ดอกไม้


อิรฟัล สะมะแอ
เขียนเมื่อ

อนุทินประจำสัปดาห์ที่ 7 วันที่ 29 มิถุนายน 2556

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน

ผ่านไป 7 สัปดาห์แล้วกับการฝึกสอนที่โรงเรียนสตรีภูเก็ต มีบุคคลอยู่ท่านหนึ่งที่คอยให้กำลังใจผมตลอดมา คือ คุณแม่ผู้เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว ผมอยากบอกแม่ว่ากำลังใจจากแม่สำคัญมากสำหรับผมแต่ไม่ต้องห่วงครับทุกอย่างราบรื่น

ถึงแม้ในการสอนอาจมีปัญหาบ้าง การจะทำความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของนักเรียน ม.3 บางทีเราคงต้องนึกย้อนกลับไปตอนเราอยู่ในช่วงนั้น อยู่ในห้องๆหนึ่งที่กำลังเรียนวิทยาศาสตร์อยู่ แต่พอนึกย้อนไป ผมรู้สึกว่าตอนนั้นผมชอบเรียนวิทยาศาสตร์นะ แต่การจะทำความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของนักเรียนที่ไม่ชอบวิทยาศาสตร์ผมคิดว่าบางทีเราอาจทำความเข้าใจได้ถึงจะเข้าใจได้ไม่หมดก็ตาม บางทีผมอาจทำให้เด็กๆกลุ่มนี้ชอบวิทยาศาสตร์ขึ้นมาก็ได้

กับอาจารย์บางท่านผมก็พยายามทำความเข้าใจท่านอยู่ ในบางเรื่องผมไม่เข้าใจท่าน บางเรื่องท่านก็ไม่เข้าใจผม ถึงจะยากแต่ผมเชื่อว่าเราสามารถทำความเข้าใจกันได้เหมือนที่เราเข้าใจเรื่องทฤษฏีสัมพันธภาพ และผมเชื่อว่าซักวันจะเข้าใจกันดังคำกล่าวที่ว่า ทุกขอบเจตประสานเข้ากันได้ รอการหลอมรวมเป็นหนึ่ง สิ่งหนึ่งอาจหลอมรวมกับอีกสิ่งหนึ่งได้ หากอีกสิ่งหนึ่งเข้าใจถึงการกระทำนั้น

ด้วยความช่วยเหลือจากพระองค์ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดี อินซาอัลลอฮ 


5
0
ยาวีร่า เหมเส็ม
เขียนเมื่อ

       อยากเติบโตมาเป็นครูที่ดี.. อยากเป็นครูที่มีความพร้อมทั้งกาย วาจา ใจที่ต้องการให้ศิษย์ได้ดี.. ไม่อยากให้ใครมาว่าครูว่าไม่ดี.. เพราะครูทุกคนมีพระคุณกับเรา.. เปรียบเสมือนแม่คนที่2 ของเรา.. โลกที่เปลี่ยนไปทำให้ใครหลายคนมองว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่ต้อยต่ำ.. เงินเดือนน้อย.. แต่ความจริงแล้วอาชีพครูเป็นอาชีพที่ประเสริฐที่่สุด.. ครูทุกคนมีความเสียสละ มความเมตตา.. ครูสอนคนให้เป็นคน !!

                          

6
0
คุณมะเดื่อ
เขียนเมื่อ

วันนี้ วันจันทร์ วันแรกของสัปดาห์  คุณมะเดื่อสอน ป.4  ป. 5  ป.6 คนเดียว 3  ชั้น ค่อนวัน เพราะครู อีก 2 

คน ติดอบรม  อีกคนไปราชการ.....สอนทั้งภาษาไทย  ศิลปะ  และนาฏศิลป์  เดินเข้าห้องนี้  ออกห้องนั้น 

เพิ่งได้นั่งพักขานี่แหละ  ....  รู้สึกตัวเลยว่า..."ชราภาพ "  ยิ่งแล้ว...หนอคุณมะเดื่อ

5
3
อิรฟัล สะมะแอ
เขียนเมื่อ

อนุทินประจำสัปดาห์ที่ 5 วันที่ 16 มิถุนายน 2556

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน

สัปดาห์ที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็เข้าเนื้อเรื่อง “แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา” ก็อาศัยการให้นักเรียนผลักโต๊ะบ้าง ดึงตาชั่งสปริงบ้าง ดึงถุงทรายบ้าง เพื่อทำความเข้าใจและทดสอบคุณสมบัติของแรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่ก็เข้าใจในเนื้อหาแต่มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ตั้งใจเรียน ทำกิจกรรมแบบผ่านๆ พอถึงขั้นตรวจสอบความเข้าใจ ผมให้ทุกกลุ่มในห้อง วิเคราะห์ว่าในชีวิตประจำวันหรือสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเรา เหตุการณ์ใดบ้างที่ทำให้เกิดแรงคู่กิริยา-ปฏิกิริยา ปรากฏว่ากลุ่มนี้ไม่สามารถตอบได้ ทั้งๆที่ สมุด ปากกาที่วางไว้บนโต๊ะก็เกิดแรงคู่กิริยา-ปฏิกิริยาแล้ว แม้กระทั้งก้นตัวเองที่วางไว้บนเก้าอี้ก็เกิดแรงคู่กิริยา-ปฏิกิริยา เช่นกัน แต่กลุ่มนี้ไม่สามารถตอบได้ สร้างความลำบากใจและความรู้สึกที่ไม่ดีให้กับผมเป็นอย่างมาก

หัวหน้ากลุ่มสาระเดินผ่านมาพอดีเลยเข้ามาในห้อง แล้วให้นักเรียนกลุ่มนั้นยกมือขึ้นแล้วตีโต๊ะตัวเอง แล้วถามว่าตอนเราตีโต๊ะเราใส่แรงเข้าไปหรือไม่ นักเรียนก็ตอบว่าใส่ ซึ่งแรงนั้นเกิดจากที่เราแสดงกิริยาออกไปคือการตี แสดงว่านั้นคือแรงอะไร นักเรียนก็ตอบว่า แรงกิริยา จากนั้นก็ตีโต๊ะอีกที แล้วถามว่าเจ็บมั้ย นักเรียนตอบเสียงดังเลยตอบว่า เจ็บ งั้นแสดงว่าโต๊ะก็มีแรงกระทำกับมือเราเหมือนกันซึ่งแรงนั้นก็คือแรง นักเรียนก็ตอบว่า แรงปฏิกิริยา แล้วก็ถามนักเรียนกลุ่มนั้นว่าเข้าใจหรือไม่ หากไม่ก็ตีโต๊ะอีกครั้ง และก็ตีโต๊ะอีกหลายๆครั้ง จนกว่าจะเข้าใจคุณสมบัติของแรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา ว่าเกิด ณ จุดๆนั้น มีขนาดเท่ากันแต่ทิศทางสวนทางกัน และเกิดกับวัตถุคนละก้อนกัน โดยทุกครั้งครูเขาก็ลงมือตีโต๊ะด้วยทุกครั้ง เป็นการลงโทษเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ผมคงต้องลองใช้บ้างแล้วสิ ^^

ภาพกิจกรรมในสัปดาห์นี้




3
0
อิรฟัล สะมะแอ
เขียนเมื่อ

อนุทินประจำสัปดาห์ที่ 4 วันที่ 09 มิถุนายน 2556

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน

สัปดาห์ที่ 4 ก็เข้าเนื้อหาส่วนของ “ผลของแรงที่ทำให้วัตถุเคลื่อนที่แบบต่างๆ” ในการจัดการเรียนรู้นั้นผมได้ดำเนินเรื่อง เป็น short story โดยในเรื่องราวนั้นมีผมเป็นพระเอก ^^ มี darling มีตัวร้าย และมีลูกแอบเปิ้ล เรียกความสนใจได้ดีเชียวล่ะ ซึ่งในเรื่องราวแต่ละส่วนก็จะมีการเคลื่อนที่อยู่ 1 แบบ พอเรื่องราวดำเนินไปจนครบ 3 ส่วน ก็จะมีรูปแบบการเคลื่อนที่ใหญ่ๆ อยู่ 3 แบบ คือ การเคลื่อนที่แบบเส้นตรง การเคลื่อนที่แบบเส้นโค้งหรือโพรเจกไทล์ และการเคลื่อนที่แบบวงกลม ซึ่งสามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีก จากนั้นก็มาอภิปรายและสรุปร่วมกันถึงการเคลื่อนที่ของวัตถุที่เกิดขึ้นในเรื่องราวที่ดำเนินไป

