อนุทินล่าสุด


04 ปนัดดา ศิลาเหลือง
เขียนเมื่อ

เมื่อวันที่ 2เดือนสิงหาคม 2555 เวลา. 10.00-12.00 น. ดิฉันได้ไปสํมภาษณ์ชาวต่างชาติในงานแห่เทียนของชาวจังหวัดอุบลราชธานี ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ. ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้พูดคุย เขาเป็นชาวอเมริกัน. ชื่อ มาร์ค. มาอยู่เมืองไทยได้9 ปี. มาร์คบอกว่า เมืองไทยน่าอยู่ คนไทยน่ารัก. เขามาอุบลราชธานีเป็นครั้งแรก. เขาชื่นชอบงานแห่งเทียน เพราะเป็นประเพณีที่สวยงาม น่าสนใจและดีใจที่ได้มาจังหวัดอุบลราชธานี เขายังบอกอีกว่าชอบผู้หญิงไทย



ความเห็น (1)
04 ปนัดดา ศิลาเหลือง
เขียนเมื่อ

บทความเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวัง รู้สึกเป็นทุกข์กับความรัก...

เพียงเพราะคนที่เรารัก...ไม่รักตอบ

ทุ่มเทก็แล้ว ดีกับเขามากๆก็แล้ว...

ทุกอย่างที่ทำเพื่อคนที่เรารักก็ทำมาแล้ว

สุดท้ายเขาก็ยังไม่รักเรา เหมือนที่เรารักเขาเสียที

สิ่งที่เกิดขึ้นในใจจึงมีทั้งท้อ และดื้อรั้น...

ท้อ..เพราะผิดหวัง...รั้น..เพราะยังอยากสมหวัง...

เมื่อสองสิ่งที่ต่างขั้วมาอยู่รวมกัน มันก็เลยทำให้เราฟุ้งซ่าน

บางทีก็ทำอะไรโดยไม่รู้ตัว เช่น เขาไม่รักก็ได้แต่ตามตื้อเขา

เขารำคาญก็ยังสร้างความรำคาญให้เขาเพิ่มมากขึ้น...

ทำอย่างนี้เรามีความสุขหรือก็เปล่า

เขาจะชื่นชมยินดีกับสิ่งที่เราทำหรือก็ไม่...

เมื่อขึ้นชื่อว่า "ไม่ได้รัก" ต่อให้ดีแค่ไหน

หล่อแค่ไหน หรือสวยแค่ไหน

เขาก็ไม่มีทางปันใจมารักเราหรอก !

"เมื่อประตูบานแห่งความสุขปิดลง

ประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้น

หากเรามัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนาน

เราจะมองไม่เห็น ประตูแห่งความสุขบานอื่นที่เปิดไว้รอ..."

สำหรับคนที่รักเขาแล้วเขาไม่ได้รัก...

อย่าคิดว่าความสุขในชีวิตได้หมดลงแล้ว

เราจะรักใครชอบใครอีกไม่ได้แล้วในชาตินี้...

เราเพียงแค่ตั้งใจเอามือปิดตาทั้งสองข้างให้มองไม่เห็นอะไรก็เท่านั้น!

ลองเอามือออก...แล้วค่อย ๆ ลืมตา....

เราจะพบประตูแห่งความสุขที่อยู่รอบตัวอีกตั้งหลายบาน...

ลองตัดสินใจเดินไปที่ประตูบานอื่นดูสิ!...

อย่ายึดติดอยู่กับประตูที่ไม่ได้เปิดต้อนรับเราอีกต่อไปเลย

"คนทุกคนต่างเป็นเหมือนตัวจิ๊กซอว์...ที่ออกตามหากันและกัน

เมื่อค้นพบเจอตัวจิ๊กซอว์ที่ต่อกันติด...ก็จะเกิดภาพที่สมบูรณ์..."

หากเราไม่ใช่สำหรับเขา นั่นแสดงว่าเราไม่ใช่ตัวจิ๊กซอว์ที่หายไปของเขา

ความรักก็คงเป็นเช่นนั้นด้วย....

เพราะรักจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนสองคนมีใจที่ตรงกัน

มีสายใยบางๆที่คอยเชื่อมต่อถึงกัน...

ออกไปตามหาตัวจิ๊กซอว์ที่เหมาะสม และคู่ควรกับเราดีกว่า

อย่ามัวแต่ยึดติดกับรักที่ต่อไม่ติดให้เสียโอกาสตัวเองเลย

ชีวิตกล้าทำอย่างอื่นได้...ก็น่าจะกล้าหาญบอกลาจิ๊กซอว์ตัวปลอมตัวนั้นได้

เรื่องอย่างนี้ มันอยูที่ "ใจ" เท่านั้น...

อย่าเสียใจ หากต้อง "ตัดใจ"...แต่จงดีใจที่ได้มีโอกาสได้ค้นหา

เพื่อที่จะได้พบเจอ "หัวใจ"...หัวใจดวงที่เราออกตามหามาตลอดทั้งชีวิต....



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

04 ปนัดดา ศิลาเหลือง
เขียนเมื่อ

จะให้เป็นเพื่อนที่ดี แค่อีกคน หรือเป็นแค่เพียงอีกคนที่เข้าใจ ก็ตามอัตภาพที่เธอจะให้ จะมากจะน้อยไป ไม่ว่าเท่าไร ก็ขอบคุณนะที่ให้กัน

จะเป็นอะไรได้เท่าไหน ก็พอแก่ใจจะไม่ไปวุ่นวาย โว้โอ รับได้อยู่แล้วไม่ได้ยาก ที่ได้ก็เป็นสุขดีตั้งเท่าไร

เป็นเกียรติมากแล้วแค่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ หายใจใกล้กับเธอมันดีรู้ไหม ก็ขอบคุณแล้ว ครั้งนึงกับชีวิตที่ได้ ได้มาเจอเธอ ที่แม้จะเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน (พอแล้ว)

แค่หนึ่งในคนใกล้ตัว แค่คนที่ตัวใกล้กัน ฐานะที่เธอให้มาเป็นเท่านั้น ก็ชัดว่าฉันเป็นคนที่มาไกล แค่หนึ่งในคนใกล้ตัว ที่คงไม่กลัวเสียใจ ไม่ได้หวังอะไร ทุกอย่างมันเพียงพอแล้ว

จะให้เป็นเพื่อนเคียงข้างเธอเท่านั้น หรือให้เป็นคนที่บ้างก็ผูกพัน ดูแลสุขภาพจิตใจให้เธออย่าคิดว่าลำบาก ฉันทำด้วยใจ ไม่ได้ทำไปด้วยทุกข์โศก

มันเรื่องไม่มากหรอกทางฉัน มีแรงให้ทำก็จะทำเรื่อยไป โว้โอ ท้อบ้างก็ตามธรรมชาติ ก็ไม่ได้มายด์ ไม่เห็นว่าเป็นไร

เป็นเกียรติมากแล้วแค่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ หายใจใกล้กับเธอมันดีรู้ไหม ก็ขอบคุณแล้ว ครั้งนึงกับชีวิตที่ได้ ได้มาเจอเธอ ที่แม้จะเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน (พอแล้ว)

แค่หนึ่งในคนใกล้ตัว แค่คนที่ตัวใกล้กัน ฐานะที่เธอให้มาเป็นเท่านั้น ก็ชัดว่าฉันเป็นคนที่มาไกล แค่หนึ่งในคนใกล้ตัว ที่คงไม่กลัวเสียใจ ไม่ได้หวังอะไร ทุกอย่างมันเพียงพอแล้ว

แค่หนึ่งในคนใกล้ตัว แค่คนที่ตัวใกล้กัน ฐานะที่เธอให้มาเป็นเท่านั้น ก็ชัดว่าฉันเป็นคนที่มาไกล แค่หนึ่งในคนใกล้ตัว ที่คงไม่กลัวเสียใจ ไม่ได้หวังอะไร ทุกอย่างมันเพียงพอแล้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

04 ปนัดดา ศิลาเหลือง
เขียนเมื่อ

สามพันโบกหนึ่งในสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวของอุบลราชธานีที่วันนี้ทุกคนต้องมาเยือนโดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนมิถุนายนของทุกปีหลังสายน้ำในแม่น้ำโขงลดลงจนเผยให้เห็นเกาะแก่งหินที่ถูกกระแสน้ำขัดเกลาจนเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติกินอาณาบริเวณกว้างไกลสุดตายตาราวกับเมืองแห่งความลับใต้บาดาลดูสวยงามยามต้องแสงสีทองของดวงตะวันไม่ว่าจะเป็นยามเช้าหรือเย็นย่ำล้วนตรึงทุกสายตาให้จดจ่อและดื่มด่ำกับภาพนั้นยาวนานที่สุด คงไม่ผิดนักหากเปรียบที่นี่ดัง "แกรนด์แคนยอนเมืองไทย"ด้วย"โบก"อันเกิดจากกระแสน้ำโขงได้กัดเซาะหินทรายจนกลายเป็นหลุมเป็นแอ่งมากมายหลายขนาดกลายเป็นผลงานสร้างสรรค์จากธรรมชาติอันไพศาลชื่อว่า "สามพันโบก"ซึ่งจะพาทุกจินตนาการหลุดลอยไปกับสายน้ำพร้อมเรื่องราวตำนานสามพันโบกที่มีมีอยู่หลายเรื่องให้ได้พิศวง อาทิตำนานหินหัวสุนัขตรงทางเข้าซึ่งจะพบหินคล้ายหัวสุนัขตำนานหาดหินสีหรือทุ่งหินเหลื่อม ตำนานปู่จกปู อันเป็นหลุมโบกที่เกิดขึ้นนับไม่ถ้วนแม้ไม่มีบทสรุปต่อตำนานเหล่านี้หากนักท่องเที่ยวก็ได้สรุปร่วมกันแล้วว่าที่นี่คือความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติโดยแท้ การลัดเลาะไปเที่ยวสามพันโบกอย่างใกล้ชิดต้องอาศัยการล่องเรือที่พาลัดเลาะไปยังจุดสำคัญๆมากมาย อาทิ ปากบ้องเป็นจุดแคบสุดของแม่น้ำโขง วัดได้ 56 เมตร แก่งสองคอนเกิดจากเกาะหินหัวพะเนียงวางกลางลำน้ำ้ำโขงทำให้แม่นí้ำโขงแยกออกเป็น สองสายหรือสองคอนหาดสลึงเป็นหาดทรายสวยงามเหมาะพักผ่อนหย่อนใจริมฝั่งน้ำมูลผาหินศิลาเลขซึ่งเป็นเหมือนรอยจารึกอดีตสมัยฝรั่งเศสรุ่งเรืองและหาดหงส์ซึ่งเป็นเนินทรายริมน้ำโขงขนาดกว้างใหญ่ไพศาลโดยเฉพาะในช่วงอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าหาดหงส์จะทอประกายความงดงามเหนือลำน้ำโขงด้วยแสงสีทองที่ทาบทอลงมา การเดินทาง:อ.โพธิ์ไทร จ. อุบลราชธานี หากต้องเดินทางไกลไปสัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ อย่าง "แกรนด์แคนยอน"ดินแดนแห่งหินผาและหุบเหว ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลแตกต่างกันไปตั้งแต่ 381-2,793 เมตร มีความกว้างตั้งแต่ 2-24 กิโลเมตร และลึกประมาณ 1,600 เมตรซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะเวียนไปพิสูจน์ความงามนับเป็นแสนๆ คนต่อปี... อาจจะดูไกลไปนิด... วันนี้เราขอแนะนำให้รู้จักกับ"แกรนด์แคนยอนเมืองไทย"สถานที่ท่องเที่ยวแสนใกล้ที่ขอรับรองว่าโดนใจคนไทยแน่นอน นั่นก็คือ..."สามพันโบก"แก่งหินขนาดใหญ่ในลำน้ำโขง ที่มีความสวยงามมากๆ

      "สามพันโบก"ตั้งอยู่ที่บ้านโป่งเป้า ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทรจังหวัดอุบลราชธานี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ในลำน้ำโขงซึ่งจะปรากฏให้เห็นเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง (ประมาณเดือนมกราคม – เมษายน) ทั้งนี้ที่เรียกว่า "สามพันโบก" เพราะบนแก่งหินมีแอ่งน้ำขนาดเล็กใหญ่จำนวนมากกว่า 3,000 แอ่ง (คำว่า "โบก" เป็นภาษาลาว แปลว่า "แอ่ง") จึงเรียกที่นี่ว่า สามพันโบก 

หลังจากที่ได้เดินทางท่องเที่ยวไทยไปในสถานที่ต่างๆมากมาย ขึ้นเหนือ ล่องใต้ อย่างสนุกสนานก็ได้มีการเก็บภาพบรรยากาศในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มาฝากเพื่อนๆชาวเที่ยวเมืองไทยให้ได้ชมกันทุกที ....... และในครั้งนี้ก็มีอีกหนึ่งทริปท่องเที่ยวไทยที่ไม่อยากจะเก็บความประทับใจไว้คนเดียว จึงนำบอกเล่าและส่งต่อความรู้สึกดีๆให้เพื่อนๆ ได้อ่าน ได้ชมกันกับทริปท่องเที่ยวไทยไปในดินแดนมหัศจรรย์อย่าง“สามพันโบก”หรือที่หลายคนเรียกกันว่า“แกรนด์แคนยอนน้ำโขง”

สามพันโบก” .... เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไทยที่น่ามหัศจรรย์ใจเป็นอย่างมากเพราะแฝงไปด้วยเสน่ห์และความสวยงามที่ธรรมชาตินั้นสร้างขึ้นล้วนๆเมื่อได้เห็นกับตาถึงกับตะลึงเลยทีเดียวไม่น่าเชื่อว่าเมืองไทยของเราจะมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้ด้วยสามพันโบก”มีลักษณะเป็นแก่งหินแห่งลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลาก จะเกิดแรงน้ำวนกัดเซาะหินจนกลายเป็นแอ่งขึ้นมากมาย ราวกว่า 3,000 แอ่ง แล้วคำว่า “แอ่ง” ในภาษาลาวนั้นก็คือคำว่า “โบก” ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของชื่อว่า“สามพันโบก”

จุดที่น่าสนใจและต้องไปถ่ายรูปกันให้ได้ในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็คือหินที่มีลักษณะคล้ายกับหัวสุนัข ซึ่งจะอยู่ตรงบริเวณทางเข้าของสามพันโบกนั่นเองเพื่อนๆ ชาวเที่ยวเมืองไทยจะต้องใช้จินตนาการในการชมภาพถ่ายกันด้วยนะคะจึงจะรู้หินหัวสุนัขนี้ อยู่ที่จุดไหน .....

เพื่อนๆ ชาวเที่ยวเมืองไทยรู้มั้ยคะว่า ...หินหัวสุนัขนั้น มีตำนานเล่าขานกันด้วยนะ บ้างก็เล่าว่า แต่ก่อนนั้นมีเจ้าเมืองคนหนึ่งซึ่งมีความหลงใหลในสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างมากจึงได้ส่งเสนาให้ไปสำรวจพื้นที่จนได้ไปพบกับขุมทรัพย์ทองคำเจ้าเมืองจึงได้เข้าไปเอาสมบัติด้วยตัวเองแล้วให้สุนัขเฝ้าปากทางไว้จนกว่าเจ้าเมืองจะกลับออกมาแต่ด้วยความโลภของเจ้าเมืองที่กลัวว่าจะต้องแบ่งสมบัติให้กับเหล่าเสนาจึงได้หาทางออกทางอื่นไป แต่สุนัขที่เฝ้าอยู่ก็ยังไม่ไปไหน รอจนถึงวันตายในที่สุด ... แต่บ้างก็



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท