อนุทินล่าสุด


ปริญญา ผิวผ่อง
เขียนเมื่อ

ใกล้ถึงฤดูกาลปลูกผักหวานปา 2561 แล้วนะครับ ในทุกๆปี เมล็ดผักหวานป่า จะสุกในช่วงปลายเดือน เมษายน - ปลายเดือน พฤษภาคม

แต่ผู้ผู้สนใจปลูกส่วนใหญ่มักจะไม่วางแผนการปลูกตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะผักหวานป่านั้นช่วง 1-2 ปีแรกจะไม่ชอบแดดจัด ต้นผักหวานป่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มักจะเกิดและโตใต้ร่มเงาของต้นไม้ที่ใหญ่กว่าสูงกว่าในป่า ดังนั้นการปลูกผักหวานป่าในช่วงแรกจะต้องปลูกคู่กับต้นไม้อื่น ที่ให้ร่มเงาได้ แต่ถ้าไม่มีต้นไม้ชนิดอื่นๆคอยให้ร่มเงา ก็สามารถใช้สแลนพรางแสงให้แทนได้ 

การปลูกผักหวานป่าไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปถ้าหากเข้าใจหลักการเบื้องต้น เหนือสิ่งอื่นไดพื้นที่ปลูก แปลงปลูกต้องมีสภาพที่เอื้อต่อการเจริญเติบโต การเตรียมพื้นที่ปลูกผักหวานป่า ให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ  ถ้าหากพื้นที่ปลูกไม่มีต้นไม้ชนิดอื่นคอยให้ร่มเงา หรือที่นักปลูกผักหวานป่าเรียกว่า ไม้พี่เลี้ยง ก็ต้องมีการปลูกไม้พี่เลี้ยงรอก่อน ก่อนที่จะนำเมล็ดลงไปปลูก 


 



ความเห็น (1)

ต้นผักหวานป่าที่ปลูกกับต้นไม้พี่เลี้ยงที่เป็นต้น แค ต้นไม้พี่เลี้ยงสำคัญต่อผักหวานป่ามากๆ ถ้าไม่มีต้นไม้พี่เลี้ยงพรางแสงให้ต้นกล้าผักหวานป่าจะตายเยอะ ต้นไม้พี่เลี้ยงที่ดีต้องใบไม่ใหญ่แสงลอดผ่านได้ในประมาณที่เหมาะสม ใบใหญ่แสงลอดได้น้อยต้นผักหวานไม่ตายก็จริงแต่จะไม่โตด้วยเช่นกัน ดังนั้นปริมาณแสงที่พอดีจะทำให้ต้นผักหวา่นรอดตายและโตเร็ว  การปลูกผักหวานป่าหากเข้าใจนิสัยและธรรมชาติที่ถูกต้องแล้ว การปลูกผักหวานป่าจะเป็นเรื่องไม่ยากจนเกินไปเหมือนที่เขาเล่าว่าต่อๆกันมา 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ปริญญา ผิวผ่อง
เขียนเมื่อ

การปลูกผักหวานป่าด้วยเมล็ดงอกเหมาะสำหรับผู้ทีได้เมล็ดผักหวานป่าแล้วแต่ไม่สะดวกปลูกทันที เพาะเอาไว้รอเวลาที่สะดวก

การปลูกโดยการเพาะให้งอกก่อน วิธีนี้สามารถถ่วงเวลาได้ประมาณ 1-2 เดือนครับผม เพาะไว้โดยรดน้ำให้วันเว้นวัน รดพอชุ่ม อยู่ในตระกร้าเหรือกระบะเพาะรอไม้พี่เลี้ยงโตหรือรอฝนหรือเวลาที่สะดวกย้ายไปปลูก ถึงแม้จะเพาะไว้ 2 เดือนจนมีรากฝอยและมีใบเลี้ยงแล้วย้ายไปปลูกก็ยังรอด ขอให้หลุมปลูกเหมาะกับรากอ่อนก็รอดและโตได้

สำหรับการปลูกผักหวานป่า ไม่วาจะปลูกด้วย เมล็ดแห้ง เมล็ดงอก ต้นกล้า หรือกิ่งตอนนั้น การวางแผนการปลูกที่ดีจะทำให้รอดตายและดูแลง่าย



ความเห็น (3)

เทคนิค การปลูกผักหวานป่าด้วยเมล็ด การที่จะทำให้โตเร็วก็คือดินในหลุมปลูกจะต้องไม่แข็งจนเกินไป เพราะถ้าแข็งเกินไปรากก็ไปลำบาก หลุมปลูก ขุดให้ลึกและกว้างเท่าไหร่ก็ยิ่งจะทำให้รากไปไวเท่านั้น 

ขุดหลุมกว้างยาวลึก 30cm เป็นต้นไปจะกว้างลึกยาวกว่านี้ก็ได้ก็แล้วแต่พลังงานในตัวท่านครับหลังจากนั้นก็สับดินให้ร่วนซุยจะรองก้นหลุมหรือผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรย์อัดเม็ดไปในหลุมหรือไม่ผสมก็ได้ถ้าขี้เกียจก็ไม่ต้องก็ได้ครับถ้าผสมก็จะงามกว่าดินแบบธรรมดาเพราะมีอาหารเยอะกว่านั่นเองครับผม ไม่แนะนำให้นำปุ๋ยคอกเช่นขี้วัวขี้หมูหรือปุ๋ยหมักที่ยังไม่ย่อยสลายลงไปในหลุมด้วยนะครับเนื่องจากจะทำให้เมล็ดเน่าได้เนื่องจากเชื้อราและอุณภูมิในหลุมจะสูงเนื่องจากจุลินทรย์ย่อยวัสดุปลูกเหล่านั้นนั่นเองครับผมขณะที่ย่อยจะเกิดความร้อนครับผม ดินยิ่งซุยระบบรากก็ยิ่งพัฒนาเร็วครับผม ปุ่ยคอกใส่ได้แต่ไม่ควรรองก้นหลุม เอาใส่รอบหลุมด้านบนโดยไม่ใ้ห้โดนเมล็ดจะดีกว่า


 

ปลูกเมล็ดที่เพาะงอกแล้ว ยาวแค่ไหลก็ปลูกได้จะรากจะ 3cm หรือ 3 นิ้วก็ปลูกได้ อยู่ที่ท่านจะว่างปลูกหรือถ้ารอฝนชุกเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นครับผม

นำเมล็ดงอกที่เตรียมไว้ฝังในหลุมได้เลย

การจัดเรียงเมล็ดก็แล้วแต่ความชอบนะครับผมเรียงแบบนี้ความหมายดีเหมือนยันต์อ่ะครับจะได้กันตาย หุหุหุ

คลุมด้วยฟางข้าวหรืออะไรก็ได้ที่รักษาความชื้นให้เมล็ดได้ ใช้ขุยมะพร้าวสับ ใบไม้หรืออะไรก็ได้ที่เก็บความชื้นได้


แล้วก็มุงกันแดดให้สักหน่อย ใช้ส

แลมหรืออะไรก็ได้ที่กันแดดได้

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท