สืบเนื่องมาจากบันทึกที่แล้ว มีหลายท่านสอบถามมาเรื่อง “การจุดไฟในใจ” แน่นอนครับ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเวลา...
“ไฟในใจ” หรือ “Passion” หรือ “ฉันทะ” ที่ว่านี้ (แล้วแต่จะเรียก) เป็นสิ่งที่ “จุดยากแต่ดับง่าย” ครับ ผมเองก็ประสบอยู่บ่อยๆ จะต้องคอยบอกตัวเองเสมอว่าสิ่งที่ทำอยู่หรือจะทำนี้มันมีผลดี มันมีคุณค่าอะไร จะเรียกว่าเป็นการสร้างแรงจูงใจหรือ “จุดไฟ” ให้กับตนเองก็ได้ พอจิตใจ “คึกคัก มีชีวิตชีวา” ก็ทำให้มีแรงเดินหน้าต่อไปได้ ทำให้พร้อมจะ “ฝ่าฟัน” ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง
แต่ก็อย่างที่หลายท่านบอกไว้แหละครับว่า ไฟของเรามันลุกอยู่ดีๆ แต่ก็มีผู้ที่หวังดี (และไม่หวังดี) ทำอะไรบางอย่าง ทั้งจงใจและไม่จงใจ ทำไปโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ทำให้ไฟที่เราจุดไว้นั้นค่อยๆ มอดไปที่ละน้อยๆ
ผมลองคิดทบทวนดูใหม่ ถ้าไฟของเรามอดได้เพราะ “ปัจจัยภายนอก” สงสัยว่าไฟที่เราจุดขึ้นมานี้น่าจะเป็น “ของปลอม” ครับ ไฟของปลอมนี้สังเกตได้ง่าย พอใครพูดอะไรผิดหูขึ้นมานิดเดียว หรือสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ทำให้เกิดความรู้สึก “ท้อถอย” ขึ้นมาทันที ผมเองก็ยังเกิดอาการเช่นนี้อยู่บ่อยๆ ครับ
ตอนนี้เริ่มรู้วิธีที่จะ “จัดการ” กับมันบ้างแล้ว ใช้วิธีแบบ “เต๋า” คือ “จัดการโดยไม่จัดการ” ซึ่งก็คือการ “ฝึกสติ” นั่นเองครับ เพียงแค่ “ตามดู” อารมณ์ความรู้สึกต่างๆ “แฟบบ้าง ฟูบ้าง” ดูไปอย่างไม่ตั้งใจมากนัก เห็นบ้าง หลุดบ้าง ด้วยวิธีนี้ผมมี “ความเชื่อ” ว่าน่าจะทำให้เราได้พบกับ “ไฟในใจ” ที่เป็นของแท้ ที่มาจาก “ภายในจริงๆ” ซึ่งไม่มีสิ่งใด “ภายนอก” จะดับมันได้อีกต่อไป
สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้ คงมีแต่การ “ตามดู” เฝ้ามองเห็นมัน “ติดบ้าง ดับบ้าง” ไปพลางๆ ก่อน จนกว่ามันจะสอนใจเราได้ว่าไฟในใจหรือฉันทะที่เป็น “ของแท้” นั้นเป็นเช่นใด ผมเชื่อว่าไม่มีใครสร้างไฟนี้ได้ นอกจากตัวเราเอง
ฉันทะ....คือความพอใจ
วิริยะ...ไซร้...ให้เพียรขยัน
จิตตะ...ตั้งใจมั่น
วิมังสา...นั้นหมั่นนึกตรึกตรอง
เป็นคำท่องขึ้นใจตอนเด็กๆ
แต่ต้องทำความเข้าใจจน...หนูจะแก่แล้วค่ะอาจารย์
ไปในใจหนู....จุดง่าย...ไม่ดับค่ะ....แผ่วลงตามสิ่งกระทบ...แต่ไม่เคยดับ.."สงสัยของหนูจะเป็นไฟแท้กระมัง"(อิ...อิ...) ไฟแท้....ไฟปลอม....หนูแยกไม่ได้แต่...สังเกตว่ามันคงที่อยู่ระดับหนึ่ง...ไม่หล่นไปกว่านี้ค่ะ....
ขอโทษค่ะอาจารย์ หนูลืมเรื่องนั้นไปเลย.......บรรยายหนูว่ามีจุดอ่อนคือ...เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา....สู้ใช้วิธีแบบที่ท่านดำเนินการ .....เข้าแล้วเข้าเลย....ยิงตรงหัวใจ....ไปเลย....หนูคาดหวังยิงตรงใจเกิดไฟในใจแค่...30 % ก็คุ้มแล้วค่ะ....เพียงความเห็นแล้วแต่อาจารย์จะพิจารณาค่ะ....อีกอย่างที่อยากให้รับพิจารณาคือ มาพักที่หาดใหญ่สักคืนก่อน บรรยายจะได้ไม่เหนื่อยมาก ในการตื่นบินแต่เช้า...จะเลือกโรงแรมที่ไม่มีระเปิดค่ะ....จึงเรียนมาด้วยความเคาระ
คุณเมตตา ...ตกลงเราคุยกันตรงนี้เลยก็ดีเหมือนกัน (นี่คือประโยชน์ของ gotoknow) ... ผมขอเที่ยวบินแบบคราวที่แล้ว ก็สะดวกดีแล้วครับ ตื่นแต่เช้ากลับมืดแต่ได้นอนบ้าน ....ผมเป็นโรคติด (คนที่) บ้านครับ !!
คุณไมโต...ผมหมายถึงลูกๆ นะครับ
มีไฟ ก็ต้องมีเชื้อเพลิง ถ้าไฟไม่มีเชื้อเพลิง ก็ต้องมอดเข้าสักวัน วันไหนไฟใกล้มอด ต้องรีบหาเต๋าค่ะ
เรียน Aj Kae ...คงต้องหา "ไฟของแท้" ให้เจอ ผมเองก็มักจะสร้าง "ไฟของปลอม" ขึ้นบ่อยๆ แล้วเห็นเลยครับว่ามันถูกอิทธิพลของปัจจัยภายนอกกระทบได้ง่ายมาก ...ไฟของแท้ต้องมาจากภายใน ต้องกลับไป Back to Basics ...หัด "ตามรู้ ตามดู(กายใจ)" ใหม่ ตั้งต้นใหม่ครับ
เห็นด้วยกับ Aj Kae อย่างยิ่งครับ ...ขอสำคัญผมว่าเราต้องช่วยกันสื่อสิ่งที่เป็น "แก่น" จะได้ไม่ติด "เปลือก" ....และต้องเป็นการสื่อสารในรูปแบบที่ทันสมัย เข้าได้กับบริบทในปัจจุบัน ...คงต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือครับ ...ขอบคุณครับ
ไฟไหม้ที่ห้วยขาแข้งเมื่อเร็วนี้....ถ้ามันมีเชื้อไฟเติมเรื่อยๆ....คงไหม้อีกยาวนาน....ไฟแท้ๆ เหมือนกัน...อาจมอดดับได้เช่นกัน...การเติมเชื้อให้แก่กัน...เชื้อไฟที่ว่าน่าจะเป็น...ความเพียรอันบริสุทธิ์...ความตั้งใจมั่น และหมั่นนึกตรึกตรอง...จะได้ไม่เป็นไฟที่เผาไหม้สิ่งดีงามของสังคม จุดเริ่มคือ ความรักความศรัธา เชื่อมั่นและมีสติ
จุดเริ่มคือ ความรักความศรัธา เชื่อมั่นและมีสติ .... "โดนใจ" มากๆ ครับ ...ขอบคุณครับ คุณชาวนา