อนุทินล่าสุด


ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

ข้อคิดจาดหนังสือ 1 หน้า..



ความเห็น (3)

จริงค่ะ และกำลังใจจากตัวเราเอง …. สร้างเองด้วยนะคะ

ขอบคุณครับ…กำลังใจ…จากสมาชิกในบ้าน

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

 

กลอนบทนี้มีความโดนใจ...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

การสร้างเครือข่ายการทำงานขอบคุณป๋าวอญ่าที่ได้มาเจอกันในงาน Havesting Spiritual ครับการเรียนรู้และการสร้างข่ายการทำงาน G2K เริ่มขัยบไปเรื่อยๆ ....ขอบคุณประสบการณ์ที่ได้ถ่ายทอดมาครับป๋า

 



ความเห็น (1)
ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

มาลาพวงดอกไม้ของยายบุญมา 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

ข้อคิดจาก Bill Gate





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

   บทกลอนจากเนาวรัตย์ พงษ์ไพบูลย์

                                             คนกินน้ำไม่เห็นต้นข้าว 

                                             คนกินข้าวไม่เห็นต้นข้าว

                                    ถึงมีเงินเต็มกระเป็าข้าวก็ไม่เต็มกระบุง 

                                                                                  




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

สวัสดีวันเสาร์ 

หลังจากจัดการชีวิตส่วนตัว ซักผ้า..อีกจิปาถะ ผมได้ฟังเพลงนี้ครับ จากเด็ก 9 ขวบ มี comment หนึ่งบอกว่า "ตอนพี่อายุ 9 ขวบเท่าน้องไม่อยากคุย...พี่ยังดูดกินน้ำหวานจากดอกเข็มเลย" มานั่งคิดคล้ายเราจริงๆเรายังทำอะไรไม่ได้เลย..  แต่ทึ่งในน้องคนนี้จริง (น้องไม่ได้ต้องบอกว่าลูกแล้ว 555) 




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

The power of word :คำพูดเปลี่ยนแปลงโลก ผมดูแล้วประทับใจจริงๆ....พูดไม่ออก




ความเห็น (3)

ประทับใจต่อคำที่ใช้ แสดงให้เห็นถึงการมองโลกในแง่ดี ชอบมากค่ะ

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

การเป็น caregiver เป็นสิ่งที่เหนื่อยมากๆๆ ต้องใช้พลังใจ ยกกำลัง สอง -สาม เพื่อยืนอยู่ข้างๆคนไข้ คนที่เป็นที่รัก อย่างเต็มกำลัง ความสามารถ

จาก Blog chut-cha-nee  รัชนี ไตรยะวงศ์ เป็นพลังแห่งการเยียวยาจริงๆครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

ฝากให้กำลังใจแม่ต้อยดวงสมรด้วยนะครับ บางท่านรู้จักท่านดีอยู่แล้ว อาจารย์ดวงสมรจาก สรพ. วันนี้ท่านผ่าตัดลอกตาครับ "ท่านฝากบอกด้วยนะครับอาจทำให้ไม่ค่อยได้เขียนอะไรใน G2K ช่วงนี้ครับ"




ความเห็น (3)

ส่งกำลังใจอย่างเร่งด่วนครับ ;)...

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

ฟาดดาบ



หนังจีนกำลังภายในยุคก่อน มักเน้นฉากบู๊มากกว่าเนื้อเรื่อง คงเพราะนายทุนคิดว่าคนดูชอบดูลีลาการต่อสู้มากกว่าสาระของเรื่อง ตัวละครฟาดดาบกันเสียงดังโคร้งเคร้ง กว่าพระเอกจะฆ่าคนร้ายตายสักรายก็เหนื่อยหอบ เพราะแกว่งดาบอยู่นาน ถ้าเป็นหัวหน้าคนร้ายหรือจอมบงการ ก็ตายช้าหน่อย กว่าจะถูกพระเอกทิ่มตาย ก็หมดไป 5-10 นาทีของความยาวหนัง

เราเห็นภาพการต่อสู้แบบนี้ในหนังบ่อยเสียจนเราเชื่อว่า นักดาบโบราณคงฟาดฟันกันแบบนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญดาบญี่ปุ่นคนหนึ่งบอกผมว่า สิ่งที่แสดงในหนังนั้นห่างไกลจากความจริงหลายขุม เขาบอกว่า “มืออาชีพไม่ฟาดดาบกันหรอก เพราะมันบิ่นง่าย ไม่มีใครอยากเสียเวลาลับดาบโดยไม่จำเป็น”

อืม! เป็นมุมมองใหม่ที่มีเหตุผลทีเดียว นักรบไม่ฟาดดาบกันเพราะรักดาบของตน! เช่นเดียวกับชาวเมืองขับรถดีๆ ย่อมไม่อยากเฉี่ยวชนรถคันอื่น เพราะรักรถ

นานมาแล้วสมัยที่หนังจีนกำลังภายในเฟื่องฟูขีดสุด ในหนังซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง พยัคฆ์ลำพอง พระเอกนาม ซิมเซ่งอี่ ฆ่าคนร้ายสิบสามคนตายในเวลาเพียงตอนเดียว! ทั้งสิบสามคนเป็นยอดฝีมือแห่งยุทธจักร แต่พระเอกเก่งกว่า ผู้ชมแทบไม่ได้ยินเสียงดาบปะทะกัน พระเอกแทงสวบๆ ไม่กี่ที คนร้ายก็ร่วงลงตายทันใจคนดู หนังสนุกมากเพราะไม่อืด แต่ผลเสียคือนายทุนไม่อาจยืดหนังให้ยาวอีกหลายๆ ตอนเหมือนละครไทย จึงพอเข้าใจว่า เหตุผลที่ผู้สร้างนิยมลากฉากบู๊ยาวๆ เพราะไหนๆ ก็สร้างฉาก ทำชุดแล้ว ก็ลากยาวหน่อย จะได้คุ้มทุน!

ถอยหลังนานกว่านั้นอีก ยอดนักประพันธ์ ยาขอบ เขียนนวนิยายอิงพงศาวดาร(ปลอม) เรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ พระเอกของเรื่องคือ จะเด็ด เจ้าชู้ยิ่งนัก จีบสตรีทุกนางที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ละนางถูกพระเอกใช้พรรณนาโวหารกล่อมจนตัวอ่อนระทวย ความยาวของบทจีบนั้นหลายหน้ากระดาษ แต่ไม่ทำอะไรเกินเลยศีลธรรมไปกว่านั้น เพราะผู้ประพันธ์ไม่ต้องการให้เป็นนวนิยายติดเรทอาร์หรือเอ็กซ์ แต่ผู้อ่านไม่น้อยเขียนมาต่อว่าผู้เขียนว่า เมื่อไรจะให้พระเอก ‘ลงมือ’ เสียที!

คนอ่านก็ช่างใจร้อนจริงจริ๊ง!

เหล่านี้คือฉาก ‘โคร้งเคร้ง’ ในภาพยนตร์และนวนิยาย การฟาดดาบโคร้งเคร้งแต่ไม่ฆ่าสักทีนั้นไม่เป็นไร แต่ในชีวิตจริงการแกว่งดาบไปมาเฉยๆ โดยไม่เกิดผลอาจทำให้องค์กรหรือปัจเจกเสียหายได้

ภาษาไทยมีสำนวนว่า เงื้อง่าราคาแพง หมายถึงดีแต่วางท่าว่าจะทำ แต่ไม่ลงมือสักที หมายถึงบุคคลที่ดีแต่พูด พูดมากกว่าทำ หรือชอบสัญญาแต่ไม่ชอบลงมือทำ หรือทำงานการใดๆ ชักช้าเหมือนเต่าขาหัก เยื้องย่างเอื่อยเฉื่อยไม่ทันใจ

ตั้งใจจะทำธุรกิจใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่ก็ ‘โคร้งเคร้ง’ จนคนอื่นตัดหน้าลงมือไปก่อนห้าก้าว สิบก้าว

การจ่ายราคาแพงของการเงื้อง่าก็คือ การเสียโอกาส

ทว่าอาการเงื้อง่าราคาแพงมิได้จำกัดอยู่ที่ธุรกิจเท่านั้น มันเกิดขึ้นกับชีวิตของปัจเจกทั่วไปเช่นกัน

ตั้งใจจะบอกรักหญิงสาวที่หมายปอง แต่ก็ ‘โคร้งเคร้ง’ เหมือนหวังฟลุคเจอคนที่ดีกว่าระหว่างการรอ รู้ตัวอีกทีสาวเจ้าก็แต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว

ตั้งใจจะลดความอ้วน แต่ก็ ‘โคร้งเคร้ง’ อยู่หลายขยัก ผ่านไปสองปีสามปี นอกจากน้ำหนักไม่ลด ยังเพิ่มขึ้นอีก ตามมาด้วยโรคสารพัด

ตั้งใจจะเรียนต่อ แต่ก็ ‘โคร้งเคร้ง’ อยู่หลายปี รู้ตัวอีกที ก็แก่แล้ว ยังไม่ได้เดินตามฝันเลย

อาการ ‘โคร้งเคร้ง’ ของคนส่วนมากคล้ายกันคือ “ไม่มีเวลา”, “ไม่ว่าง”, “ยุ่งอ่ะ”, “รออีกนิดก็คงไม่เป็นไรหรอกน่า” ฯลฯ

นี่มิได้แปลว่าเราต้องบุ่มบ่ามรีบร้อนกระทำเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ให้อย่าเฉยเฉื่อยชาแชเชือน ให้รู้จักจัดลำดับความสำคัญของแต่ละเรื่องในชีวิต

เราควรฝึกฝนให้มองคู่แข่งหรือสถานการณ์ให้ชัดแจ้ง เมื่อรู้ว่าต้องการอะไรก็ลงมือ ไม่ต้องฟาดดาบนานจนเกิดรอยบิ่นให้เสียเวลาลับ

มองให้ดี เล็งให้ดี แล้วแทงสวบเข้าไป

วินทร์ เลียววาริณ, 21 กรกฎาคม 2555
www.winbookclub.com



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

นิโคล คิดแมน คำสอนของพ่อ  (ปล.ผมถ่ายเอามาจากนิตยสาร....จำไม่ได้แล้วว่าของอะไร)



ความเห็น (1)

ขอบคุณที่นำมาฝากครับ

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

อาชีพมีสองอย่าง
ผมคิดว่าอาชีพคนเรามีสองอย่าง อาชีพแรกคือทำงานไปเรื่อยๆ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงตนเองและครอบครัว อาชีพที่สองคือทำงานสร้างสรรค์ขึ้นมาในโลก ไม่ว่าจะเป็นนักแต่งเพลง นักเขียน นักประดิษฐ์เครื่องมือ หรือนักทฤษฎี ผู้ค้นพบสิ่งต่าง ๆ
อาชีพแรกตายไปพร้อมกับเรา ส่วนอาชีพที่สองหากเป็นงานมีคุณค่า จะอยู่กับโลกนี้ไปยาวนาน
เรามีสิทธิ์เลือกได้ครับว่า จะเลือกอาชีพใด

จากเฟสบุ๊คพี่จอบ บก.นิตยสารสารคดี 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ลูกหมูเต้นระบำ
เขียนเมื่อ

หลักการข้อที่ 51 จริงจังกับงาน แต่อย่าจริงจังกับชีวิตมากเกินไป 
Take Your Work Seriously. Yourself, not so MUCH.

(Alan M.Webber - Rules of Thumb)




ความเห็น (2)

ขอบคุณคะ  ทำให้นึกถึง 'Idol' ..ในขณะที่ Steve Jobs เป็น idol ของหลายคนรวมทั้งตัวเอง
แต่มีอีกท่าน ที่ตัวเองประทับใจเป็นพิเศษคือ Yoshiro Honda ชายผู้สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยเทคโนโลยี และมีชีวิตบั้นปลายกับศิลปะ อย่างนอบน้อม

การกลับสู่วิถีศิลปะธรรมชาติ งดงาม...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท