร จึงไม่ใช่เมืองอกแตกเหมือนกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร บังเอิญผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อใครง่าย ๆ จึงคิดไปเรื่อยเปื่อย

** หลายคนบอกเคารพเทิดทูนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แต่จะเรียกพระองค์ท่านว่าพระยาตาก (บรรดาศักดิ์สมัยอยุธยา) หรือไม่ก็เรียกพระเจ้าตาก ผมไม่ค่อยเคารพเทิดทูนแต่ผมจะกล่าวถึงพระนามของพระองค์ท่านว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยเฉพาะการแสดงข้อความต่อที่สาธารณะจึงต้องระมัดระวังการกล่าวถึงพระนามของพระองค์ท่าน เพราะพระองค์ท่านเป็นมหาราชในหัวใจผมมาตั้งนานแล้ว กระผมไม่วิจารณ์การแสดงข้อความของใคร ๆ ว่าถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง อยู่ที่วิจารณ์ญาณของแต่ละคน ยังมีอีกคำหนึ่งสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี กรุงธนบุรีมีพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียว การเรียกพระนามนี้ผมไม่นิยมเพราะไม่มีคำว่ามหาราช คำว่ามหาราชมีความหมายอย่างไร คงต้องใช้วิจารณญาณอีกเช่นกัน

**ผมระลึกเสมอว่าหากไม่มีพระองค์ท่านคงไม่มีแผ่นดินให้คนมาแย่งกันเป็นใหญ่ แบ่งพรรค แบ่งพวก สร้างสิ่งที่ไม่สมควรให้กับบ้านเมืองนี้มากมาย มาเล่าความในใจให้ฟังครับ ไม่ได้มาลบหลู่หรือต่อว่านะครับ ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้แสดงความเห็น

ผมอ่านแล้วรู้สึกอยากจะดูหนังมากเลยคับ

โดยส่วนตัวชอบพระยาพิชัยอยู่แล้วคับ

ช่วยลง youtube ให้หน่อยได้ไหมคับ

ผมหาซื้อหนังไม่ได้แล้วคับ

สวัสดี ครับ คุณหมอ ต้อง ขอโทษ นะ ครับ ผม ขอ แสดง ความ คิด เห็น ส่วน ตัว หน่อย นะ ครับ ผม

เรื่อง พระเจ้าตากสิน นะ ครับ ผม ไม่ เชื่อ ว่า พระ องค์ จะ หนี ไป บวช ที่ ใต้ นะ ครับ และะพระองค์ไม่ได้สติวิปราส แต่เพื่อน!! ต่างหากที่หักหลังอยากเป็นใหญ่ คงไม่ต้องบอกว่าเป็นใคร สถานที่ที่พระองค์สวรรคตคือ ที่คือ ป้อมวิชัยประสิทธิ์ พร้อมกับทหารผู้จงรักดีพรรค ดี ของพระองค์ 157 นาย ครับ หนึ่งในนั้นมี พระยาพิชัยดาบหัก ด้วย นะครับ พระเจ้าตากสินจึงว่าแก่ผู้คุมเพชฌฆาตว่า ตัวเราก็สิ้นบุญจะถึงที่ตายอยู่แล้ว ช่วยพาเราไปแวะเข้าไปหาท่านผู้สำเร็จราชการ จะขอเจรจาด้วยสักสองสามคำ ผู้คุมก็ให้หามเข้ามา ได้ทอดพระเนตรเห็น จึงโบกพระหัตถ์มิให้นำมาเฝ้า

มิให้เข้าพบ ผู้คุมเพชฌฆาต จึง นำ พระองค์ ไป ประหาร สิ้นใจทั้งๆ ที่ผนวช คนที่เป็นเพื่อนคนนั้น ฆ่าล้างโคตรของพระเจ้าตากจนสิ้น และสร้างประวัติศาสตร์ที่ผิดเพี้ยน ให้เราต้องเรียนและครัวจดจำ สมพระเจ้าตากสิน ทรงสวรรคตเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ สิริพระชนมายุได้ ๔๘ พรรษาทรงครองราชย์เป็นเวลา ๑๕ ปี พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถกอบกู้ประเทศชาติให้เป็นเอกราชอิสรภาพตราบเท่าทุกวันนี้ประชาราษฎร์ผู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงยกย่องถวายพระเกียรติพระองค์ท่านว่ามหาราช ที่ ทุก วัน ที่ เรา ได้ อยู่ กัน ทุก วัน นี้ ก็ คืน ความ เสียสะละ ของพระองค์ ละ ทหารเสือ ของพระองค์ นะ ครับ ผม เชื่อ ว่า ความ จริง เป็น สิ่ง ไม่ ตาย นะ ครับ ผม

ส่วน พระยาพิชัยดาบหัก ครับ

วาระสุดท้าย

เมื่อเสนาฯถึงวังก็ยั้งม้า

นำพระยาพิชัยไปเข้าเฝ้า

พญาเสือยิ่งกร่างยิ่งย่างเบา

แต่ทุกเท้าท่วงท่าสง่างาม

พระพุทธยอดฟ้าฯมหากษัตริย์

จึงได้ตรัสเกริ่นนำเป็นคำถาม

“ท่านเคยอยู่ใกล้ชิดคอยติดตาม

ร่วมสงครามพระเจ้าตากมามากมาย

ถึงแม้ว่าองค์ท่านสวรรคต

เรายังจดจำเห็นเป็นสหาย

เคยร่วมท้าฝ่าฟันอันตราย

เห็นความตายทุกวันไม่พรั่นพรึง

เราและท่านต่างเหมือนเมื่อเคลื่อนทัพ

หวังไทยกลับคืนพลังอีกครั้งหนึ่ง

จะอดอยากปากแห้งหมดแรงตรึง

ไปให้ถึงฝั่งจงปักธงไทย

เราสิ้นท่านตากสินก็สิ้นเพื่อน

จะกี่เดือนกี่ปีกี่สมัย

เคยโอบเอื้ออาทรเมื่ออ่อนวัย

เราเสียใจอย่างหนักใครจักรู้

ท่านพระยาพิชัยผู้ใจเด็ด

จะสำเร็จถ้ารวมกันร่วมสู้

เพื่อดินไทยไตรรัตน์ไร้ศัตรู

ท่านจงอยู่ช่วยงานเพื่อบ้านเมือง”

ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้า

ข้าพระพุทธเจ้าใช่ปราชญ์ที่ปราดเปรื่อง

รู้แต่รบแต่วังมลังเรือง

หารู้เรื่องในส่วนที่ควรการ

ข้าพระองค์หากมีความดีก็

จะทูลขอมหาราชชาติทหาร

รับบุตรที่ข้าฯหวงดั่งดวงมาน

เพื่อช่วยงานองค์ท่านตามบัญชา

ข้าฯรับใช้ใต้เท้าพระเจ้าตาก

แม้ทรงจากสู่สรวง ณ ห้วงฟ้า

ขอตามไปรับใช้ใต้บาทา

มิเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย..”

พระพุทธยอดฟ้าฯมหาราช

มิทรงอาจยั้งหยุดหรือฉุดท้าย

จำประหารสีหราชแห่งชาติชาย

ที่เหล่าร้ายอริราชนั้นหวาดกลัว

จึงตรัสด้วยสุรเสียงเยี่ยงกษัตริย์

ให้เร่งนำไปมัดแล้วตัดหัว

ทรงปิดเรื่องราวลับไว้กับตัว

ตราบจนชั่ววาระแห่งพระองค์

๒๙๑.คือเรื่องพระเจ้าตากที่ภาคใต้

ผู้ครองไตรสมถะเป็นพระสงฆ์

ทรงดูแลลูกท่านอย่างมั่นคง

แต่จำลงดาบฆ่าพระยาพิชัย

...............................................

ลานประหารลานร่มแต่ลมขาด

เพชฌฆาตนั่งก้มประนมไหว้

“อโหสิฯนะพ่อขออภัย

โปรดอย่าได้จับจ้องคิดจองเวร”

นักรบนั่งทอดร่างอย่างสงัด

ผูกหลักมัดตาไว้มองไม่เห็น

หากแต่ใจชาติสิงห์กลับนิ่งเย็น

แหละจะเป็นเช่นนั้นนิรันดร

ธรณีที่ข้าอุตส่าห์ปก

มิสะทกความตายแหละทรายร้อน

จงโอบรับกายาเมื่อข้านอน

รับตะกอนเถ้ากระดูกของลูกชาย

ดาบข้าเหน็บเก็บไว้อยู่ในฝัก

จะไม่ชักออกมาทั้งขวาซ้าย

เล่มที่ข้าแสนรักนั้นหักปลาย

แทนความหมายที่มีในชีวิต

ข้าเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินเมื่อเดินทัพ

ข้าขอหลับพำนักดินศักดิ์สิทธิ์

กลางสายลมร่มพืชที่มืดมิด

ภารกิจแผ่นดินนั้นสิ้นแล้ว

โน่นหิ่งห้อยด้อยแรงและแสงส่อง

เจ้าลอยล่องสู่สรวงหรือดวงแก้ว

ราชันย์ท่านอยู่หาวหรือดาวแวว

ช่วยชี้แนวนำพาส่งข้าไป……

..............................................

เพชฌฆาตวาดรำแล้วทำท่า

ควงดาบพร้ารอนรอนดูอ่อนไหว

แล้วลงดาบฉับพลันในทันใด

ลมหายใจจอมทัพจึงดับลง

สายลมเพิ่งพัดพรายใบไม้ร่วง

ค่อยค่อยควงร่างหมุนกลางฝุ่นผง

ห่อผ้าเก่าเปิดคว้างลงกลางวง

เห็นกลีบทรงผุพัง..กระดังงา….

..............................................

จ้อย..จำคำพ่อไปไว้ใช้เถิด

เมื่อเราเกิดเป็นชาย..แม้ภายหน้า

ต้องรู้คุณบิดาและมารดา

รู้รักษาท้องถิ่นแผ่นดินไทย” ผม ไม่ เชื่อ ว่า พระยาพิชัย จะ หนี เข้า ป่า ไป แน่น นอน นะ ครับ ผม 5555 อิ อิ

ขอแสดง ความ คิด เห็น อีก เรื่อง หนึ่ง นะ ครับ ผม เรื่อง ของ หมื่นหาญณรงค์ บุญเกิด ว่า บุญเกิดไม่เคยสนใจจะเรียน เรื่อง เรียนหมัดมวย หากไม่แต่งตั้งให้เป็นหมื่นหาญณรงค์ บุญเกิดก็ไม่น่าจะตายเร็วเช่นนี้ 5555 ฟัง แล้ว ตลก ครับ พระยาพิชัยดาบหัก คง ไม่ เอา คน รับใช้ ไป รบ หล่อ นะ ครับ 5555 หาก หมื่นหาญณรงค์ บุญเกิด ไม่ มี ฝี มือ คง ไม่ ได้ เป็น ทหารเสือพระเจ้าตาก หล่อ นะ ครับ ผม ในวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2309 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 4 ค่ำ เดือนยี่ จุลศักราช 1128 ปีจอ อัฐศก พระยาตากเห็นว่ากรุงศรีอยุธยา คงต้องเสียทีแก่พม่า จึงตัดสินใจร่วมกับ หลวงพิชัยอาสา พระเชียงเงิน หลวงพรหมเสนา ขุนหลวงอาสาศึก ขุนพิพิธวาที หมื่นหาญณรงค์ บุญเกิด พร้อมด้วยทหารกล้าราว 500 คนจงร่วมใจกันให้เป็น1เดียวกัน ถึงแม้จะมีปืนเพียงกระบอกเดียว แต่ชำนาญด้านอาวุธสั้นยกกำลังออกจากค่ายวัดพิชัย และตีฝ่าวงล้อมทหารพม่าไปทางทิศตะวันออก มุ่งตรงไปยังบ้านโพธิ์สังหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่รวบรวมไพร่พลที่เหลือจากการเสียกรุง ศรีอยุธยา และกอบกู้เอกราชจนตั้งราชธานี หาก หมื่นหาญณรงค์ บุญเกิด ไม่ มี อะไร ตาม ที่ คุณ หมด ว่า ก็ คง ต้อง ตาย ใน ตอน นี้ นะ ครับ เหุต การ ที่ ทำให้ หมื่นหาญณรงค์ บุญเกิด ออก ไป รบ กับพม่า โปสุพลาก็ยกกองทัพมาหมายจะตีเมืองพิชัย โดย ทหาร ของเมืองพิชัย มี ไม่ ถึง หมื่น ครับ พระยาพิชัย ถูถ โปสุพลา ละ ลูกน้อง รอบ ยิงข้าง หลัง หมื...่นหาญณรงค์ เห็น พระยาพิชัย จะ ถูถยิง จึง เอา ตัว เข้า ไป บัง ระสุนปืนของพม่ายิงมาถูกหมื่นหาญณรงค์ ตรงอกทะลุหลัง ล้มฟุบลงขาดใจตายในขณะนั้นทันที พระยาพิชัยเห็นหมื่นหาญณรงค์ถูกปืนข้าศึกตายดังนั้น ก็ตกใจอาลัยหมื่นหาญณรงค์ เพื่อนยากยิ่งนัก จึงบันดาลโทสะเข้าไล่ตะลุมบอนฟันแทงพม่าด้วยดาบดีเล่มหนึ่งกับดาบหักอีกเล่มหนึ่ง โดยไม่คิดแก่ชีวิตในที่สุดด้วยความพร้อมใจกันของทหารเมือง พิชัย ภาคภูมิใจใจใน การ ทำหน้า ที่ ครั้ง สุดท้าย ของ บุญเกิด หมื่นหาญณรงค์ ไม่ หวัง ให้ใคร จดจำ แต่ เรา ก็ ยัง ภูมิใจ การ ได้ ทดแทนบุญคุณ ครั้ง สุดท้าย ของ เขา คืน คำ ว่า ความกตัญญูกตเวที ต่อ ผู้ มี พระคุณ คือ พระยาพิชัย ที่ ชุบเสี้ยงและสอนดาบ สอน มวย และความกล้าหาญของ พระยาพิชัย ที่ ครั้ง หนึ่ง บุญเกิด โดนเสือคาบ และ พระยาพิชัย ได้ ต่อสู้กับเสือเพื่อช่วยชีวิตเด็กบุญเกิดศิษย์ของ ตนไว้ ครับ หมื่นหาญณรงค์ บุญเกิด เลย สำนึก ในพระคุณ ของ พระยาพิชัย มาตลอด ครับ เมื่อพระยาพิชัย (ดาบหัก) ค่อยคลายความเศร้าลงบ้างแล้ว ก็ประคองอุ้มศพหมื่นหาญณรงค์ (บุญเกิด) เข้าเมืองพิชัยกระทำการฌาปนกิจศพให้อย่างสมเกียรติยศ มีบรรดาทหารหาญชาวเมืองมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ผู้เจ้าร่วมพิธีต่างร้องไห้รำพึงรำพันเสียดายหมื่นหาญณรงค์ไปตาม ๆ กัน บทกลอน ของ หมื่นหาญณรงค์ บุญเกิด ว่า จะ เป็น คน ที่ มี ความสามารถ หรือ ไม่ อยาก ให้ ทุก ท่าน ลอง อ่านดู นะ ครับ หมื่นหาญณรงค์ วันแห่งความสุขสันต์นั้นสั้นนัก แต่ความรักแท้จริงนั้นยิ่งใหญ่ หมื่นหาญฯยังศรัทธาพระยาพิชัย ศึกไหนไหนกี่ศัตรูยังสู้เคียง จนปีรุ่งเหล่าพม่ากรีฑาทัพ หวังจะดับไทยหมายให้ตายเกลี้ยง ทหารแกล้วแคล่วคล่องกองเสบียง มุ่งจากเชียงใหม่ย้อนมารอนราน หมื่นหาญณรงค์ทรงใหญ่เพราะใส่เกราะ เดินหัวเราะกระหยิ่มและยิ้มยั่ว แม่จ้อยจ้องตาฝาดอย่างหวาดกลัว ไม่เห็นหัวหมื่นหาญฯสะท้านกาย ๒๓๕.“บุญเกิดเอ๋ยถอยหลังมานั่งแคร่ ตะกี้แม่มองเงาหัวเจ้าหาย หากออกศึกแม่หวั่นอันตราย ถ้าลูกตายพวกเราคงเศร้าตรม” หมื่นหาญฯกราบแทบเท้าแล้วกล่าวว่า ในวันข้าฯดวงตกและหกล้ม ยิ่งตะกายเข้าตลิ่งกลับยิ่งจม ผู้หนึ่งก้มตัวถึงเข้าดึงมือ วันนี้เขาออกสู้หมู่พม่า จะให้ข้าฯจับเจ่าทิ้งเขาหรือ ยิ่งพม่าเข้าบุกควรลุกฮือ ดีกว่าชื่อว่าขลาดใช่ชาติชาย ทุกครั้งข้าฯออกศึกไม่นึกว่า จะกลับมาเรือนรังเหมือนดังหมาย พรุ่งนี้ตื่นลืมตาหรือว่าตาย ไม่เสียดายชีวิตสักนิดเดียว” แล้วกราบเท้าแม่ใหญ่เพื่อไปรบ ใจสงบไม่ฝ่อหรือห่อเหี่ยว มิอาจซ่อนวงรูปหน้าซูบเซียว แม่เกินเหนี่ยวฉุดรั้งหรือยั้งคืน พระยาพิชัยซุ่มอยู่ก็จู่โจม สองทัพโหมตีตัดให้ขัดลำ ทัพพม่าตกใจที่ไทยบุก ถูกไล่รุกลงหล่มจนล้มคว่ำ ก็ยั้งอยู่ครู่เดียวด้วยเชี่ยวกรำ กลับกระหน่ำเข้าสู้ทุกหมู่กอง พระยาพิชัยไล่ปราบด้วยดาบคู่ เคียงคู่หมื่นหาญณรงค์เป็นองค์สอง หวังกำราบสาปอธรรมหยุดลำพอง กลางเสียงก้องการรุกเช่นทุกครั้ง บทกลอน สุดท้าย ของ หมื่นหาญณรงค์ พลันปืนไฟดังเปรี้ยงกลบเสียงดาบ เริ่มปวดปลาบสั่นรั่วจนทั่วร่าง กระสุนแล่นผ่านเกราะส่วนเปราะบาง ทะลุข้างอกซ้ายถึงชายโครง ร่างหมื่นหาญณรงค์ทรุดลงนั่ง เอาดาบยั้งดินไว้หายใจโหวง มือยังจับดาบมั่นไม่สั่นโคลง ชาติเสือโคร่งไว้ลายอย่างชายชาญ ข้าได้ทำหน้าที่แล้วพี่ข้า โปรดบอกโลกเถิดว่าข้ากล้าหาญ ได้แทนคุณพี่ข้าอย่างสาบาน ด้วยวิญญาณหัวใจที่ไม่แพ้ พสุธาข้าหมายมอบกายกลับ โปรดรองรับบุญเกิดด้วยเถิดแม่ มาจากดินกลับสู่ดินเมื่อสิ้นแด เลือดจักแผ่ซึมดินตราบสิ้นฟ้า โลกมืดแล้วใช่ไหมหรือไฟดับ ช่างหนาวจับหัวใจเหมือนไข้ป่า ขอบุญเกิดอาภัพได้หลับตา ดับความล้าได้อยู่กลางหมู่ดาว” พระยาพิชัยใจหายน้องตายจาก น้ำตาพรากเจ็บปวดแหละรวดร้าว “หลับตาเถิดน้องรักเพื่อพักยาว นึกถึงข้าวก้นบาตรเคยกวาดกิน เคยอดมื้อกินมื้ออิ่มหรือหิว เคยไส้กิ่วตกอับขาดทรัพย์สิน เคยฝึกมวยฝึกดาบปราบไพริน เราต่างดิ้นรนกันจนวันนี้ ข้ามาทั้งกองพลเถิดคนถ่อย น้องจงคอยแลดูดาบผู้พี่ ดาบจะหักก็จะสับพวกอัปรีย์ ให้เป็นผีเซ่นมานวิญญาณน้อง” แล้ววิ่งใส่ไล่รุกอย่างอุกอาจ แรงอาฆาตส่งพลังแขนทั้งสอง ข้าศึกราบอัปราเป็นหน้ากลอง ดับผยองพม่าด้วยอาวุธ ด้วย ส่วน ตัว ผม นับ ถือ พระเจ้าตากสิน และ พระยาพิชัย กับ หมื่นหาญณรงค์ มาก ครับ เคย ไป ไห้ว ศาล พระยาพิชัยดาบหัก และ หมื่นหาญณรงค์ (บุญเกิด) ที่ วัดราชคฤห์ บางยี่เรือง กรุงเทพ ครับผม

ผมขอรบกวนทุกท่านที่พอจะทราบว่า มีทหารของพระเจ้าตากสินที่ชื่อ นายอิน หรือ ขุนอิน บ้างไหมครับหรือว่าพอรับยศก็อาจเปลื่อนชื่อไป อยากทราบจริงๆครับ บังเอิรผมมี่เรืองแปลกๆ ของท่านนี้ครับ ลบกวนด้วยครับ

จตุรงคบาท เท้าขวาหลังม้าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ต้องขอกราบขอบพระคุณน้ำใจทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นมากระผมได้รับรู้้แล้ว ยังมีเรื่องราวอีกมากที่ทั้งเล่าได้และเล่ามิได้อีกมากมายต่อให้เป็นชายชาตินักรบแต่ก็ไม่อาจหนีจากกรรมที่ตนจำใจจะต้องสร้างจากสตรีที่ตนรักได้เพราะเป็นพันธะสัญญาที่สำคัญยิ่งกว่าความรัก ในชาตินี้ก็ขอรับกรรมที่ทอดทิ้งสิ่งที่รักมากมา จะขอตามหาให้พบ นามว่าปิ่นมุขสลักใจ พระยาพิชัยนั้นที่จริงเป็นสีหราชเดโชทั้งสองยุคของมหาราชกู้แผ่นดินทั้งสองพระองค์ และเพลงดาบที่ท่านใช้นั้นมิได้เป็นของมนุษย์เป็นเพลงดาบที่มีพลังในการทำลายล้างสูงมากผู้ที่ใช้ได้จำจะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรม ความเที่ยงธรรม ความเมตตา และจริยธรรมสูงเท่านั้นจึงจะใช้ได้ เพลงดาบที่พระยาพิชัยใช้นั้นได้นามว่า ปลายดาบตวัดสังหาร เรื่องที่กระผมกล่าวจะเป็นจริงหรือมิจริงก็ได้อยู่ที่ทุกท่านจะเชื่อหรือมิเชื่อ และการตายขอพระยาพิชัยมิยอมให้ตายด้วยน้ำมือขอคนที่มิได้เป็นนายท่านอยู่แล้วมีอยู่แค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเอาชีวิตท่านไปได้ 1.พ่อแม่ 2.ครูปาอาจารย์ 3.ผู้มีพระคุณหรือเจ้าชีวิต(ในที่นี้คือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) 4.ตัวท่านเอง(พระยาพิชัยดาบหัก) กูขอสาบานกูจะมิยอมตายด้วยน้ำมืออริราชศตรูหากกูจำต้องตายก็ขอตายด้วยน้ำมือเจ้าชีวิตของกู้หรือตัวกูเอง พระยาพิชัยให้คนของท่านใช้ดาบของท่านประหารตัวท่านเองมิขอยอมตายด้วยน้ำมือขอทองด้วงเป็นแน่แท้ กระผมจะเป็นใครไม่สำคัญขอเพียงแต่ไม่ยอมละทิ้งแผ่นดินเกิดขอกระผมได้คนที่มันทำให้คนไทยฆ่ากันเองและพื้นแผ่นดินที่พ่อเหนือและสหายกูกู้มามันผู้นั้นจะต้องตาย

มาเที่ยวเล่นจ้า

แล้วไอ้เขียว ไอ้ขาวตายอย่างไงครับ กูรูบอกผมหน่อย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท