วันนี้ผมมีตัวอย่าง "การคำนวณรายได้จากการขายส่งน้ำผึ้งลำไย" มาฝากนะครับ โดยจะเปรียบเทียมระหว่างปี 2548 กับ ปี 2549 ในจำนวนรังผึ้งที่เท่ากันและมีประชากรหนาแน่นพอๆ กัน คือ สมมุติที่มีผึ้งจำนวน 60 รังเท่ากัน แต่คำนวณจากผลผลิตที่ได้จริงเฉลี่ยต่อรังของทั้ง 2 ปี ซึ่งแสดงผลได้ดังนี้ครับ
หัวข้อเปรียบเทียบ |
ปี 2548 |
ปี 2549 |
หมายเหตุ |
|||||
1. จำนวนรังผึ้ง |
60 รัง |
60 รัง |
||||||
2. จำนวนคอนในรังผึ้ง |
8 คอน |
8 คอน |
||||||
3. จังหวัดที่ตั้งผึ้ง/วางผึ้ง |
ลำพูน |
ลำพูน |
||||||
4. ปริมาณน้ำผึ้งลำไยที่เก็บได้ |
1,300 kg |
900 kg |
22-15 kg/รัง |
|||||
5. ปริมาณน้ำผึ้งที่ขายให้บ.เนสท์เล่ |
300 |
300 |
||||||
6. รายได้จากบริษัทเนสท์เล่ |
18,525 |
17,400 |
61.75-58 B./kg |
|||||
7. น้ำผึ้งคงเหลือในมือ | 1,000 kg |
600 kg |
||||||
8. รายได้จากการขายให้พ่อค้าอื่น |
40,000 |
30,000 |
40-50 B./kg |
|||||
9. รายได้รวมจากการจำหน่ายน้ำผึ้ง |
58,525 |
47,400 |
||||||
10. ผลต่างของรายได้ |
-11,125 |
*ลดลง 19 % |
||||||
จากตารางข้อ 10 ถึงแม้ว่า ปีนี้ราคาน้ำผึ้งลำไยเฉลี่ยจะดีกว่าปีที่แล้ว แต่ปริมาณน้ำผึ้งที่น้อยลงทำให้รายได้ลดลงไปด้วย ในขณะที่รายจ่ายข้างหน้ารออยู่มีแต่จะเพิ่มขึ้น (ค่าครองชีพสูงขึ้น เงินเฟ้อสูงขึ้น ของในตลาดราคาสูงขึ้น ขณะที่รายได้ลดลง) ดังนั้นผู้เลี้ยงผึ้งที่มีทุนน้อยๆ ก็จะค่อยๆ ล้มหายตายจากไปครับ (เลิกอาชีพการเลี้ยงผึ้ง)
ขายส่งน้ำผึ้งก็รวยได้เลยนะเนี่ย