หนทางไปสู่เป้าหมาย | |
ตารางตรวจสอบผลการพัฒนา | |
เกรดคาดหมาย (expected grade) |
จำนวนข้อที่ต้องทำให้ได้ |
A |
27 -30 |
B / B+ |
22 – 26 |
C / C+ |
17 - 21 |
D / D+ |
12 - 16 |
นักศึกษาจะต้องพัฒนาตนเองให้สอดรับกับชื่อจัดตั้ง โดยทำชุดติวเตอร์ให้ได้จำนวนข้อเท่ากับจำนวนข้อในตารางข้างต้น เช่น นักศึกษาที่มีชื่อจัดตั้ง BD, CF ควรทำชุดติวเตอร์ให้ได้ดังนี้
ชื่อ BD หมายถึง นักศึกษาตั้งเป้าหมายที่ B แต่ศักยภาพปัจจุบันคือ D
ดังนั้น นักศึกษาจะต้องพยายามทำชุดติวเตอร์ให้ได้ 22 – 26 ข้อ จึงจะมีโอกาสได้เกรด B
ชื่อ CF หมายถึง นักศึกษาตั้งเป้าหมายที่ C แต่ศักยภาพปัจจุบันคือ F
ดังนั้น นักศึกษาจะต้องพยายามทำชุดติวเตอร์ให้ได้ 17 – 21 ข้อ จึงจะมีโอกาสได้เกรด C (ไม่ควรทำเกิน 21 ข้อ ไม่เช่นนั้น เกรดอาจจะสูงกว่า C)ความรู้ คู่ความดี
ความรู้ คือ สารสนเทศที่ผ่านกระบวนการคิด เปรียบเทียบ
เชื่อมโยงกับสิ่งอื่น จนเกิดเป็นความเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้
จนมีคำกล่าวที่สำคัญเกี่ยวกับความรู้ คือ “ความรู้ คือ พลัง (Knowledge is power)”
ความดี คือ ธรรมะ ความรัก (ต่อทุกคน) ความเมตตา
ความเห็นอกเห็นใจ ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และการได้ช่วยเหลือผู้อื่น
เช่น การได้ติวให้เพื่อนๆ มีความรู้จนพ้นจากการสอบตก เป็นต้น
หากมีความรู้แต่ไม่มีความดี โดยการนำเอาความรู้ไปใช้ในการ
เอาเปรียบคนอื่น เช่น การหลบเลี่ยงภาษี หรือเบียดบังเงินหลวง/บริษัท ฯลฯ
สังคมก็จะขาดความสงบสุข
ดังนั้น ความรู้จึงควรคู่กับความดี ดังคำขวัญ “ความรู้ คู่ความดี”เตรียมพร้อมสำหรับ Test1
ครูขอฝากข้อความนี้ถึงกลุ่ม 15 คนด้วยครับ เกรงเขาไม่ได้เปิดดู
1. แบบฝึกหัดบทที่ 2 ครูพบว่านักศึกษากลุ่ม 15 คน ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำข้อ 1-3-7-8 ให้พยายามทำให้ได้ โดยหาคนที่เข้าใจช่วยติวให้ เมื่อเข้าใจแล้วให้ทำส่งครูเพิ่มเติมในวันจันทร์ที่ 27 นี้ เพราะหากไม่เข้าใจสี่ข้อนี้แล้วจะทำข้อสอบไม่ได้อีกหลายข้อ
2. ให้ดาวน์โหลดไฟล์ http://tulip.bu.ac.th/~wathna.s/linearquadratic.pdf แล้วให้ทำตามคำแนะนำในนั้น อาจให้เพื่อนช่วยติวให้บางข้อ แล้วให้ทำส่งครูเพิ่มเติมในวันจันทร์ที่ 27 นี้ เช่นกัน
3. นักศึกษาต้องยอมรับว่า เมื่อเราอ่อนกว่าเพื่อน จะต้องทำงานให้มากกว่าเพื่อน จึงจะได้คะแนนเท่ากับเพื่อนครับ
ข่าวดีสำหรับติวเตอร์
จากผลการวิจัย พบว่า นักศึกษายิ่งติวให้เพื่อนมากข้อเพียงใด ทักษะทางคณิตศาสตร์ก็จะเกิดกับผู้ติวมากตามเพียงนั้น โอกาสที่จะสำเร็จตามเป้าหมายก็สูงตามไปด้วย ดังนั้น การติวให้เพื่อน นอกจากตัวเองจะมีความรู้มากขึ้นแล้ว ยังได้ทำความดี ซึ่งจะทำให้นักศึกษามีความสุขในฐานะผู้ให้อีกด้วย โปรดจำว่า “ความรู้ คู่ความดี”
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ ที่ให้กำลังหนูและเพื่อน ๆ ที่อ่อนวิชานี้ค่ะ หนูจะทำตามที่อาจารย์บอกค่ะ และจะขยันติวกับเพื่อน ๆ ที่เข้าใจในวิชานี้ค่ะ
ขอบคุณค่ะที่พยายามสอนพวกหนู ทำให้มีกำลังใจที่จะเรียนถึงแม้ว่าเลขจำยากสำหรับพวกหนูหนูก็จะพยามยามทำตามที่อาจารย์บอกคะ หนูขอบคุณมากคะที่อาจารย์สนใจที่จะสอนคนไม่ให้เป็นกลับทำได้ ขอบคุณมากคะ เพราะหนูไม่เคยเจอ ครูที่สนใจแบบนี้คะ
ขอแสดงความยินดีกับนันทิกาที่ได้คะแนนเต็ม Test1 และสุภัคธนากับพัทราพรที่ได้คะแนนเกือบเต็ม ผิดข้อเดียว ข้อที่ทั้งสองคนทำผิดคือ ข้อ 13 ดังนี้
x^2 – x + 6 = (x – 3)(x + 2)
เมื่อ x^2 คือ x ยกกำลังสอง
จำได้หรือเปล่าครับ กฎการแยก x^2 + bx + c มี 3 ขั้นตอนๆ ที่ผิดคือขั้นตอนที่ 2
1. แยกตัวหน้าคือ x^2 ออกเป็น x กับ x ซึ่งในที่นี้ ถูก
2. แยกตัวหลังคือ +6 ออกเป็น 2 จำนวนคูณกัน ในที่นี้ +6 ไม่เท่ากับ (–3) (+2)
3. ผลรวมของคู่ในคูณกันและคู่นอกคูณกัน เท่ากับตัวกลางคือ –1x ซึ่งในที่นี้ ถูก
ขอแสดงความยินดีกับ “กลุ่ม 15” จำนวน 10 คนที่สามารถทำคะแนนได้ 3.8 ขึ้นไป ส่วนที่เหลืออีก 5 คน รวมกับคนใหม่อีก 27 คน มีชื่อใหม่เป็น “กลุ่ม 32” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำคะแนน Test1ได้ต่ำกว่า 3.8 ดูหมอวิทยาศาสตร์หรือยังครับ
“กลุ่ม 32” ยังมีโอกาสแก้ตัว ยังเหลือคะแนนอีก 90% ถ้านักศึกษากลุ่มนี้สัญญากับครูว่าจะทำตามที่ครูแนะนำ ครูเชื่อว่าครูสามารถช่วยให้ทุกคนสอบได้ วันจันทร์ที่ 4 ธค. นี้จะบอกวิธีครับให้อ่านโจทย์อย่างคร่าวๆ จนครบทุกข้อ แล้วจึงเลือกข้อที่ง่ายที่สุดทำก่อน ต่อไปจึงเลือกข้อที่ง่ายรองๆ ไป ไม่จำเป็นต้องทำตามลำดับข้อ 1-2-3-4... เป็นต้นไป เพราะหากทำข้อแรกๆ ไม่ได้จะทำให้เสียกำลังใจทำข้อต่อๆ ไป หากหมดเวลา ให้เดาข้อ ก-ข-ค-ง ข้อใดข้อหนึ่ง ไม่ควรเดาข้อ จ.
จันทร์ที่แล้วครูได้สอบถามนักศึกษาใน “กลุ่ม 32” บางคน พบว่า แทบทุกคนดูหนังสือถึงตีสองตีสาม ครูจึงถึงบางอ้อ ว่าทำไมนักศึกษาถึงทำข้อสอบไม่ได้ หลักการเรียนที่ถูกต้องคือ ดูหนังสือให้สม่ำเสมอ โดยดูหนักก็ได้ แต่คืนก่อนสอบจะต้องเข้านอนในเวลาปกติที่เคยนอน เพื่อให้สมองแจ่มใสสำหรับการสอบในวันรุ่งขึ้น หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ประสิทธิภาพการทำงานของสมองจะลดลง และการนอนมากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี ดังนั้น การพักผ่อนในเวลาปกติที่เคยนอนจะดีที่สุดครับ
วิชาคณิตศาสตร์ต่างจากวิชาบรรยาย ซึ่งวิชาบรรยายนั้นการอ่านทบทวนหลายๆ เที่ยวก็จะทำข้อสอบได้ แต่การอ่านวิชาคณิตศาสตร์จะช่วยไม่ได้มากนัก เพราะคณิตศาสตร์เกี่ยวข้องกับทักษะการคำนวณ การอ่านจึงไม่ทำให้เกิดทักษะ จะต้องลงมือทำเท่านั้นจึงจะเกิดทักษะ โปรดสังเกตพฤติกรรมการเตรียมสอบของนักศึกษาสองคนต่อไปนี้ นักศึกษาเลขที่ 32 แสดงความรู้สึกดังนี้ “รู้สึกไม่ค่อยภูมิใจเลย เพราะอ่านและท่องมาอย่างดี พอมาถึงห้องสอบกลับทำไม่ได้ ...” ในขณะที่นักศึกษาเลขที่ 1 แสดงความรู้สึกดังนี้ “รู้สึกดีมาก เพราะไม่เคยทำคะแนนได้มากขนาดนี้มาก่อน ครั้งนี้ตั้งใจมาก ทำทั้งติวเตอร์และแบบฝึกหัดท้ายบท ก่อนสอบได้นำมาลองทำใหม่ทั้งหมด ซึ่งก็ทำได้ ...” คนแรกอ่านและท่องมาก คนหลังทำมาก ผลลัพธ์ต่างกันมากระหว่างการอ่านกับการทำครับ
นักศึกษาเลขที่ 12 แสดงความรู้สึกดังนี้ “รู้สึกภูมิใจมากที่ทำได้เกือบเต็ม สาเหตุที่ทำให้ได้คะแนนมากคือ ชุดติวเตอร์ของอาจารย์ ดิฉันทำหลายรอบจนเข้าใจทุกข้อ และอีกอย่างหนึ่งคือ การติวให้เพื่อนตามที่อาจารย์แนะนำ ได้ผลมากเลยค่ะ ขอบคุณอาจารย์ที่ให้โอกาสหนูค่ะ ...”
นักศึกษาเลขที่ 24 แสดงความรู้สึกดังนี้ “ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจต่อคะแนนที่ได้มาก ไม่เสียแรงที่มีเพื่อนช่วยติให้ ทำให้ข้าพเจ้าทำข้อสอบได้ ต้องขอบใจเพื่อนๆที่มีน้ำใจติวให้”
นักศึกษาเลขที่ 35 แสดงความรู้สึกดังนี้ “คะแนนสอบออกมาดีกว่าที่คิดมากๆ ขอขอบคุณอาจารย์ค่ะที่ทำชุดติวเตอร์ให้ฝึกทำ ขอสัญญาว่าจะทำตามคำแนะนำของอาจารย์ทุกอย่าง และจะช่วยติวให้เพื่อนๆ มีความรู้มากขึ้นด้วยค่ะ”
และอีกหลายๆ คนที่ทำตามคำแนะนำของครูก็ได้ผลเช่นเดียวกันนี้ครับ
หนูเป็นหนึ่งคนที่อ่อนคณิตศาสตร์มากค่ะ แต่พอหนูได้เรียนกับอาจารย์ อาจารย์ช่วยให้หนูเข้าใจมากขึ้นเยอะเลยค่ะ หนูต้องขอขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างมากน้าค่ะ หนูชอบวิธีการสอนของอาจารย์มากเลยค่ะ อาจารย์สอนเข้าใจดีค่ะ ฝึกให้ทำแบบฝึกหัดชุดติวเต้อ สนุกดีค่ะ ตอนแรกทำแล้วทำไม่ได้ แต่พอทำไปเรื่อยๆๆ ก้อรู้สึกว่ามันสนุกดีค่ะ และพอสอบมันทำให้หนูทำข้อสอบได้ค่ะ ขอบคุณอาจารย์มากน้าค่ะ
ถึงนักศึกษาที่รักทุกคน
ครูได้อ่านข้อเขียนของนักศึกษาทุกคนแล้ว พบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะกลุ่ม 32) มีความเครียดมาก ซึ่งจะเป็นสาเหตุของการทำข้อสอบกลางภาคไม่ได้ ถ้าไม่รีบแก้ไขจะมีปัญหาเรื่องคะแนนสอบแน่นอน ก่อนที่ครูจะแนะนำในข้อ 2 ต่อไป ขอให้ดำเนินการในข้อ 1 ก่อนดังนี้
1. เกรดคาดหมาย
ยังมีนักศึกษาหลายคนยังไม่ได้เขียนเกรดคาดหมายครั้งที่ 2 (ครั้งที่ 1 คือ วันแรกที่เรียน) ครูให้เติมในตอนท้ายของแบบบันทึกต่อไปนี้
“แบบบันทึก MA101 (สำหรับเตรียมสอบกลางภาค) เกรดคาดหมายครั้งที่ 2 คือ.......”
ซึ่งนักศึกษาคงไม่ได้สังเกต ทำให้หลายคนไม่ได้เขียน โปรดเขียนส่งให้ครูด่วนครับ ในการตั้งเกรดคาดหมายนั้น ถ้าตั้งสูงกว่าความสามารถจริงมากเกินไปก็จะเกิดความเครียดมากตามไปด้วย เพราะความสามารถตามไปไม่ถึง ยกเว้นนักศึกษามีความเพียรมาก จึงควรตั้งให้ใกล้เคียงกับความสามารถที่แท้จริง เช่น ถ้าทำติวเตอร์ได้ไม่เกิน 16 ข้อ เกรดคาดหมายที่เหมาะสมคือ D หากตั้ง C จะต้องทำให้ได้ประมาณ 20 ข้อ เป็นต้น
2. ความเครียดเกี่ยวข้องกับการสอบอย่างไร?
ถ้านักศึกษามีความสามารถระดับ 10 ข้อ หากไม่มีความเครียด หรือมีเพียงเล็กน้อย นักศึกษาจะทำข้อสอบได้ทั้ง 10 ข้อ แต่ถ้านักศึกษามีความเครียดในระดับมากแล้ว อาจทำข้อสอบได้เพียง 4 – 5 ข้อ หรือน้อยกว่านี้ ดังนั้น นักศึกษาจึงควรลดความเครียดโดยดำเนินการดังนี้
นำติวเตอร์มาทำซ้ำๆ (อย่าเพียงแต่นำมาอ่านแบบวิชาบรรยาย) ให้ได้อย่างน้อย 16 ข้อ โดยไม่ต้องดูชุด 2.2 หากลืมวิธีทำก็ดูชุด 2.2 ก่อนได้ แล้วทำโดยไม่ต้องดูจนได้คำตอบ ให้ทำซ้ำจนทำได้โดยไม่ต้องดูของเก่า หากติดขัดควรหาเพื่อนช่วยติวให้ด้วย บางข้ออาจติวให้เพื่อนก้ได้ถ้าเพื่อนทำไม่ได้
ใครทำตามคำแนะนำครู และมีความก้าวหน้าไปอย่างไร โปรดเมล์ให้ครูทราบด้วยครับ
ด้วยความปรารถนาดี
ครูเลข
จากลูกศิษย์
ได้คะแนนเท่าไรจึงควรเพิกถอน นักศึกษาที่ได้คะแนนสองกรณีต่อไปนี้อาจไม่จำเป็นต้องเพิกถอนวิชาเรียนคือ
|
อาจารย์ค่ะ สอบย่อยครั้งที่ 2 เวลาไวมากเลยค่ะอาจารย์ ทำไม่ทันเลยค่ะอาจารย์ อาจารย์เค้าปล่อยไว้มากเลยค่ะ ให้เข้าห้องสอบก็ช้าค่ะ แย่แน่เลยค่ะ