ถือเป็นการจัดการเรียนรู้ที่สนุกไปอีกแบบ เพราะเรื่องราวที่ดำเนินไป ไม่ใช่ครูไม่ใช่ผมที่เป็นผู้ดำเนินเรื่อง แต่เป็นผู้เรียนที่ช่วยกันแต่งเติมจินตนาการ ผมเป็นแค่ตัวสื่อกลางที่คอยนำจินตนาการของเด็กๆออกมาเป็นภาพวาด เพื่อให้เกิดเป็นเรื่องราวหนึ่งขึ้นมา (ยอมรับว่าฝีมือการวาดภาพของผมกากมาก) ผู้เรียนก็จะมีนิทานของตัวเองเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเรื่องซึ่งมีสาระเรื่องการเคลื่อนที่แบบต่างๆ ครบถ้วน ซึ่งนอกจากสนุกแล้ว ผู้เรียนยังได้รับความรู้ที่คงทนอีกด้วย

นักเรียนที่ผมสอน มี 3ห้องที่เข้าใจในบทเรียน แต่มีอยู่ 1ห้องที่ไม่เข้าใจ ผมต้องพยายามปรับปรุงตนเองให้มากกว่านี้ แต่สำหรับสัปดาห์นี้ก็ผ่านได้ด้วยดี “อัลฮัมดูลิลลาฮ”


4
0
อิรฟัล สะมะแอ
เขียนเมื่อ

อนุทินประจำสัปดาห์ที่ 3 วันที่ 02 มิถุนายน 2556

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน

สัปดาห์ที่ 3 เป็นการสรุปจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ผู้เรียนเข้าใจเกี่ยวกับผลของแรงลัพธ์กับการเคลื่อนที่ของวัตถุ การเคลื่อนที่แบบต่างๆ และสามารถคำนวณหาความเร็วเฉลี่ย อัตราเร็วเฉลี่ย ความเร่ง อัตราเร่ง ในการเคลื่อนที่แนวตรงได้

โดยในกระบวนการจัดการเรียนรู้ผมพยายามให้ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองโดยการทำกิจกรรมการทดลองและร่วมกันสรุปผล เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้ที่คงทนและไม่เบื่อหน่ายต่อการเรียนรู้ด้วยซึ่งผมพยายามให้ผู้เรียนเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์เข้ากับธรรมชาติหรือปรากฏการณ์ที่อยู่รอบๆตัว เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจถึงธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ว่าวิทยาศาสตร์คือสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา เราสามารถทำความเข้าใจได้ โดยใช้กระบวนการอย่างเป็นระบบ

ซึ่งในการจัดการเรียนรู้ก็มีปัญหา คือ ผู้เรียนขาดทักษะการใช้อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมเครื่องเคาะสัญญาณเวลา จึงทำให้ใช้ระยะเวลานานในการทำกิจกรรม ซึ่งผมก็แก้ไขโดยการให้ผู้เรียนที่มีทักษะในการใช้อุปกรณ์ช่วยแนะนำและช่วยเหลือเพื่อนๆ ภายในห้อง และเนื่องจากเวลาเหลือน้อยจึงพยายามสรุปร่วมกันให้กระชับโดยยังมีใจความสำคัญครบถ้วนเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้เรียนได้ศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเอง

หลังการสอนทุกครั้งก็ได้รับคำแนะนำ จากครูพี่เลี้ยงทุกครั้งเพื่อเป็นแนวทางให้ผมได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งในศาสตร์การสอน สุดท้ายแล้วสัปดาห์นี้ก็มีผ่านไปได้ด้วยดี “อัลฮัมดูลิลลาฮ”


6
0
อิรฟัล สะมะแอ
เขียนเมื่อ

อนุทินประจำสัปดาห์ที่ 2 วันที่ 26 พฤษภาคม 2556

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน

สัปดาห์ที่สองเป็นสัปดาห์ที่เริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง คาบแรกนั้น ผมสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3ห้อง6 อยากบอกว่า"เศร้า" เพราะผมจัดกิจกรรมการเรียนแล้วผู้เรียนไม่เข้าใจ ผู้เรียนไม่สามารถจับประเด็นใจความสำคัญได้ และผู้เรียนหลายๆกลุ่มไม่ให้ความร่วมมือ จนครูพี่เลี้ยงต้องเข้ามาช่วยกิจกรรมในบางส่วน แต่ผมก็สอนคายนี้จนหมดคาบ เมื่อหมดคาบครูพี่เลี้ยงก็ให้กำลังใจผมพร้อมแนะนำเทคนิควิธีการเพื่อพัฒนาตนเองต่อไป

คาบที่สองที่เข้าสอนเป็นห้องเดิม ผมใช้เทคนิคการให้คะแนนการให้ความร่วมมือในชั้นเรียน ไม่น่าเชื่อว่าได้ผล ผู้เรียนจากที่ไม่สนใจกลับแข่งกันยกมือตอบคำถามและแข่งกันออกมาเขียนบนกระดาน เมื่อเป็นเช่นนี้ผมเลยให้ผู้เรียนทำการทดลองเพื่อศึกษาความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุที่ตกอย่างอิสระ ผ้เรียนต่างก็ให้ความร่มมือเป็นอย่างดี จึงสามารถสรุปเนื้อหา ใจความสำคัญของเรื่องที่เรียนรู้ได้จากการลงมือหาคำตอบเอง ทำให้ข้อมูลที่ได้มีความคงทนมากขึ้น ครูพี่เลี่ยงคนสวยก็ชมว่าสอนดีขึ้นน่ะ ^^ แต่ผมก็ได้ถามข้อบกพร่องในการสอนของผมและขอคำแนะนำจากท่าน เพื่อเป็นข้อมูลให้ผมได้พัฒนาตนเองต่อไป สัปดาห์ที่ 2 ก็ผ่านไปด้วยดี "อัลฮัมดูลิลลาฮ"


2
0
อิรฟัล สะมะแอ
เขียนเมื่อ

อนุทินประจำสัปดาห์ที่ 1 วันที่ 18 พฤษภาคม 2556

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน

  อนุทินฉบับแรกกับการฝึกสอนที่โรงเรียนสตรีภูเก็ตสัปดาห์แรก ก่อนจะกล่าวอะไรคงต้องกล่าวประโยคนี้ก่อน “อัลฮัมดูลิลลาฮ” ที่ยังมีความแข็งแรงของร่างกาย และสติปัญญาที่ยังคงปกติ ทำให้ผมได้มีโอกาสฝึกสอนและเขียนอนุทินฉบับนี้

  วันแรกของการฝึกสอน ณ โรงเรียนสตรีภูเก็ต เริ่มต้นจากการปฐมนิเทศโดยรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการเพื่อเป็นการให้กำลังใจและพูดถึงข้อตกลงต่างๆ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปตามกลุ่มสาระต่างๆ เพื่อแบ่งงานและหน้าที่ในการสอน ซึ่งผมรับหน้าที่สอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาวิทยาศาสตร์ (23101) จำนวน 6 คาบ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์จำนวน 2 คาบ และงานทั่วไปที่ต้องปฏิบัติ ในโรงเรียนรวมถึงการแต่งตั้งครูพี่เลี้ยง ซึ่งผมได้ครูพี่เลี้ยงจำนวน 3 ท่านด้วยกัน คือ อาจารย์พัชรีย์ เหลือนุ่นขาบ (วท.บ.) อาจารย์อรชา ชูเชื้อ (ค.ม.) และอาจารย์ประเสริฐ กนกผกา (ค.บ.) ซึ่งในการแบ่งงานนี้ หัวหน้ากลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ อาจารย์ละม้าย กิจอำไพพงศ์ (กศ.บ.) ได้แบ่งงานไว้เรียบร้อยแล้วจึงทำให้การแบ่งงานและแจกแจงหน้าที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ที่เหลือก็เป็นการแนะนำตัว ทำความรู้จักกับครู และศึกษางานต่างๆ ตลอดจนช่วยงานทั่วไปในห้องกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ เช่น ทำบอร์ทตารางสอนกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ทำความสะอาดชั้นวางหนังสือ ติดชื่อสารเคมีในห้องปฏิบัติการ จัดอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการ และช่วยจัดห้องปฏิบัติการเป็นต้น

  ครูกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ที่นี่ใจดีทุกคน พร้อมที่จะให้คำปรึกษา เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น และอาจมีเรื่องกดดันและเครียดอยู่บ้าง แต่ผมถือว่าเป็นบททดสอบสำหรับผม ที่ผมต้องผ่านไปให้ได้ 

3
0
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท