การแก้ไขปัญกาหมอกควันต้องทำทั้งปีปัจจุบันสถานการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะด้านน้ำและป่าไม้ กำลังเผชิญปัญหามากมาย ทั้งการขาดแคลนน้ำใช้ในการเกษตร ภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำดื่มที่สะอาด น้ำบริโภคหล่อเลี้ยงชีวิต ไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

ปัญหาหมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการดับไฟเพียงอย่างเดียว และไม่ควรเป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของชาวเชียงใหม่ทุกคน เนื่องจากปัญหาหมอกควันเป็นตัวชี้วัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนและธรรมชาติตกอยู่ในสภาวะขาดสมดุล ดังนั้น การแก้ไขปัญหาหมอกควันอย่างยั่งยืนจะต้องเริ่มจากการที่ทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจ หันกลับมาสร้างธรรมชาติให้สมดุลสมบูรณ์อีกครั้ง“ปกติธรรมชาติมีกลไกในการดับไฟด้วยตัวเอง เมื่อไฟลุกไหม้ ไฟก็ดับลงด้วยความสมดุลชุ่มชื้นของธรรมชาติ ไม่ลุกลามสร้างหมอกควันไปทำความเดือดร้อนให้แก่คนในเมืองได้ โดยปกติป่าไม้ที่สมบูรณ์จะให้หมอกที่บริสุทธิ์แก่คนเมือง แต่ในวันนี้เมื่อมนุษย์ทำลายป่าไม้ ความชุ่มชื้นของป่าไม้หายไป ธรรมชาติก็ไม่สามารถดับไฟด้วยตัวเอง จึงเกิดเป็นควันออกไปทำลายเมือง ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาระยะสั้นที่ทำกันเป็นประจำคือการดับไฟ แต่ถ้าเรามัวแต่ดับไฟ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น แทนที่จะแก้ไขปัญหาระยะยาว เราอาจจะต้องไล่ดับไฟแบบนี้ทุกๆ ไฟก็จะไม่มีวันดับ แต่ที่จะดับลงไปก่อน อาจจะเป็นชีวิตของเราเอง”สำหรับฝายชะลอน้ำเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ก่อประโยชน์อย่างมากต่อระบบนิเวศน์และความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิต และเป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของกระแสน้ำและลำธาร ช่วยป้องกันการพังทลายของหน้าดิน ช่วยกักเก็บน้ำ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำหลายชนิด ช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนกักเก็บตะกอนต้นน้ำให้ใสสะอาด ทั้งยังช่วยสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินและทำให้ผืนป่าชุมชื้น ลดความรุนแรงจากไฟป่าดังกล่าว.*******