อนุทินล่าสุด


วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๑๓. 'ความเชื่อถือและความวางใจครู' ต้นทุนที่เสียไปทุกครั้งเมื่อพูดถึงการปฏิรูปการศึกษา

เมื่อต้องการหาเหตุผลและแสดงความจำเป็นเพื่อปฏิรูปหรือพัฒนาการศึกษา | วงการศึกษา สื่อ และทรรศนะอย่างผู้สังเกตการณ์ ก็มักมุ่งการศึกษาเพื่อการแข่งขันมากกว่านึกถึงความสามารถครอบคลุมการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนส่วนใหญ่และการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อดำเนินชีวิตของพลเมือง | เมื่อหยิบยกปัญหาครูมากล่าวถึงก็มักสร้างภาพครูที่เป็นสัญลักษณ์คนไม่เก่ง คนไม่มีทางไป ขณะที่ชนบทและแหล่งกันดารมีครูไม่เพียงพอ | ทุ่มทรัพยากรพัฒนาความเก่งเพื่อคนส่วนน้อยที่ไม่มีแรงจูงใจอุทิศตนเพื่อเป็นครู | กระบวนการดังกล่าวน่าพิจารณาให้มากว่าเป็นการทำลายต้นทุนที่สำคัญที่สุดหรือไม่ คือ ความเชื่อถือและความไว้วางใจต่อครู ซึ่งหากขาดสิ่งนี้แล้ว ก็จะทำให้การปฏิรูปการศึกษาต้องทุ่มเททรัพยากรและเกิดความสูญเปล่ามหาศาล เพราะการขาดทุนทางสังคมอย่างนี้จะทำให้สังคมขาดพลังการปฏิบัติด้วยจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นต้นทุนที่ประมาณค่ามิได้.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๑๒. ๑๐๐ ปี มีคนเดียว : อาจารย์กรุณา กุศลาสัย

อาจารย์กรุณา กุศลาสัย ชื่อเดิม กิมฮง เกิดในเรือกระแชงในแม่น้ำเจ้าพระยา ปากน้ำโพ นครสวรรค์ บิดาถูกตำรวจกลั่นแกล้งจับข้อหาใช้ธนบัตรปลอมต้องติดคุกและทำให้กิจการล้มละลาย แม่จึงตรอมใจจนเสียชีวิต จึงกำพร้าแต่เด็ก | อายุ ๑๓ ขวบ พระโลกนาถ ชาวอิตาลีเชื้อสายอเมริกัน ศรัทธาบวชในพุทธศาสนา ทำโครงการสร้างสามเณรใจสิงห์เพื่อจะเผยแผ่พุุทธศาสนาไปทั่วโลก รวมคนบวชและเดินไปอินเดีย ๒๐๐ คน เหลือเณรองค์เดียวคืออาจารย์กรุณา | เป็นเลิศในภาษาและงานวรรณกรรมอินเดีย แปลงานวรรณกรรมและภูมิปัญญาระดับโลกของอินเดียให้สังคมไทยมากกว่า ๒๐ เรื่อง เป็นผู้สร้างความสัมพันธ์ไทยอินเดีย ทำงานใต้ดินสานสัมพันธ์ไทย-จีน แต่ถูกจับติดคุก ๘ ปี อาจารย์เรืองอุไร กุศลาสัย คอยส่งข้าวน้ำ ทำให้อาจารย์บอกว่าท่านต้องกตัญญูต่อภรรยา | อาจารย์เรืองอุไร ทำงานต้นฉบับให้อาจารย์กรุณาจนสายตามองไม่เห็น และทำด้วยความศรัทธาต่ออาจารย์กรุณาอย่างสูง.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๑๑. บทเรียนชีวิตจากการรำลึกถึงอาจารย์กรุณา กุศลาสัย

อาทิตย์ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๒ ไปร่วมงานรำลึก ๕๐ วันมรณกรรมของอาจารย์กรุณา กุศลาสัย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ | มีการขับเสภาและอ่านกลอนรำลึกอาจารย์ | ปาฐกถาโดยพระ ว.วชิรเมธี | เสวนาโดย ดร.ไชยวัฒน์ สถาอานันท์  ชมัยพร แสงกระจ่าง และ ดร.ประมวล เพ็งจันทร์ | พระคุณเจ้า ว.วชิรเมธี มองบทเรียนชีวิตอาจารย์กรุณา ๕ มิติ คือ ผู้เรียนรู้โดยถือความทุกข์เป็นความจริงอันประเสริฐ ผู้มีกัลยาณมิตรอันประเสริฐ  มีทรรศนะมองโลกเชิงบวก  การเป็นผู้มีทั้งภูมิรู้และภูมิธรรม  ความเป็นบุรุษอาชาไนยที่อ่อนน้อมถ่อมตน | เป็นการวิเคราะห์และถอดบทเรียนที่ลึกซึ้ง เชื่อมโยง เห็นทรรศนะที่กว้างขวางมาก | บุตรีของอาจารย์กรุณาเป็นทันตแพทย์ ขับเสภาและอ่านทำนองเสนาะมีพลังมาก.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๑๐. เลิกบุหรี่และสิ่งเสพติดอันตรายต่อสุขภาพ เป็นผลสืบเนื่องของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมก่อน

ผมลงไปเสริมศักยภาพการเรียนรู้ตนเองเป็นกลุ่มในแนวประชาคมของกลุ่มคนที่รวมตัวกันเป็นชมรมสร้างสุขภาพกับเครือข่ายชุมชนเพื่อให้เขาสามารถถอดบทเรียนและใช้บทเรียนที่มีมาก่อนยกระดับเข้าสู่ปฏิบัติการรณรงค์บุหรี่ วิธีการหนึ่งที่ชุมชนและการรวมกลุ่มของประชาชนทำคือค้นหาคนเลิกบุหรี่และเหล้าได้ บทเรียนของแต่ละคนแตกต่างกันไป บางคนเลิกได้เพราะทำให้แก่ลูก บางคนสะเทือนใจเพราะแม่ป่วยและดูแลแม่ไม่ได้เพราะติดเหล้าบุหรี่รุนแรงจนให้เลือดแม่ตนเองไม่ได้จึงเลิกเด็ดขาด บางคนเมียก็เปลี่ยนการหยาบคายก้าวร้าวต่อสามีและญาติสามี ตนเองเลยฉุกคิดอยากสร้างครอบครัวและเลิกได้ การเลิกบุหรี่แบบแผนหนึ่งจึงไม่ใช่ด้วยเหตุผลสุขภาพหรือการเรียนรู้เพื่อสร้างสุขภาพตนเอง ทว่า การเลิกบุหรี่ได้เป็นภาษาแสดงความรักต่อผู้อื่นที่ยิ่งใหญ่กว่ารักตนเองและเป็นผลจากมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมเกิดขึ้นก่อนเสมอ โครงสร้างและกระบวนการนี้สะท้อนสำนึกและจิตสาธารณะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๙. ประชาธิปไตยแบบกระบวนการสร้างฉันทามติ

การบรรพชาอุปสมบทพระ เป็นการแสดงตัวอย่างความเป็นสาธารณะโดยประชาธิปไตยแบบกระบวนการสร้างฉันทามติ ผู้เป็นนาคมีฐานะเป็นปัจเจกซึ่งเมื่อผ่านขั้นตอนบวชแล้วจะเปลี่ยนผ่านสถานภาพเป็นคนของส่วนรวม ทำหน้าที่ต่อส่วนรวมและชุมชนสามารถใช้ได้เท่ากันหมด ทุกขั้นตอนและทุกกระบวนการเป็นกระบวนการเรียนรู้แบบเสริมพลังเพื่อให้ทุกคนไปด้วยกัน จะมีการถาม มีการประกาศท่ามกลางหมู่คณะหลายครั้ง ก่อนจะลงมติจะให้ชุมนุมชนและหมู่คณะที่เป็นผู้นำแบบกลุ่มก้อนได้มีโอกาสเสนอความเห็นหรือทักท้วง หากมีใครทักท้วงหรือแสดงอาการขัดข้องแม้คนเดียว ก็เริ่มกระบวนการใหม่หมด ไม่เพียงถือเสียงส่วนใหญ่ แต่มุ่งสร้างกระบวนการที่ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้และพร้อมที่จะไปด้วยกันจึงจะสรุปและลงฉันทามติ นับว่าเป็นการเรียนรู้เพื่อมุ่งสู่การสร้างความเท่าเทียมกัน-เสมอกันโดยธรรม เพื่ออยู่เป็นชุมชนด้วยกัน ร่วมทุกข์สุขไปด้วยกัน นั่นเอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๘. กระบวนการเรียนรู้ การสื่อสาร และวิถีเรียนรู้ ในบริบทใหม่ของสังคมโลก

หนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำของอเมริกามากกว่า ๑๐ รายการ สาขาการศึกษาที่ไม่ทำเงินทั้งอเมริกาและยุโรปแม้ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ กำลังดำเนินการไม่ได้, รูปแบบการดำเนินชีวิตทางเลือก วิถีสุขภาพ การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม การจัดองค์กรและการอยู่ด้วยกันเป็นชุมชนในทางเลือกใหม่ๆ เน้นผสมผสานองค์ประกอบความเป็นมนุษย์ ความเป็นธรรมชาติ ความกลมกลืนกับสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมดั้งเดิม, กระบวนการเรียนรู้ที่บูรณาการอยู่กับกิจกรรมชีวิต การสื่อสารและสร้างการไหลเวียนของข่าวสารความรู้ในวิถีชีวิตของปัจเจกและภาคประชาสังคม การปฏิสัมพันธ์เชิงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จะเป็นทางออกหนึ่งของประเทศกำลังพัฒนาในการพัฒนาการศึกษาเรียนรู้ของพลเมือง ให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิต เลือกสรรการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาพื้นฐานตนเองให้มีความสืบเนื่อง บูรณาการและได้ความพอดีของกระแสโลกาภิวัตน์กับกระแสท้องถิ่นนิยม

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๗. เปลี่ยนห้องเรียนและการสอนเป็นเวทีเรียนรู้และพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการ ต้องเพิ่มบทบาทเป็นผู้กำกับเวทีและสร้างบรรยากาศทางวิชาการเพื่อการเรียนรู้

ผมสอนวิชาที่ต้องผสมผสานมิติสังคมเข้ากับวิทยาศาสตร์สุขภาพให้กับนักศึกษาปริญญาโทนานาชาติ และคุยกับศาสตราจารย์ที่เป็นพี่เลี้ยงกับทีมแล้วผมคิดว่าวิชานี้ให้สอนความรู้จะไม่พอ ต้องให้เขารู้และเข้าถึงด้วยวิธีการสร้างความรู้ขึ้นจากฐานประสบการณ์ตนเอง จึงนำเอางานวิจัยที่ทำและประสบการณ์สนามมาเป็นทำกรอบให้นักศึกษาค้นคว้าแล้วนำเสนอเพื่ออภิปรายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนนานาชาติให้หลากหลาย มีทีมอาจารย์ประกบเป็นทีม นักศึกษาแสดงออกทางวิชาการดีแต่มักเกิดการถกอภิปรายออกไปเกินความเป็นวิชาการ ซึ่งมักเกิดจากการเผลอโน้มน้าวในเรื่องที่ตนสนใจและการมีประสบการณ์กับการอ่านศึกษาค้นคว้าในกรอบที่แตกต่างกัน ทำให้ปะทะกันทางความคิด การปรับตนเองจากผู้สอนให้เป็นผู้กำกับเวทีและสามารถดึงประเด็นกลับสู่แง่มุมที่เป็นวิชาการ จะทำให้ห้องเรียนไม่ล่มและสนุก.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๖. การแก้ปัญหาและวิถีพัฒนาสังคม ต้องด้วยกระบวนการเชิงสังคม

ที่ประเทศญี่ปุ่น พรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่น ชนะการเลือกตั้งพรรคอนุรักษ์อย่างเด็ดขาด พรรคอนุรักษ์เป็นรัฐบาลมายาวนานกว่า ๕๐ ปี เป็นตัวตนของญี่ปุ่นในการเป็นผู้นำโลกหลังล่มสลายจากสงครามโลกครั้งที่ ๒ พรรค DPJ เป็นพรรคใหม่และเคยเป็นแต่ฝ่ายค้าน บ่งบอกถึงภาวะของโลกที่สังคมญี่ปุ่นเดินด้วยอารมณ์และความรู้สึกมากกว่าดำเนินไปด้วยเหตุผล ในสังคมไทย หากเหตุผลจากความรู้อย่างเดียวนำการเปลี่ยนแปลงได้ โรงเรียนและโรงพยาบาล ชุมชน และสิ่งสาธารณะในชนบท ควรจะได้ทรัพยากรและโอกาสการพัฒนามากกว่าในกรุงทพฯและเมืองศูนย์กลางในภาคต่างๆ แต่ความเป็นจริงหาได้เป็นเช่นนั้น ดังนั้น การสร้างการเรียนรู้และพัฒนาสังคม ต้องกอปรด้วยการสร้างทั้งพลังสมองและหัวใจให้สมดุล เพื่อการทุกข์ร้อนและความรู้สึกร่วมทุกข์สุขด้วยหัวใจ จะได้โน้มนำสมองและพลังความรู้ไปสู่สังคมอย่างที่พึงประสงค์มากขึ้น.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๕. สังคมไทยจะมีพลังทางปัญญา หากงานความรู้ของนักวิชาการลดพิธีกรรม และชาวบ้านกับนักกิจกรรมยกระดับด้านความเป็นวิชาการมากขึ้น

๑๕ กันยายน ๒๕๒๒ ผมไปร่วมงานตลาดนัดความรู้ของเครือข่ายทำงานสุขภาพเชิงพื้นที่ ในพื้นที่การทำงานของ สคร ๔ ราชบุรี และได้ร่วมเป็นกรรมการพิจารณาบูธการนำเสนอผลงาน ๒๓ บูธ  หน่วนงานที่ทำมีหลายลักษณะ ทั้งหน่วยงาน โรงพยาบาล โรงเรียน การรวมกลุ่มแบบจิตอาสา เครือข่าย คลัสเตอร์ ตั้งแต่ระดับชุมชนอำเภอ เทศบาล  อบต ไปจนถึงระดับจังหวัด ทุกบูธมีความริเริ่มและแปรการทำงานสุขภาพกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตไปสู่การพัฒนาเครือข่ายการจัดการตนเองในระดับพื้นที่ รวมทั้งมีการพัฒนานวัตกรรมที่ดีมากมาย แต่ส่วนใหญ่กลับไม่สามารถถ่ายทอดและนำเสนอแนวคิดกับองค์ความรู้ที่เป็นหัวใจกับบทเรียนของคนทำออกมาได้ ไม่สามารถสร้างความรู้และถอดบทเรียนขึ้นมาจากการปฏิบัติของตนเอง เมื่อเปิดประเด็นให้และเชื่อมโยงแนวคิดให้ก็จะสามารถบรรยายและแจกแจงได้หมดจรด สังคมต้องพัฒนางานความรู้ที่ผสมผสานกันให้ได้ระหว่างพิธีกรรมของภาคความรู้กับวิถีปฏิบัติของชาวบ้าน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๔. กิจกรรมที่ได้ปฏิบัติและเรียนรู้เชื่อมโยงกับการดำรงชีพ คนและชุมชนจะเติบโตงอกงามอย่างบูรณาการ

๑๕ กันยายน ๒๕๕๒ ผมไปร่วมเป็นกรรมการประกวดการจัดบูธงานตลาดนัดความรู้ของสำนักงานควบคุมและป้องกันโรค เขต ๔ ราชบุรี ที่บูธของโรงพยาบาลอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ได้นำเสนอศูนย์การเรียนรู้อย่างบูรณาการ มีกิจกรรมนำการปฏิบัติและเรียนรู้การจัดการสุขภาพหลายเรื่อง เรื่องหนึ่งคือค่ายมวยเด็ก ร่วมกันทำโดยโรงพยาบาล โรงเรียน ชุมชน และเอกชนท้องถิ่น ครูมวยเป็นนักรังสีเทคนิคในห้องปฏิบัติการตรวจวินิจฉัยของโรงพยาบาลอำเภอดำเนินสะดวกซึ่งได้รับใบประกาศนียบัตรครูกีฬาจาก กทท ด้วย นักมวยเด็กมีทั้งเด็กหญิงชาย แข็งแกร่ง เป็นมวย บุคลิกนอบน้อม องอาจ และแข็งแกร่ง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๓. ๒๕๕๒ หนังสือสานแสงอรุณยุติการทำเผยแพร่

 

หนังสือสานแสงอรุณแจ้งแก่ผู้อ่านและสมาชิกว่าจะดำเนินการอีก ๓ ฉบับแล้วจะยุติการทำขึ้นเผยแพร่ หนังสือสานแสงอรุณเป็นหนังสือทางเลือกเพื่อการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ ศิลปะ ละคร เพื่อเข้าถึงสุนทรียภาพและดุลยภาพแห่งชีวิต หนังสือ Reader Digest ของอเมริกาซึ่งทรงอิทธิพลต่อวงการหนังสือระดับโลก ก็กำลังจะดำเนินการไม่ได้และต้องขอคุ้มครองจากรัฐบาล สังคมที่ไม่นิยมอ่านและเขียนหนังสือ กำลังเกิดขึ้น-ขยายตัวทั่วโลก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๒. ดนตรีเพื่อสุขภาวะแห่งจิตวิญญาณ

พี่สาวท่านหนึ่ง เป็นคนที่ผมรักและเคารพนับถือมาก เป็นคนที่มีศรัทธามากทั้งต่อพระศาสนาและต่อผู้คนที่ทำสิ่วดีเพื่อส่วนรวม เป็นคนทำงานหนักและมีมาตรฐานสูงสำหรับการทำเพื่อผู้อื่นในขณะที่เบื้องหลังแล้ว ตนเองมีปัญหาทางสุขภาพมาก ผมเคยถามท่านเมื่อ ๑๐ กว่าปีก่อนว่าเป้าหมายสูงสุดของชีวิตพี่คืออะไร พี่เขาตอบผมว่า ก่อนละไปจากโลกนี้ ขอให้ชีวิตนี้ได้เข้าถึงธรรม

เมื่อต้นปีเป็นต้นมา พี่เขายิ่งวิกฤติทางสุขภาพอย่างหนัก เลยก็ยิ่งทุ่มเททำกิจกรรมต่างๆที่อยากฝากไว้ให้คนอื่นๆ แล้วก็บอกว่า หากเป็นอะไรไปก็ขออย่าได้มีพิธีกรรมมากมาย ไม่ต้องมีงานและสิ่งฟุ่มเฟือย ขอให้เก็บไว้ไปทำงานปฏิบัติภาวนา และหากจะมีก็ขอให้เอาดนตรีวงคีตาญชลีมาเล่น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๑.ทดลองบันทึกอนุทิน

  • การทำหน้าประวัติของ GotoKnow ให้มีหมวดหมู่รายการบันทึกและข้อมูลต่างๆที่ผู้เขียนแต่ละคนทำไว้ ทำให้ข้อมูลที่ผมเขียนไปเรื่อยๆ เริ่มเห็นแนวทางจัดหัวข้อและผุดประเด็นที่สะท้อนออกมาจากสิ่งที่ทำและบันทึกไว้ในระยะที่ผ่านมา โดยไม่ต้องตั้งกรอบไปบล๊อกสิ่งที่เข้ามาสู่ชีวิตและการงานไว้ก่อน
  • การจัดระบบบันทึกและออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งบนหน้าประวัติของผู้เขียนแต่ละคน แล้วตบแต่งให้มีความลงตัวอยู่ในตัวเอง พร้อมกับเชื่อมโยงออกไปหาเครือข่ายความรู้-ข้อมูลทั้งภายในและภายนอกบล๊อกแต่ละคนอย่างมากมาย ทำให้หน้าจอและบล๊อกของแต่ละคนทำหน้าที่เหมือนกับเป็นเว็บเพจของแต่ละคนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
  • เมื่อเชื่อมโยงด้วยเมนูรวม และหน้าแรกของ GotoKnow ครอบลงไปอีก เลยยิ่งเห็นภาพอย่างชัดเจนของความเป็นชุมชนทางความรู้และเครือข่ายข่ายเว็บบล๊อกขนาดมหึมา


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท