คิดไม่ผิดที่ฉันเลือกใช้ชีวิตหลังเกษียณที่ระยอง จะทำอะไรต่อมิอะไร แม้บางโอกาสจะมีข้อขัดข้องอยู่บ้าง แต่เมื่อบวกลบคูณหารแล้วดีกว่าอยู่ในเมืองหลวงหลายประการ อาหารการกินเอ่ย แหล่งช้อปปิ้งเอ่ย สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะด้านสุขภาพหรือประการอื่น อะไรที่กทม.มี ระยองมีหมด ในบรรยากาศและคุณภาพเท่าเทียม สิ่งที่ระยองมีน้อยกว่ากทม. เห็นจะเป็นเรื่องรถติด ไม่เท่าเทียมน่ะแสนวิเศษสุดชอบมาก
อย่างเช่นเมื่อตอนหัวค่ำที่ผ่านมา ไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ ฉันไม่ใช้รถ ไม่ว่ารถอะไรทั้งนั้น บ้านห่างจากวัดประมาณ ๘๐๐ เมตร เลือกเดิน... ขากลับ มีผู้อาสาขับรถมาส่งบ้าน ก็ขอบอกขอบใจผู้มีน้ำใจ บอกเขาไปว่า วันนี้งดไปเดินที่สวนสาธารณะเหมือนเช่นเคย ขอเดินกลับบ้านเอง "เอางั้นเลยเหรอลุง" ฉันรีบพยักหน้า ตอบรับ ...แล้วก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ถือเสียว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของการชีวิตอย่างเพียงพอ
เมื่อคืนตอนประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ ที่บ้านที่พรหมพิรามเกิดพายุฤดูร้อน มีลมพัดแรงมาก ๆ นับจากที่เกิดมาจะพบเจอไม่ค่อยบ่อยครั้งนัก แต่เมื่อคืนนี้ ลมพัด น่ากลัวมาก ๆ ขนาดเจ้าฟ้าครามกำลังร้องไห้เพราะงอแง ยังต้องหยุดร้อง เพราะเสียงลมพัดน่ากลัว ข้าวของด้านนอกบ้าน ปลิว กระจัดกระจายไปหมด...มีฝนตกบ้างแต่ไม่มาก...พอขับรถมาในตอนเช้า ผ่านทางแยกโปร่งนก + ท่าช้าง เห็นหลังคาบ้านเปิดหลายหลัง แถมมีต้นไม้ล้ม หักโค่นเยอะมาก ๆ และก็ได้ดูข่าวในตอนเย็น ช่อง 7 ยังออกรายการ แสดงว่าเมื่อคืนลมพัดแรงมาก ๆ...ขนาดข้าวที่ตั้งอยู่ยังล้มเป็นแนวราบเลย...(ความแรงของลม)...