"เมื่อนิยายของการพัฒนาจบลง เราต้องสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นพึ่งตนเองขึ้นมาแทน" เป็นคำกล่าวของ อมาตยา เซน นักเศรษฐศาสตร์ชาวอินเดีย ที่ได้รัลบรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์...ท่านผู้นี้เคยมาบรรยายในประเทศไทยเมื่อต้นปีนี้ โดย สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง เป็นผู้เชิญมา....
นิยายของการพัฒนา คือ การฝันหวานว่า ทุนนิยมจะเจริญรุ่งเรืองไปอย่างไร้ขีดจำกัด การพัฒนาชนบทเพื่อให้ชุมชนจัดทำสินค้าเพื่อการส่งออกมาก ๆ ไม่เป็นจริง เป็นเพียงนิยายครับ นิยายเรื่องให้ชาวบ้านผลิต เยอะ ๆ แล้วจะได้รำรวย ก็เป็นนิยายครับ เพราะความจริงคนที่รวยคือ พ่อค้า และนายทุนเงินกู้(เถ้าแก่โรงงานต่าง ๆ ).............วันหนึ่งเมื่อทุกอย่างเข้าสู่ กลยุทธ์น่านน้ำสีคราม ทุกอย่างถูกฮุบโดยบรรษัทค้าส่งและค้าปลีก ถึงวันที่พ่อค้ายี่ปั๊ว...ไปจนถึงร้านค้าในหมู่บ้านก็เจ๊งกันระนาว เพราะบรรษัทเหล่านี้เข้าเทคโอเวอร์สินค้าเกือบทุกอย่าง โดยระบบทุนที่มากกว่าและนานกว่า
ตอนนี้ก็ใกล้เวลานั้นเข้ามาทุกที เราจะยังไม่เริ่มคิดแก้ปัญหาอีกเหรอ???.......หนทางที่เดินมีอยู่ เพียงแค่ดำเนินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางสำคัญที่ในหลวงท่านทรงคิดให้พวกเรา เพื่อนำไปสู่ "เศรษฐกิจท้องถิ่นพึ่งตนเอง"
สวัสดีครับ นาย สมพงศ์ ตันติวงศ์ไพศาล
สถาบันส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
มาขออนุญาตินำข้อความดีๆไปรวมในรวมตะกอนครับ ขอคุณมากครับ http://gotoknow.org/blog/mrschuai/117622?page=8
มาเยี่ยม คุณ
นาย สมพงศ์ ตันติวงศ์ไพศาล
แง่คิดอย่างหนึ่ง...บางครั้งคนในสังคมไฟลนก้นแล้วยังมองไม่เห็นกันนะครับ...
สวัสดีครับ......คุณสิทธิรักษ์ ครับ เชิญตามสบายครับ แต่คงไม่ตรงใจทุกคนครับ แต่ยินดีให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ
สวัสดีครับ อาจารย์ยูมิครับ ขอบคุณครับที่มาเยี่ยม ครับ เป็นการสรุปแนวทางการพัฒนาในกระแสโลกครับ เมืองไทยเรายังตกกระแสครับ
เพราะว่าเรื่องที่คุยกันนี้ เป็นยุคข้อมูลข่าวสารแล้วครับ ชาวบ้านตาสีตาสา ไม่ถูกปิดกั้นโดยข่าวสารส่วนใหญ่ จากทีวีอีกแล้ว สื่อที่เป็นโลกาภิวัฒน์ ที่ต้องจับตามองคือ อินเตอร์เนต ครับ จะหาว่าชาวบ้านตกกระแสโลกไม่ได้แล้ว โลกทั้งใบถูกเชื่อมโยงด้วยข่าวสารข้อมูลแล้ว สภาพัฒน์ฯก็รู้ตัวแล้วว่า แผน ๑๑จะออกมาเป็นอย่างไร?
การพัฒนาประเทศ เกือบ ๕๐ ปี(พ.ศ.๒๕๐๔ เป็นต้นมา)เป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ ๑ ปรับจากเศรษฐกิจพื้นบ้าน เป็น การปฏิวัติเขียว เป็นระบบเศรษฐกิจเพื่อการส่งออก มาจนถึงปัจจุบันนี้ ปีหน้ากำลังก้าวสู่เกษตรอุตสาหกรรมแล้ว เรายังฝันหวานอยู่อีก (ระบบของเครือเจริญโภคภัณฑ์) เช่นปลาทับทิม ก็ต้องเป็น GMO ต้องซื้อพันธุ์อย่างเดียว การเลี้ยงก็ต้องพึ่งระบบ นาโน การขยายจะถูกกำหนดราคาแล้วจาก ซีพี หรืออะไรทำนองนี้ ชาวบ้านเป็นได้เพียงเจ้าของที่ดิน และแรงงานราคาถูกอย่างเดียว .......
เหล่านี้กำลังจะบอกว่า เราถูกกำหนดทุกอย่าง แม้แต่เรื่องเงิน แต่เศรษฐกิจพอเพียง น้าเลี่ยมบอกว่า เรากำหนดเอง เราปลูกข้าวแล้วสีกินเอง ไม่ซื้อ (ปลอดภัยเสียอีกเพราะไม่ใช่สารเคมี ยาฆ่าแมลงเลย)ปลูกผักกินเอง มะเขือกินเอง พริกกินเอง หอมกระเทียมกินเอง ที่ต้องรับมาทำเองก็คือน้ำปลา แต่ไม่ซื้อจากข้างนอกชุมชน มีปลาที่เลี้ยงเองไว้กิน ไก่เลี้ยงเองไว้กิน มีสมุนไพร เช่น ฝาง ทำยาแก้ไอ หรือกาฝาก ๑๐๘ แทนยาแก้ปวด เป็นต้น ไม้ยืนต้น ก็มีในป่าชุมชน ทั้งยางนา ไม้แดง มะค่าโม่ง หรือกระท้อน ไม้สัก เป็นต้นทำตัวบ้าน ส่วนอิฐทำเอง เป็นอิฐดินเพื่อลดการโ
สวัสดีครับคุณสมพงศ์
สวัสดีครับ..คุณเม้ง สมพร ช่วยอารีย์ ครับ ระบบเกษตรอุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมการเกษตร เป็นแนวคิดที่กำลังขยายรุกไปสู่ในเกษตรหลัก ๆ ปัจจุบันไม่เห็นชัดเพราะ เหล่าบรรษัทใหญ่เขาต้องการ รอเทดโนโลยี่ นาโนอยู่ รอเวลาอีก ๑- ๒ ปีนี่แหละครับ