อนุทินล่าสุด


ธีรกานต์
เขียนเมื่อ

ปรัชญา คือ อะไร?

         เรียนมาก็นานจนศึกษาสำเร็จเสร็จสิ้น ยังแปลกใจ และสงสัยในวิชาแห่งปรัชญา  วันหนึ่งเดินผ่านคนแปลกหน้าผู้หนึ่ง  เค้าถามว่า

          ข้ารู้มาว่าท่านจบปรัชญามา  ท่านรู้มั๊ยว่าปรัชญาคืออะไร?  

          อืม....นั่นสินะ ตั้งแต่ข้าจบมาก็ไม่เคยมีใครถามข้าเลย  

         คนแปลกหน้าคนนั้นไม่ได้แปลกใจ  เขายิ้มเล็กน้อย ที่ไม่ได้คำตอบ  แต่เค้าเดินจากไปพร้อมกับส่ายศรีษะ  เหมือนไม่ได้สนใจอะไรมากมาย  เพราะสรุปว่าเค้าก็ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดี

         แต่ข้าพเจ้าสินอนไม่หลับทั้งคืน....

         คำถามนี้ทำให้รู้ว่าข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ศึกษามาก รู้เรื่องราวมากมาย  แต่คำถามง่ายๆ เช่นนี้  ช่างยากเสียนี่กระไร                       

         นั่นสินะ  แล้วเราก็มานั่งคิด แล้วปรัชญาคืออะไร เราเรียนปรัชญาทำไม แล้วเค้าเรียนปรัชญากันไปทำไม  ปรัชญาคือสุดยอดแห่งวิชา  แล้วทำไมปัจจุบันวิชาปรัชญาแทบจะไม่ได้รับความสนใจเหมือนในอดีต   ไม่รู้ว่าคุณคือคนหนึ่งที่เดินผ่านไปเห็นหน้าคนกลุ่มนี้แล้วสงสัยเช่นเดียวกันมั๊ยว่า   คนนี้เรียนปรัชญา  คนนี้สอนปรัชญา เค้าเรียนไปเพื่ออะไร?  เค้าเรียนกันไปทำไม?

       ในที่สุดข้าพเจ้าไม่รอช้ารีบค้นคว้าตำราร้อยแปดพันเล่ม เพื่อหาคำตอบว่าปรัชญาคืออะไร  นักปราชญ์ในโลกนี้มีมากมาย  เชื่อว่าทุกคนคงมีความหมายแล้วอยู่ในใจ  แต่วันนี้ข้าพเจ้าค้นพบแล้วว่าปรัชญาคืออะไร  และทำไมเค้าถึงเลือกเรียนปรัชญา

         ปรัชญา มีคำสำคัญ 3 คำ คือ ประเสริฐ  ไม่สิ้นสุด  แฝงเร้น

         ปรัชญา  คือ "ความรู้อันประเสริฐ  ไม่มีที่สิ้นสุด  และแฝงเร้นอยู่ใน   ทุกสิ่ง"

แล้วคุณหละ  รู้มั๊ยว่าปรัชญา คือ อะไร?



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ธีรกานต์
เขียนเมื่อ

         เสวนาวิชาการด้านวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาท้องถิ่นไทยให้ก้าวไกลสู่อาเซียน

                                               สรุปผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

                                                           โดย

                                                  ดร.ธีรกานต์  โพธิ์แก้ว

 

           การเปิดเสรีอาเซ่ียน หรือการรวมอาเซียนเป็นหนึ่ง  ตามวิสัยทัศน์ของกลุ่มประเทศอาเซียนที่จะก้าวเดินไปด้วยกันนั้น  ทำให้เกิดเป็นโรคติดต่อที่ตอนนี้ทุกองค์กรต้องฉีดวัคซีน คือ ต้องมีการอบรม จัดประชุมเรื่องอาเซียนเป็นการใหญ่  โดยเฉพาะหน่วยงานทางวัฒนธรรมของไทยที่คงจะต้องฉีดวัคซีนเข็มใหญ่กว่าทุกองค์กร  เนื่องจากหน่วยงานทางวัฒนธรรมจะต้องเป็นเสมือนประตูด่านแรกที่จะต้องรับศึกหนักในเรื่องนี้ด้วย  ประตูวัฒนธรรมของไทยจะต้องสวยงาม และแข็งแรง คือ สวยงามที่จะรับแขกบ้านแขกเมืองพร้อมที่จะรองรับผู้คนที่จะหลั่งไหลเข้ามาในประเทศ  แข็งแรงพอที่จะต้านทานวัฒนธรรมอื่นๆ ที่อาจจะเข้ามากลืนกลายวัฒนธรรมของชาติ  และโดยเฉพาะองค์กร  สถาบันการศึกษาต่างๆ ที่เป็นสถานที่ถ่ายทอดความรู้  จะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของภาษา และวัฒนธรรมเป็นพื้นฐานที่สำคัญ  กลยุทธ์ในด้านวัฒนธรรมไม่ต่างกับ กลยุทธ์ของซุนวู คือ รู้เขา  รู้เรา  แต่สำหรับวัฒนธรรมนั้น จะต้องรู้เราเสียก่อน แล้วค่อยรู้เขา  คือ รู้จักตนเองให้มาก แล้วค่อยเรียนรู้เพื่อนบ้านในอาเซียน  การเรียนรู้วัฒนธรรมของทุกชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญ  ซึ่งต้องรู้ด้วยว่า  แต่ละชาตินั้นเหมือน  แตกต่างกันอย่างไร  มีจุดแข็ง  จุดอ่อนอะไรบ้าง  หาจุดร่วมเพื่อสร้างความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรม  สำหรับประเทศไทยนั้นมีจุดแข็งในเรื่องภาษาที่อ่อนหวาน   วัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์  โดดเด่น  การคมนาคมที่สะดวก  ด้านการอาหาร (ครัวโลก) และอื่นๆ อีกมากมาย

        โจทย์สำคัญตอนนี้ คงต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยกันผลักดันให้เกิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในท้องถิ่น  เพื่อต่อยอดไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์  ยกตัวอย่าง  ในภาคอีสานตอนนี้มีจุดเด่นในเรื่อง ผ้าทอมือ  อาหารพื้นเมือง  สมุนไพร  สิ่งสำคัญคือการสืบค้นประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ค้นหาอดีต หาจุดเด่น  นำอดีตเหล่านั้นมาพัฒนาต่อยอด  การสืบค้นว่าท้องถิ่นมีอะไร  ต้องอนุรักษ์อะไร  ต้องการพัฒนาต่อยอดในเรื่องใด  เพื่อที่จะถ่ายทอดความรู้ และยกระดับอาชีพต่อไป

       สรุปแต่ละท้องถิ่นของไทยนั้นมีประวัติศาสตร์  เรื่องราว และทรัพยากรที่มีลักษณะโดดเด่นในแต่ละพื้นที่  การรักษาจุดด้อย  และพัฒนาจุดเด่น เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในเรื่องวัฒนธรรมสร้างสรรค์  ซึ่งเป็นฐานสู่การพัฒนาไปสู่ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์  การส่งเสริมพัฒนาเรื่องนี้จะเน้นการอนุรักษ์  ส่งเสริม และพัฒนาไปในตัว  ซึ่งเป็นเรื่องที่จะช่วยสร้างเสริมระบบฐานรากของชุมชนให้เข้มแข็ง  และเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเปิดประตูสู่อาเซียนในปี พ.ศ. 2558  สิ่งที่เราต้องมุ่งเน้น คือ รักษาสิ่งเดิม  เสริมสร้างสิ่่งใหม่  แก้ไขปัญหา  และการสร้างเสริมปัญญา  ให้กับชุมชน  เราต้องเน้นที่การสร้างระบบคิด ไม่ใช่เน้นการผลิต "ผลิตภัณฑ์"  เราต้องการมุ่งผลระยะยาว ไม่ใช่ผลระยะสั้นเฉพาะหน้าเท่านั้น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ธีรกานต์
เขียนเมื่อ

ผลการใช้เทคนิคการสอนแบบบูรณาการในชั้นเรียนโดยใช้สื่อตามสภาพจริง  ซึ่งเรียกกิจกรรม นี้ว่า "พภ 2 คนิ" (S3PS) เข้ามาใช้ในวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร  สรุปผลการเรียนรู้ผ่านการเขียนอนุทินของนักศึกษาสาขาพัฒนาชุมชน  มีดังนี้

          3.3.1  กิจกรรมการประสานเสียงร้องเพลง (Sing  Song)   เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน คลายเครียด  ทำให้ได้รับความบันเทิงทั้งผู้ร้องและผู้ฟัง  เป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์  เพราะการที่ได้ฝึกร้องเพลงภาษาอังกฤษทำให้ได้เสริมทักษะต่างๆ  ได้รู้ถึงเนื้อร้อง  ทำนอง  เพลงภาษาอังกฤษ  ได้รู้คำศัพท์เพิ่มเติมจากบทเพลง เพราะต้องร้องเพลงเป็นภาษาอังกฤษ  และแปลความหมายให้เพื่อนฟัง  ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก  สร้างความสามัคคีภายในกลุ่ม   ช่วยกันประสานเสียงร้องเพลง  ได้มีโอกาสร้องเพลงภาษาอังกฤษ

            3.3.2   กิจกรรมบรรเลงวาดภาพจิตแจ่มใส  (Picture)  กิจกรรมนี้ทำให้เกิดสมาธิ คลายเครียด ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง สนุกสนาน ได้ใช้จินตนาการ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์  ได้แสดงถึงความสามัคคีต่อเพื่อนใหม่ เน้นการทำงานเป็นทีม  มีการแบ่งงานกันทำ  เพราะแต่ละคนมีความถนัดแตกต่างกันไป  ได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน  ได้ฝึกฝนวาดภาพระบายสี  เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน  ส่วนประกอบของบ้าน  ของใช้ภายในบ้าน  สามารถฝึกพูดและท่องจำคำศัพท์ด้วยวิธีง่ายๆ ที่เกิดจากการเรียนรู้ภายในห้องเรียน

          3.3.3  กิจกรรมสนใจสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิต  (Product)  เป็นกิจกรรมที่ฝึกให้เป็นคนช่างสังเกต  ทำให้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ  มากขึ้น  เป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด  ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านสื่อผลิตภัณฑ์  รู้จักสรรพคุณ วิธีใช้ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ผ่านภาษาอังกฤษ  ทำให้ได้รับรู้คำศัพท์ใหม่จากการเรียนรู้ด้วยตนเอง

          3.3.4  กิจกรรมพูดคุยสักนิดกับสื่อบุคคล  (People) กิจกรรมนี้สร้างความตื่นเต้น ทำให้เกิดความกระตือรือร้น  เพราะต้องฝึกสัมภาษณ์  ฝึกความกล้าหาญ  กล้าพูด    กล้าแสดงออก  และต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี  เพราะต้องพูดสนทนาภาษาอังกฤษกับชาวต่างประเทศ  ได้ฟังสำเนียงชาวต่างประเทศ     ชาวต่างประเทศให้กำลังใจในการเรียน  เกิดมิตรภาพที่ดี  ได้เพื่อนใหม่  ทำให้รู้ว่าวัฒนธรรมไทยเป็นวัฒนธรรมที่สวยงามในสายตาชาวต่างประเทศ  โดยเฉพาะการไหว้  เป็นการสร้างประสบการณ์ชีวิตแบบใหม่  ทำให้เกิดความมั่นใจในการใช้ภาษา และอยากฝึกภาษาอังกฤษเพิ่มเติม

          3.3.5  กิจกรรมสนทนาภาษานิทาน  (Story)  ได้ฝึกการทำงานร่วมกัน  ฝึกจัดสรรงาน  ฝึกวาดภาพ  ใช้จินตนาการสูง  ฝึกการนำเสนอผลงานโดยการแสดงบทบาท   พร้อมทั้งต้องใช้ไหวพริบในการพูด  ฝึกการอ่านภาษาอังกฤษจากการเล่านิทาน  เกิดความสามัคคีภายในกลุ่ม  ได้คำศัพท์  ทำให้คนฟังเกิดความสนุก  และได้รับบทเรียนจากนิทาน  ทำให้มีทักษะการอ่านมากขึ้น

