ช่วงหยุดสามวัน 5 - 6 - 7 ไม่ได้มีเวลาให้ครอบครัวตัวเองเลย มัวแต่เอาเวลาไปให้กับครอบครัวคนอื่น ก็อดจะนึกถึงคำพูดของลูกที่เคยพูดเอาไว้ว่า "อย่ามัวแต่ไปทำครอบครัวคนอื่น ให้กลับมาดูครอบครัวตัวเองบ้าง" บางครั้งก็จำเป็นต้องทิ้งครอบครัวตัวเองบ้าง แต่จะพยายามไม่ให้บ่อย และ จะใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น
ไม่มีความเห็น
วันนี้มีเรื่องวุ่นวายใจหลายเรื่อง เป็นเรื่องที่คาดหวังในเรื่องต่างๆ แล้วไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง โดยเฉพาะในเรื่องของ "คน" คงจะต้องปรับลดวิธีคิดลงมาให้เหมาะกับสภาพความเป็นจริง ในหลายๆเรื่อง หลายๆคน
ไม่มีความเห็น
บ่ายวันนี้มีกำหนดไปประชุมคณะทำงานแก้ปัญหาเด็กและเยาวชน มีท่านรองผู้ว่าเป็นประธาน มีวัฒนธรรมจังหวัดเป็นเจ้าภาพ ผมเตรียมนำเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาไว้ 3 แนวทาง แบ่งเป็น
1. แก้ปัญหาที่ปลายน้ำ ชุมชนจัดกิจกรรม "บ้านหลังโรงเรียน" ให้เด็กได้มี "พื้นที่" ในการแสดงออก
2. แก้ปัญหาที่กลางน้ำ ให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมในโรงเรียนให้เด็กมีปัญหา ได้รับการยอมรับ
3. แก้ปัญหาที่ต้นน้ำ ด้วยการจัดกิจกรรมเวทีครอบครัวสุขภาวะ กิจกรรมที่ 3 นี้ ผมเชิญคุณครูและนักเรียนมาร่วมนำเสนอของจริงที่ประสบผลสำเร็จให้ที่ประชุมฟัง
ผมเตรียมแผนไปเสนอที่ประชุมอย่างนี้ ก็ไม่ทราบว่าที่ประชุมจะเอาอย่างไรครับ ได้ดูแนวโน้มแล้ว ผมคิดว่าคงไม่ผ่านครับ แต่ก็ถือว่าเราได้ทำหน้าที่ของเราแล้ว
ไม่มีความเห็น
วันนี้ปรับมุมมองในการทำงานใหม่ จากเอาจริงเอาจัง มุ่งมั่นคุณภาพ ปรับมุมมองมาเป็นแบบสบายๆ ไม่มุ่งมั่นไม่เอาจริงเอาจังมาก วันนี้มีงานทำอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกตอนเช้า เรื่องประเมินนักเรียน เรื่องที่สอง ตอนบ่าย เรื่องการคัดเลือกโรงเรียนส่งประกวด ทั้งสองเรื่อง ทำในรูปคณะทำงาน ก็ปล่อยให้คนอื่นเขาคิดกันมากๆครับ เราคิดน้อยๆ เขาตัดสินใจอย่างไร เราไปก็ว่าอย่างนั้น มันไม่ถูกผิดอะไรมากมายก็ปล่อยๆไปบ้าง
ไม่มีความเห็น
วันนี้ตั้งใจไว้ว่าจะออกพื้นที่ลุยงานหลายๆอย่าง เป็นงานเกี่ยวกับการแก้ปัญหาเด็ก มีหลายเรื่องที่รอการแก้ไข แต่มาคิดไปคิดมา ผมว่าผม "หยุด" บ้างดีกว่า ลุยงานมากไปมันจะเกินหน้าเกินตาคนอื่นเขา ก็เลยนั่งเฝ้าอยู่หน้าจอคอมพ์นี่แหละครับ
จะออกไปคุยกับใคร ก็ตกเป็นเป้าสายตาครับ ดีไม่ดีจะพลอยตกเป็นเหยื่อจากวงเม้าท์แตก
เมื่อก่อนผมเกลัยดคำพูดนี้มากครับ ที่ว่า "ประเทศไทยไม่ใช่ของเราคนเดียว" เดี๋ยวนี้ ผมทำใจได้แล้วครับว่า "ประเทศไทยไม่ใช่ของเราคนเดียว" บางเรื่องบางราวก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นบ้าง ปล่อยวางบ้าง เพราะลุยมากไปเราก็จะเจ็บตัวเอง เอาเป็นว่าตอนนี้หยุดไว้ก่อน แล้วค่อยรอโอกาสที่เหมาะๆ ที่จะไม่ไปกระทบคนอื่นเขา
หยุด เพื่อ ดูเชิง ครับ
ไม่มีความเห็น
วันนี้ช่วงบ่ายได้ออกมาประชุมเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวของหน่วยงานอื่น เป็นกิจกรรมครอบครัวระดับจังหวัด ผมดูจากกิจกรรมครอบครัวแล้ว ไม่พบกิจกรรมที่เกี่ยวกับครอบครัวสุขภาวะ ส่วนใหญ่มักจะเป็นกิจกรรมที่นำครอบครัวมาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมครอบครัวแบบนี้ ผมพบเห็นมามาก แต่สิ่งที่ต้องการเห็นคือ การจัดการความรู้ในครอบครัวด้วยสุนทรียสนทนา ตอนนี้ยังไม่พบจากหน่วยงานอื่นครับ นอกจาก ครอบครัวสุขภาวะในโรงเรียน ที่โรงเรียนบางส่วนกำลังทำอยู่
สิ่งที่ผมต้องการเสนอในที่ประชุม คือ ควรมีนักพัฒนาการด้านครอบครัว และ ควรขยายเครือข่ายเวทีครอบครัวสุขภาวะ แต่ก็ได้แต่คิดครับ ไม่ได้เสนอ เพราะดูทางลมแล้วไม่ใช่
งานนี้ ผมคิดว่าน่าจะได้นำเวทีครอบครัวสุขภาวะไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ได้บ้าง
ไม่มีความเห็น
ช่วงนี้มีกิจกรรมแข่งขันความสามารถของนักเรียน ผมไปสังเกตุการณ์มาตลอด ทั้งการไปดูการแข่งขันจริง กับการพูดคุยกับคุณครูที่เป็นกรรมการ และ ที่นำเด็กมาส่งประกวด ผมได้ข้อคิดมาอย่างหนึ่งครับ มีคำถามว่า การแข่งขัน เป็นเรื่องของการพัฒนา หรือ การทำลาย กันแน่ ถ้าเป็นเรื่องของการพัฒนา ก็น่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานที่ดีๆ กิจกรรมที่ดีๆ คุณครูก็นำมาพัฒนาตัวเอง พัฒนาเด็กของตัวเอง แต่อีกมุมหนึ่ง ถ้าว่าด้วยการทำลาย ก็เป็นการ "แก่งแย่ง" ชัยชนะมาให้ได้ เพียงเพื่อให้ได้ชื่อว่าตัวเองได้เอาชนะคนอื่น ได้ไม่มองภาพบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างเป็นกัลยาณมิตร เพื่อนำสิ่งดีๆมาพัฒนาการศึกษาร่วมกัน เพื่อเด็กไทยทุกๆคน โดยไม่แบ่งว่าเป็นโรงเรียนใหน ใครสอน
ไม่มีความเห็น
อนุทินนี้เขียนความรู้สึกต่อจากบันทึกว่าด้วยความผิดหวังครับ รู้สึกว่า "ผลประโยชน์" นี่ บางทีก็ต้องได้มาด้วยการ "แก่งแย่ง" ครับ ผมเองบอกตามตรงครับว่าไม่ถนัดกับการ "แก่งแย่งผลประโยชน์" ก็เลยต้อง "ช่างเขาเถิด ปล่อยเขาไป" ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นครับ สำหรับผมเองคิดว่าการแก่งแย่งผลประโยชน์มันไม่ใช่วิสัยที่ผมจะไปทำแบบนั้นครับ เอาเวลาไปสร้างสรรค์งานที่มีประโยชน์จะดีกว่าครับ
ไม่มีความเห็น
เมื่อวานประชุมร่วมกับผู้บริหารโรงเรียนอำเภอบ่อไร่ จะเข้าไปวางแผนพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การประชุมครั้งนี้ไม่ประสบผลสำเร็จครับ เพราะผมเข้าไปแบบฉาบฉวย ไม่ได้มีการทำงานหรือประสานงานใดๆร่วมกันมาก่อน จู่ๆก็บอกว่าจะพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ที่สำคัญงบประมาณก็ไม่มีไปให้เขา บุคลากรก็ไม่มี งานนี้ เป็นความผิดพลาดของผมเต็มๆ ที่เข้าไปจับเสือมือเปล่า ต่อไป จะต้องวางแผนการทำงานให้รอบคอบและรัดกุมกว่านี้ครับ ต้องคิดเชิงระบบ Systems thinkings นั่นคือ ต้องมองหมากทุกตัวบนกระดาน ก่อนที่จะขยับเดิน(มององค์ประกอบ หรือ ระบบย่อยทุกๆระบบที่เกี่ยวข้อง)
ไม่มีความเห็น
บ่ายวันนี้มีความภูมิใจเล็กๆ ในการนำเสนองานให้ที่ปะชุมใหญ่ระดับจังหวัด เป็นที่ประชุมที่มีท่านผู้ว่าเป็นประธาน มีหัวหน้าหน่วยราชการทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง กฏหมาย ทุกส่วนราชการครับ เรื่องที่ผมเสนอเป็นเรื่องเล็กๆ เรื่องเด็กๆ ที่คิดว่าไม่น่าจะมีใครสนใจ แต่พอนำเสนอไปที่ประชุมเงียบกริบครับ แถมยังได้รับคำชมจากหัวหน้าส่วนราชการระดับภาค ว่าเป็นผลงานที่ดี แก้ปัญหาด้ตรงจุด ตรงประเด็น (ผมนำเสนอเรื่องการเยี่ยมบ้านเด็ก และ พบปัญหาของเด็กล้วนมาจากครอบครัว ผมจะแก้ปัญหาเด็กด้วยการจัดทำเวทีครอบครัวสุขภาวะ พร้อมเสนอภาพตัวอย่างเวทีครอบครัวสุขภาวะที่ผมได้ทำมา)
ที่ประชุมชอบใจเกินคาดครับ
ก็เป็นความประทับใจเล็กๆครับ
ไม่มีความเห็น
งานที่ตีกลับมาเมื่อวาน วันนี้ยังแก้ไม่เสร็จครับ เพราะเป็นงานการเงิน ทุกขั้นตอนต้องคามระเบียบหมด ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา การทำงานต่างๆมาสะดุดที่งานการเงินนี่แหละครับ เพราะคนทำงานหลายคนรวมทั้งผมด้วย คิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ ในเมื่อเราทำงานจริง เราไม่ได้ทุจริต เราไม่ต้องไปสนใจรายละเอียดเรื่องการเงิน เงินก็น่าจะเบิกออกมาให้เราตามที่เราทำจริง คิดก็คิดได้ครับ แต่เวลาเบิกจริง ไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ มันมีรายละเอียดจุกจิกหยุมหยิมไปหมด แก้แล้วแก้อีกหลายครั้งครับ ก็ต้องทำใจครับ
ไม่มีความเห็น
เมื่อเย็นวาน เครียดกันเล็กๆทั้งบ้านครับ เพราะลูกสาวไปแข่งกิจกรรมแล้ว "แพ้" กลับมา ที่ต้องเครียดเพราะลูกสาวอยู่โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด ไปแพ้ให้กับนักเรียนโรงเรียนขยายโอกาสโรงเรียนเล็กๆในชนบท และ ที่สำคัญ เพื่อนๆที่ไปแข่งด้วยกันกิจกรรมอื่น ชนะมาหมดเลย มีลูกสาวผมคนเดียวที่ไปแพ้เขามา ลูกสาวผมเครียดมากครับ ภรรยาผมก็รู้สุกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมเองก็เผลอ "จิตตก" ตามไปด้วยครับ ทั้งที่จริงแล้วก็ "แพ้" เขาจริงๆ ครับ ก็เป็นบทเรียนที่ดีครับที่จะต้องทำใจให้ได้กับการพ่ายแพ้ ผมก็บอกลูกไปว่าเราทำหน้าที่ของเราดีที่สุดแล้ว แพ้ชนะ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ภรรยาผมก็ช่วยคุยกับลูกอีกแรงครับ ตอนค่ำคุณครูก็โทรมาปลอบใจครับ คุณครูก็น่ารักมาก มาเช้านี้ ลูกสาวก็ดีขึ้นมากแล้วครับ
ไม่มีความเห็น
เมื่อเช้านี้ เสนองานไปงานหนึ่ง ตกบ่ายมา ปรากฏว่าถูกตีกลับมาให้แก้ไข ก็ยังดีครับ ที่มีจดหมายน้อยแนบมาด้วยว่าผิดอย่างไร และ ต้องแก้ไขอย่างไร
ผมแอบบ่นเล็กๆกับเจ้าหน้าที่ว่า คราวก่อนก็ทำไปแบบนี้ ทำไมผ่าน คราวนี้ทำไมไม่ผ่าน น้องเจ้าหน้าที่บอกว่า คนอนุมัติ คราวก่อน กับ คราวนี้ เป็นคนละคนกัน
ผมก็เลยต้อง "ทำใจ" อีกแล้วครับ คือ การทำงานไม่มีสูตร "ถูกต้อง" ที่สำเร็จครับ มีแต่สูตร "ถูกใจ" นั่นคือ คนมีอำนาจจะเอาแบบใหน เราก็ต้องทำตามที่เขาต้องการ การที่จะอ้างว่าครั้งที้แล้ว หรือ ที่ผ่านมา ว่า "ยังทำได้" คงอ้างไม่ได่นะครับ
ไม่มีความเห็น
เมื่อก่อนผมจะมีสไตล์การทำงานแบบ "ลุย" และ "เร็ว" ครับ เปรียบเหมือน "กระทิง" ในผู้นำสร่ทิศนั่นแหละครับ แต่หลังจาก "ลุย" ไปอย่าง "เร็ว" ก็มีปัญหาต่างๆ ตามมาไม่ขาดสายครับ ก็เลยมาคิดทบทวนปรับเปลี่ยนสไตล์การทำงานเสียใหม่ครับ ให้ช้าลงมาบ้าง ให้ค่อยเป็นค่อยไป รอคอยคนอื่นบ่าง ลดเพดานความคาดหวังในการทำงานให้สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริง หลังจากที่เปลี่ยนสไตล์การทำงานให้ช้าลง ผมดูว่าบรรยากาศของคนทำงานที่เกี่ยวข้องที่อยู่แวดล้อมก็เริ่มดีขึ่นครับ เริ่มมีการพูดคุยกันเรื่องงงาน เริ่มมีคนมาปรึกษาหารือ และ เริ่มมีการทำงานเป็นทีม งานอาจจะช้าลงบ้าง ไม่ถูกใจไปบ้าง ก็คงต้องทำใจครับ เพราะงานลดลง แต่ได้คนมาแทน ก็คงจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ไปพร้อมๆกันครับ ช้าหน่อยแต่ชัวร์ ก็พอไปได้อย่างราบรื่นครับ
ไม่มีความเห็น
Bookmark: สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม
ผู้บริหารต้องส่งเสริมการสร้างความรู้ ไม่ใช่ควบคุม
ไม่มีความเห็น
Bookmark: คนเป็นนาย
http://gotoknow.org/blog/beingaboss
คนเป็นนายมีอะไรต้องทำอีกมาก นอกเหนือการสั่งการ
ไม่มีความเห็น