“ วันหนึ่งใน…ฤดูหนาว ”
พูดถึงเรื่องส่งท้ายปี ก็หนีไม่พ้นเรื่องการหยุดพักผ่อนยาว หยุดงาน การเดินทางกลับบ้านไปหาคุณพ่อคุณแม่ กลับไปหาญาติผู้ใหญ่ และฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ งานเลี้ยงสังสรรค์ เคาท์ดาวน์ นับถอยหลังสู่วันขึ้นปีใหม่ เป็นต้น
สถานที่ ที่ผมมาเที่ยวในช่วงปลายเดือนธันวาคมส่งท้ายปี ผมไปเที่ยวที่งานถนนเด็กเดินที่กระทู้สถานที่จัดงานตั้งอยู่กลางถนนเลย ตรงแยกเก็ตโฮ่ เลยไฟแดงไปนิดเดียวชื่องาน “ถนนเด็กเดิน” แต่ไม่ใช่มีแค่เด็กหรอกที่มาเดิน มีประชาชน วัยรุ่นหนุ่มสาว มีนักเรียนนักศึกษามาเดินกันเพียบ ! แหมๆๆ ซึ่งในงานมีของขายเยอะแยะมากมาย มีการละเล่นพื้นบ้าน แจกของรางวัลมีกิจกรรมจากทางชาวบ้าน จากทางโรงเรียน จากหน่วยงานของเทศบาลมาให้ความสนุกสนานกับผู้ที่มาเที่ยวชมในงาน มีเวทีประกวดนักร้อง นักดนตรีไม่ว่ารุ่นเด็กเล็กๆมีเปิดเพลงแล้วออกมาเต้นดูแล้วน่ารักจริงๆ หรือจะมาแนว สตริงของวัยรุ่นๆ รวมไปถึงรุ่นคุณลุงคุณป้า ที่ออกมาร้องเพลง และรำวงกันหน้าเวที ฮ่าๆ ส่วนตัวผม พอดีเพื่อนชวนให้ไปเล่นดนตรีที่งานนี้ซะด้วย เลยถือโอกาสมาเที่ยวซะเลย ^^
พูดถึงงานถนนเด็กเดินนี้นะครับ วัดที่จัด ตั้งแต่วันที่ 19-21 ธันวาคม 2556 งานเริ่มตั้งแต่เย็นๆ แดดเบาๆก็มาเดินเล่นกันได้แล้ว ยาวจนถึงเที่ยงคืนเลย ความยาวของงานเกือบๆ500เมตรได้ แต่ความคิดเห็นส่วนตัว งานถนนเด็กเดินจัดงานอยู่กลางถนน ซึ่งแบ่งคนละซีกถนน (มีรถวิ่งเลนเดียว) ในงานมีคนเดินอยู่ รถก็วิ่งไป-มา ผู้ดูแลความปลอดภัยมี แต่น้อย ความปลอดภัยไม่ค่อยเต็มร้อย แต่ส่วนกิจกรรมในงานผมชอบมาก เพราะมีเวทีให้สามารถขึ้นไปโชว์ความสามารถของเราทุกคนให้คนอื่นๆได้รับรู้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย มีการละเล่นพื้นบ้านไทยก็ช่วยให้รักษาความเป็นไทยไว้ มีของกินอร่อย โดยรวมงาน ถนนเด็กเดิน ผมให้ผ่านครับ ^^
ส่วนเคาท์ดาววันขึ้นปีใหม่ ผมเองไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน อยู่บ้านครับ กินที่บ้าน ฮ่าๆ
ที่กินที่เที่ยวในรอบๆมหาลัย
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นมหาลัยที่สวยงามบรรยากาศดีร่มรื่น มีต้นไม้ มีสนามหญ่า มีวงเวียนที่ใหญ่คือหัวใจของมหาลัย มีนกร้องบนต้นไม้ลมพัดมาทีเย็นชื่นใจกันเลยทีเดียว
ในมหาลัยราชภัฏมีร้านอาหารและไปนั่งทานอาหารกันอยู่บ่อยๆเป็นประจำ คือร้านเชลซีตั้งอยู่ที่8เหลี่ยมสถานที่ชื่อ8เหลี่ยมเพราะว่ามันมี8มุม 8ทิศ ในแต่ละมุมก็จะมีเป็นร้านขายข้าว ขายขนม น้ำเป็นต้นร้าน8เหลี่ยมมีอาหารที่อร่อยและราคาถูกราคากับข้าว1-2อย่างอยู่ที่ราวๆ25-30บาทตอนพักหลังจากเลิกเรียนเสร็จแล้วนักศึกษาต่างก้พากันมากินข้าวกันที่8เหลี่ยมโต๊ะบางวันไม่พอพวกผมกับเพื่อนๆพอสั่งอาหารเสร็จก็จะเดินออกมาทานข้างนอกเยื้องสนามฟุตซอล มีโต๊ะกินข้าวมีหลังคา2-3โต๊ะใหญ่พวกผมเลยถือเป็นโต๊ะกินข้าวประจำไปแล้วเมื่อกินเสร็จก็จะมานั่งโม้กันหรือไม่ก็นั่งทำงานทำการบ้านเปิดเพลงนั่งคุยกัน บริเวร8เหลี่ยมจะมีนกเยอะแยะมากมาย มีหลายชนิดด้วย มีนกพิราบ นกเขา นกเอี้ยง นกกระจอกพอพวกผมกินข้าวเหลือก็จะโยนให้พวกนก นกนับสิบๆตัวลงมาแย่งกินกันหันไม่เห็นแล้วต้องอมยิ้มกันเลยทีเดียว
เมื่อใกล้ถึงเวลาเรียน พวกผมและเพื่อนกลุ่มอื่นๆ ก็จะมารวมตัวกันที่โต๊ะที่พวกผมกินข้าวกัน แล้วก็จะขับรถไปพร้อมๆกันพวกเราอยู่กันอย่างสนุกสนานทำอะไรไม่อายคนอื่นเลย ไม่สนว่าคนอื่นจะมองยังไงฮ่าๆนอกจากที่โต๊ะกินข้าวประจำแล้ว พวกผมก็มีอีกที่หนึ่งก็คือหน้าตึก5(ตึกอาคารเรียน วจก.)ตึก5มีต้นไม้เยอะมากมีไม้หินอ่อนให้นั่งมีบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังจากกินข้าวอิ่มๆ ก็จะมานอนพักนอนฟังเพลงเพื่อรอเข้าเรียนวิชาต่อไป
มหาลัยนี้เป็นเหมือนสถานที่ส่วนรวม มีห้องสมุดเข้ามาตากแอร์ อ่านหนังสือกันได้ส่วนประชาชนทั่วไปไม่จำเป็นต้องเป็นนักศึกษาก็สามารถเข้ามาได้ ส่วนสถานที่รอบๆมหาลัย ถ้าลงมาจาก4แยกถนนใหญ่จะมีร้านขายเสื้อผ้า ชุดนักศึกษาร้านถ่ายเอกสาร ปริ้นงาน แล้วก็มีเซเวนเล็กๆส่วนถ้าเข้าทางสามกองก่อนถึงทางเข้ามหาลัย จะมีภัตตาคารริมน้ำไทยวิลเลต ข้างทางจะมีพื้นที่สำหรับวิ่งออกกำลังกายได้จะเป็นทางเดินรอบๆ ตรงกลางจะเป็นบ่อเก็บน้ำ พอตกเย็นผู้คนมากมายต่างก็พากันมาออกกำลังกายกัน
และยังมีอีกหลายๆที่ในรอบๆมหาลัย ไม่ว่าจะเป็นข้างใน หรือว่าข้างนอกก็สุขสบายไม่แพ้กันเลย
ขอบคุณครับ
ไม่มีความเห็น
THE MIRROR
ชื่อตัวละคร หรือ คาแรคเตอร์ของผมคือ อุซึมากิ นารูโตะ ผู้แต่งคือ มามาชิ คิชิโมโต้ เป็นนักวาดการ์ตูน ของสำนักพิมพ์ ชูเอฉะ ประเทศญี่ปุ่น
นารูโตะ เมื่อตอนยังแบเบาะ มีปีศาจจิ้งจอกเก้าหางบุกโคโนะฮะ เพื่อปกป้องหมู่บ้านโคโนะฮะ โฮคาเงะ รุ่นที่ 4 จึงพลีชีพและกักตัวปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง(เคียวบิ) ไว้ในตัวของเขานารุโตะ เมื่อนารุโตะโตขึ้นมา ทีแรก ผู้คนในหมู่บ้านไม่ชอบนารุโตะเท่าไหร่นัก เพราะคิดว่าจิ้งจอกเก้าหางในร่างนารุโตะเป็นต้นเหตุให้ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 ต้องเสียชีวิต แต่นารุโตะก็ยังร่าเริง กวนโอ้ยชาวบ้านไปทั่ว โดยไม่ได้น้อยใจผู้คนในหมู่บ้าน และพยายามฝึกฝนวิชา โดยมีความฝันที่จะเป็นโฮคาเงะให้ได้ในอนาคต จนนารุโตะได้กลายเป็นกำลังสำคัญของหมู่บ้านในที่สุด
ลักษณะภายนอกเขาก็เป็นเหมือนเด็กผูชายธรรมดาคนนึง เขาเป็นคนร่าเริง มีน้ำใจ แต่ชอบแกล้งคน
เป็นคนกินเก่ง กินเยอะ เป็นคนรักเพื่อน รักครู รักอาจารย์
ความโดดเด่นของเขา จะเป็นคนขยัน คำไหนคำนั้น ทำอะไรที่ล้มเหลวหรือไม่ประสบความสำเร็จ เขาจะเป็นคนที่ปรับตัวเองใหม่เสมอ แต่ข้อเสียของเขาคือ จะทำอะไรไม่ค่อยคิด ใจร้อน วู่วาม
เหตุการณ์เรื่องราวที่ประทับใจ คือ ช่วงที่ นารูโตะ ไปตามตัวเพื่อนรัก[ซาซึเกะ] กลับมาจากแก้งชั่วร้ายที่จะมอบพลังให้กับซาซึเกะ ซาซึเกะเขาอยากจะเก่งกว่าพี่ของเขา และต้องการจะฆ่าพี่ของเขา เพราะพี่ของเขา ฆ่าทุกคนในครอบครัว ในตอนที่ซาซึเกะยังเด็ก ซาซึเกะเลยเต็มใจที่จะไปเพื่อให้ได้พลังนั้นมา
เหตุการณ์เรื่องราวที่ไม่ประทับใจ คือ ช่วงที่นารูโตะ เรียนหรือฝึกวิชา เพื่อนในแก้งไม่สามัครคีกัน เลยทำอะไรไม่ค่อยเพอเฟค แต่ถ้าสามัครคีกัน ทุกอย่าง จะลงตัวมาก
คำพูดที่น่าประทับใจ และน่าจดจำ คือ การที่จะทำอะไรให้สำเร็จแล้วต้องได้ คือคำไหนคำนั้น ต่อให้จะล้มกี่ครั้งก็ยังสู้ ไม่ท้อ ไม่ถอย “ อย่างที่นารูโตะบอก เราจะต้องเอาชนะให้ได้ ” ฮ่าๆ
สิ่งที่เหมือนกับนารูโตะ คือ ฝันให้ไกล ไปให้ถึง แต่ติดที่ว่า จะทำอะไรไม่ค่อยคิดวู่วามคิดตัดสินใจแล้วก็ตัดสินใจเลย แต่เมื่อผิดหวัง หรือล้มเหลวมา ก็จะปรับปรุ่งตัวเอง เสมอ เป็นคนรักเพื่อน กับเพื่อนมาก่อนเสมอ รักครู รักอาจารย์ เป็นคนร่าเริงแจ่มใส ชอบแกล้งเพื่อนแกล้งคน เฮฮาตลอด ความแตกต่าง นารูโตะเป็นคนใจร้อน ส่วนผมเป็นคนใจเย็น
ผมหล่อมากๆคับ