          3.3.6  ข้อเสนอแนะ  วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่นักศึกษาคิดว่ายาก  แต่จากการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่ผู้สอนจัดให้แก่นักศึกษา เป็นกิจกรรมที่ไม่ยาก ทุกกิจกรรมเน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง  ต้องผ่านการฝึกฝน เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจ  แรกๆ นักศึกษาจะเกิดความกลัวและไม่กล้า  แต่พอได้ฝึกบ่อยๆ  ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก  เพราะทุกกิจกรรมผู้สอนเน้นการฝึกทักษะหลายด้าน  เน้นการทำงานเป็นกลุ่ม  เพื่อส่งเสริมการทำงานเป็นทีม  ทำให้เกิดความสามัคคี  ทำให้นักศึกษาเกิดความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ  กล้าคิด  กล้าพูด  และกล้าแสดงออกทำให้รู้ว่านักศึกษาทุกคนควรต้องฝึกอ่าน  พูด  ฟัง  และเขียนภาษาอังกฤษให้ได้  เพราะต้องนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน  อยากให้มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบนี้ให้รุ่นน้องได้เรียนในรุ่นต่อๆ ไป เพราะเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน  ไม่น่าเบื่อ  พร้อมทั้งได้ฝึกทักษะภาษาอังกฤษ  แม้นจะต้องเจอกับอุปสรรคในการทำงานบ้าง  แต่ในที่สุดทุกคนก็ช่วยกันทำงานจนสำเร็จ



ความเห็น (2)

การสนทนาผ่านนิทานวันละนิดวันละหน่อย เป็นกระบวนการที่ทรงพลัง มีชีวิตมากทีเดียว ได้เรียนรู้คติชนวิทยาไปในตัว  ปลูกฝังความเป็นชาติพันธุ์แบบเนียนๆ

ชื่นชม ครับ

ขอบคุณมากเลยนะค่ะ สำหรับกำลังใจ

ธีรกานต์
เขียนเมื่อ

3.  ผลการใช้เทคนิคการสอนแบบบูรณาการในชั้นเรียนโดยใช้สื่อตามสภาพจริง ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต  สรุปผลจากการเขียนอนุทินของนักศึกษา

 

    3. 1  ผลการใช้เทคนิคการสอนแบบบูรณาการในชั้นเรียนโดยใช้สื่อตามสภาพจริง ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ของนักศึกษาสาขาการตลาด

         3.1.1  กิจกรรมการวาดภาพบ้าน  (Picture)  การได้ทำกิจกรรมเป็นกลุ่มชิ้นนี้ถืว่าเป็นงานที่ยาก  แต่ ทำให้ได้เรียนรู้ถึงความสามัคคีภายในกลุ่ม  ได้แลกเปลี่ยนความคิด  และการแบ่งหน้าที่ในการทำงานชิ้นนี้  ได้เรียนรู้คำศัพท์ทั้งภายในบ้านและนอกบ้านที่เราดำรงชีวิตอยู่เป็นประจำวัน  ได้รู้คำศัพท์เกี่ยวกับสิ่งของต่างๆ  ภายในบ้านมากยิ่งขึ้น  เพราะบ้านแต่ละส่วนจะแบ่งออกเป็นหลายๆ ห้อง  แต่ละห้องก็จะมีคำศัพท์ให้เรียนรู้มากมาย  ได้วาดภาพสิ่งของต่างๆ  พร้อมทั้งระบายสี  มีความสนุกสนานในการเรียน  มีความกล้าแสดงออก   คลายเครียด  และได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ  เมื่อผลงานออกมาทำให้รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ลงมือปฏิบัติ

         3.1.2  กิจกรรมการร้องเพลง (Sing  Song)  เป็นกิจกรรมเรียนรู้ที่ง่ายต่อการจดจำ ช่วยฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างชัดเจน  เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานมาก  เกิดความเพลิดเพลิน  ผ่อนคลาย  สร้างความพร้อมเพรียงเป็นหนึ่งเดียว  สามารถร้องเพลงสากลที่ออกเสียงให้ถูกต้อง  ทั้งจังหวะ  ทำนองที่ชัดเจน  และทำให้ได้เข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้น  ทำให้ได้มีประสบการณ์ในการร้องเพลงสากล  ทำให้มีความสัมพันธ์กับเพื่อนมากขึ้น  อีกทั้งยังทำให้ได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น

        3.1.3  กิจกรรมการสัมภาษณ์บุคคล  (People)  เป็นกิจกรรมที่ตื่นเต้นมาก  เป็นกิจกรรมที่ยากพอสมคร  เพราะต้องมีการสนทนา  แสดงท่าทางกิริยาต่างๆ  เพื่อที่จะชักชวนให้ชาวต่างประเทศได้มาให้ความร่วมมือในการสนทนา  ทำให้ได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างประเทศ ได้ฟังสำเนียงจากคนต่างประเทศอย่างใกล้ชิด  ลดความกังวลที่เกิดขึ้นภายในใจเพราะความกลัว ได้ฝึกความกล้าหาญ  กล้าแสดงออก  และที่สำคัญทำให้รู้ว่า “รอยยิ้ม” ของคนไทยมีเสน่ห์ต่อชาวต่างประเทศ

        3.1.4  กิจกรรมการเรียนรู้ผลิตภัณฑ์  (Product)  ทำให้ได้รู้จักสังเกตสิ่งใกล้ตัวจากที่เคยมองข้ามไม่เคยสังเกต  ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้ตัว แ ละใช้ทุกวัน  เมื่อได้เรียนรู้ทำให้ได้รู้จักยี่ห้อ  และรายละเอียดต่างๆ  ของผลิตภัณฑ์  เข้าใจความหมายของผลิตภัณฑ์  ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ  เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์  โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่อยู่ใกล้ตัว  ที่เคยใช้ในชีวิตประจำวัน  ได้เรียนรู้ทั้งในส่วนที่เป็นประโยชน์  ข้อควรระวัง  และวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์  เมื่อเข้าใจในผลิตภัณฑ์  จะทำให้ได้เรียนรู้ถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง

        3.1.5  กิจกรรมเกี่ยวกับการเล่านิทาน  (Story)  ทำให้ได้พัฒนาทักษะการเขียน  การอ่าน  การพูด  มีความคิดสร้างสรรค์สามารถทำให้เกิดการพัฒนาทักษะภาษาได้มาก  เป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อน ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม  แบ่งงาน  แบ่งหน้าที่  สร้างความสนุกสนานเฮฮาในการได้ระบายสี  ได้เล่าเรื่อง  แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน  และทำให้ได้จดจำการใช้ภาษา  ได้คำศัพท์ใหม่  และยังได้ข้อคิดจากนิทานอีกด้วย

        3.1.6  ข้อเสนอแนะทั่วไป   ควรมีการทบทวนบทเรียนที่ไม่เข้าใจ  หรือคำศัพท์ที่ยาก  ค้นคว้าเพิ่มเติม  สอบถามอาจารย์  และเพื่อนๆ  พร้อมทั้งพยายามแก้ไขปรับปรุงข้อบกพร่อง  อยากให้มีกิจกรรมแบบนี้อีก  เพราะสนุกสนาน  เป็นกิจกรรมที่ได้ฝึกทักษะการเรียนรู้หลายด้าน  ทุกกิจกรรมที่ผู้สอนได้ถ่ายทอดนั้นล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น  ทั้งในด้านทฤษฎี  ด้านปฏิบัติที่ได้เรียนรู้จริง  ที่สำคัญส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่เน้นฝึกความสามัคคีภายในกลุ่ม  ปัญหาในการเรียนบางครั้งก็มีบ้าง  เพราะบางกิจกรรมอาจจะยาก  แต่ทุกคนก็จะช่วยกันหาทางออกและทำงานได้จนประสบความสำเร็จ อยากให้อาจารย์สอนหลักไวยากรณ์มากขึ้น สรุปในภาพรวมแล้วรู้สึกภูมิใจมากที่ได้ทำกิจกรรม  ทำให้ได้รู้จักตัวเอง และรู้จักเพื่อนๆ  ได้เรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท