ในเครื่องบิน ได้ดูภาพยนต์แนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องหนึ่งโดยบังเอิญ "In Time" นำแสดงโดย Justin Timberlake  พบว่าแทนที่จะเน้นให้ตื่นเต้นกับเทคโนโลยีอนาคต กลับมีนัยยะสะท้อนสังคมยิ่งกว่า

ภาพจาก  biologyoftechnology.com

- ในยุคอนาคต เมื่อประชากรมนุษย์มากขึ้น จึงตัดต่อพันธุกรรม โดยให้คนมีอายุถึง 25 ปี หลังจากนั้น ทุกคนต้องทำงาน หา"เวลา" (แทนที่จะเป็นเงิน) มาต่ออายุ  แต่ละคนยังถ่ายทอดเวลาให้กันและกัน, กู้ยืม ฝากถอน ได้เหมือนเงิน

- ที่อยู่อาศัย ถูกแบ่งตาม "Time zone" คนที่หาเช้ากินค่ำ ทำงานแลกเวลาต่อชีวิตไปวันๆ (วันต่อวันจริงๆ)  อยู่ time zone แรกๆ  ขณะที่คนมีฐานะดี อยู่ใน Time zone ปลายๆ คนเหล่านี้อยู่ได้เป็นร้อยปีอย่างสบาย
- ผู้มีอำนาจออกกฎหมายอยู่ใน Time zone ปลาย ซึ่งขึ้นค่าครองชีพ ทำให้คนใน Time zone แรกๆ ใช้ชีวิตลำบากขึ้นเรื่อยๆ
- วันหนึ่งแม่ของพระเอก ใกล้หมดอายุขัย ต้องการขึ้นรถเมล์ไปเติมเวลาจากพระเอก
เธอมีเวลาในตัวเหลือ 1 ชั่วโมงครึ่ง  แต่พอดีวันนั้นค่ารถเมล์ขึ้นจาก 1 ชั่วโมง เป็น 2 ชั่วโมง ทำให้ต้องวิ่งไป แต่เวลาเหลือศูนย์ ก่อนจะถึงมือพระเอกไม่กี่วินาที
...
บทสรุปอันเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์คือ
พระเอก ปล้นเวลา หนึ่งล้านปี เอามาแจกจ่ายให้กับคนยากไร้ใน Time zone แรก
ผู้คนเหล่านี้พากันเดินเข้ามาอยู่ใน Time zone ผู้มีอันจะกิน
โรงงานจ้างราคาถูก ต้องยกเลิกกิจการไป