unclepiak
ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์

สิ่งตกค้างจากการอ่านฌอง-ปอล ซาร์ตร์


เสรีภาพเป็นพื้นฐานของมนุษย์ "มนุษย์คือเสรีภาพ" ความเป็นมนุษย์และเสรีภาพเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้ ถ้าปราศจากเสรีภาพแล้ว มนุษย์ก็ไม่ต่างจากก้อนหินที่อยู่ในโลก ดังนั้นการทำลายเสรีภาพของบุคคลหนึ่งบุคคลใด จึงเท่ากับเป็นการลดทอนบุคคลนั้น ให้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นมนุษย์ไปเป็นวัตถุชิ้นหนึ่ง

หลังจากอ่านปรัชญาชีวิตของ ฌอง-ปอล ซาร์ตร์ จบลงอย่างกระท่อนกระแท่น เกิดอยากจะถ่ายทอดระบบคิดแบบซาร์ตร์ให้ฟังบ้าง แต่เอาเข้าจริงกลับไม่สามารถสรุปความคิดรวบยอดของซาร์ตร์ออกมาได้ ทำได้เพียงการเรียบเรียงแนวคิดหลักๆเพียงบางส่วน ลองอ่านดูเถิด เผื่อจะเกิดมุมมองต่อชีวิตที่เป็นประโยชน์

ฌอง-ปอล ซาร์ตร์ (Jean-Paul Sartre, 2448-2523) เป็นนักคิดนักเขียนที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของศตวรรษที่ 20 เป็นต้นความคิดปรัชญาเอกซิสเตนเชียลลิสม์ ซึ่งให้ความสำคัญกับเสรีภาพของมนุษย์ จนเป็นต้นเค้าของเรื่องราวการยืนหยัดเพื่อเสรีภาพของผู้คนทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน

ซาร์ตร์เชื่อว่าสภาวะของมนุษย์ทุกคนล้วนเริ่มต้นจากความว่างเปล่า เมื่อมีชีวิตอุบัติขึ้นบนโลกแล้ว สิ่งที่มนุษย์มีเป็นสิ่งแรกคือเสรีภาพ ชีวิตหลังจากนั้น จะเป็นอย่างไร มีความหมายหรือไม่ ล้วนเกิดจากเสรีภาพในการเลือกใช้ชีวิตของคนๆนั้น

มนุษย์มีความแตกต่างกับวัตถุสิ่งของอื่นในโลก วัตถุสิ่งของไม่มีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ แต่มนุษย์สามารถจัดการให้ตัวเองเป็น หรือไม่เป็นอะไรได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือกจะเป็น(หรือไม่เป็น)ของตนเอง

ซาร์ตร์พูดว่า เสรีภาพเป็นพื้นฐานของมนุษย์ “มนุษย์คือเสรีภาพ” ความเป็นมนุษย์และเสรีภาพเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้ ถ้าปราศจากเสรีภาพแล้ว มนุษย์ก็ไม่ต่างจากก้อนหินที่อยู่ในโลก ดังนั้นการทำลายเสรีภาพของบุคคลหนึ่งบุคคลใด จึงเท่ากับเป็นการลดทอนบุคคลนั้น ให้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นมนุษย์ไปเป็นวัตถุชิ้นหนึ่ง

เสรีภาพมีอยู่ในมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าเราจะตระหนักในเสรีภาพหรือไม่ก็ตาม

เสรีภาพมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการตัดสินใจ และมนุษย์ทุกคนมีเอกสิทธิ์ในการเลือกตัดสินใจในเรื่องของตัวเอง เวลาที่เราเกิดเรื่องยุ่งยากใจ เราอาจขอคำชี้แนะจากผู้อื่นที่มีประสบการณ์มากกว่า เราอาจขอความเห็นจากคนรอบข้างมากมายหลายคน แต่ที่สุดแล้วเราจะถูกทิ้งให้ต้องเลือกตัดสินใจตามลำพังเสมอ

ไม่มีทางใดที่เราจะหลีกเลี่ยงการตัดสินใจได้เลย การไม่ตัดสินใจหรือไม่สนใจที่จะตัดสินใจ ก็คือการเลือกตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ตัดสินใจ

นอกจากเชิดชูเสรีภาพแล้ว ซาร์ตร์ยังย้ำให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบ เพราะความเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเริ่มจากความว่างเปล่า เสรีภาพในการดำรงชีวิต สร้างตัวตนของเราขึ้นมา และการกระทำต่างๆของมนุษย์ล้วนเกิดจากการตัดสินใจของตัวเองทั้งสิ้น (ขอยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ – การเชื่อฟังและทำตามคำพ่อแม่ ซาร์ตร์ถือว่า เราตัดสินใจที่จะเชื่อฟังและทำตาม เรามีเสรีภาพที่จะปั้นแต่งชีวิตเราเองโดยไม่ยอมเชื่อฟังก็ได้) ดังนั้นมนุษย์จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อเรื่องราวของตนเองได้เลย

การกล่าวอ้างว่า ชีวิตมนุษย์เป็นทาสอารมณ์ความรู้สึกและสิ่งแวดล้อมต่างๆ หรือเป็นเรื่องของ”พรหมลิขิต” หรือ”ดวงดาว”ต่างๆนั้น เป็นการกล่าวแก้ตัวของคนที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเอง และต้องการให้สิ่งอื่นมาทำหน้าที่รับผิดชอบแทน ฯ

——

ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต่อเนื่องและน่าสนใจ ทั้งเรื่องเสรีภาพกับความรักและเซ็กส์ เสรีภาพกับจริยธรรม เสรีภาพกับสิ่งแวดล้อม ฯลฯ หากสนใจแนวคิดเอกซิสเตนเชียลลิสม์ - Existentialism เพิ่มเติมขอแนะนำให้ลองอ่าน “ปรัชญาชีวิตของ ฌอง-ปอล ซาร์ตร์” เรียบเรียงโดย พินิจ รัตนกุล 216 หน้า สำนักพิมพ์สามัญชน

ก่อนจบขอยกเอาความตอนที่กล่าวถึง เสรีภาพกับวรรณกรรมสักหน่อย..

ซาร์ตร์เขียนไว้ว่า.. การเขียนหนังสือเป็นงานประเภทหนึ่งของมนุษย์ที่มีผลกระทบต่อผู้อื่น ดังนั้นจึงต้องเป็นงานที่มีความรับผิดชอบเจืออยู่ด้วย ผู้เขียนไม่ควรคิดว่าผลงานตนจะผ่านสายตาผู้อื่นเป็นจำนวนน้อย เพราะความคิดเช่นนี้จะทำให้ผู้เขียนไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเขียน ฯ

เห็นด้วยไหมครับ? ยุคสมัยไซเบอร์เช่นทุกวันนี้ การเขียนอะไรก็ตามบนเน็ต ข้อความนั้นอาจดำรงอยู่ตลอดไปได้ง่ายๆ คนเขียนหนังสืออาจตายไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาเขียนไว้ ถูกตราไว้บนโลกและไม่ได้ตายจากไปด้วย ดังนั้นการรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเขียน จึงเป็นสิ่งสำคัญมากฯ

บล็อกเกอร์ทุกคนจึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของตนเองให้มากนะครับ

หมายเลขบันทึก: 156596เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2007 05:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เห็นด้วยขอรับกับการที่ต้องตระหนักและรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราเขียนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

.. อย่างที่หลายคนยืนยัน ระดับความรับผิดชอบ ความสำนึกของแต่ละคนต่างกัน มุมมองต่างกัน อารมณ์ความรู้สึกขณะเขียนก็ย่อม แตกต่างกันไป

... บทความที่เขียนออกไป เมื่อผ่านคืนวัน และได้ย้อนกลับไปดู ก็จะพบเรื่องราวของวันวาน ให้อาจจดจำได้ว่า ณ เวลานั้นเราคิดอะไร มีอารมณ์แบบไหน

... ในแนวคิดของ ฌอง-ปอล ซาร์ตร์ (ซึ่งไม่เคยรู้จัก~ต้องขออภัย) ตามที่ได้กล่าวไว้ในเนื้อหาของบทความนี้ เป็นการสะท้อนมุมมองต่อวิถีทางของมนุษย์ในด้านหนึ่งโดยเฉพาะ มนุษย์อาจไม่ได้ตระหนักรู้ในทุกเรื่อง และไม่ได้พยายามค้นหาพัฒนาตัวตนกันทุกคน
   กรอบ ระเบียบ สังคม ที่มนุษย์ต่างพยายามสร้างขึ้นเพื่อกำหนดวิถีทางของมนุษย์โดยรวม มีผลกระทบต่อพฤติกรรมของมนุษย์บางส่วนในขณะนั้น ๆ อย่างมาก การให้คน ๆ นั้นรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง เป็นเพียงการผลักภาระโดยตรงให้กับคนเพียงคนเดียว แต่ในความเป็นจริงสังคมย่อมประกอบด้วยหลายส่วนเชื่อมโยงกัน เราจึงต้องร่วมรับผิดชอบต่อการกระทำของผู้อื่นด้วย โดยเฉพาะหากเราเป็นผู้กำหนดบทบาท หรือตรากฎของสังคมขึ้นมา

... เสรีภาพอาจเป็นสิ่งมนุษย์ต้องการ โดยเฉพาะเมื่อถูกกังขังหน่วงเหนี่ยว ถูกใช้แรงงานในระบบทาส ถูกบงการและอยู่ภายได้เงื่อนไขที่ผู้อื่นเป็นเจ้าชีวิต ซึ่งการอ้างถึงเสรีภาพและความเสมอภาคอย่างไม่ถูกปิดกั้น พึ่งได้เกิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่สิบปีนี่เอง

... เนื้อแท้ของเสรีภาพเป็นอย่างไร เรากล่าวถึงเสรีภาพกันในรูปแบบไหน เช่น เราให้เสรีภาพแก่มนุษย์โดยเท่าเทียม มีกฎหมายลงโทษการทำร้าย ฆ่าคน และค้ามนุษย์ แต่เรากักขังสัตว์ต่าง ๆ รวมถึงเพาะพันธุ์ เลี้ยงและอาจฆ่าด้วยเหตุผลแห่งความจำเป็นมากมาย นั่นคงเพราะมนุษย์แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น และมีอำนาจทางความคิดที่เหนือกว่าทุกสิ่งบนโลกนี้ (หละมั้ง)

... เอวังขอจบไว้ด้วยประการฉะนี้ก่อน .. 

ขอบคุณที่แวะมาเยือนครับคุณเขียวฯ

แนว คิดของซาร์ตร์ เป็นรูปแบบของวิธีคิดแบบไม่ประนีประนอมกับชีวิตรูปแบบหนึ่งครับ ผมมองว่าเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ แม้จะทำให้ชีวิตออกจะตึงเครียดและไร้สุขไปมาก เขาเสนอให้มนุษย์"ทุกคน"รับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง (ซึ่งเขาก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้) ดังนั้นการร่วมรับผิดชอบต่อการกระทำของผู้อื่นจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป

เช่นเดียวกันครับ แนวคิดของคุณเขียวฯก็น่าสนใจไม่ต่างกัน หากมองในมุมนั้น

ยินดีที่ได้รู้จักกันครับ

คนที่ไหน? "รา-ชา-บุ-รี"

"มนุษย์มิใช่อะไรอื่น นอกจากผลผลิตของตัวเอง"

"มนุษย์เหมือนคนเขียนรูป และเป็นรูปเขียนนั้น"

"มนุษย์เป็นอะไรไม่ได้ นอกจากมนุษย์"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท